บทที่ 210 เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

แต่ว่าเจเทาวน์ก็เป็นคนที่สงบนิ่งมาก ถามย้อนอย่างไม่สะทกสะท้าน:“ประธานเทาเท่ นี่คุณพูดอะไร?ใครบ้างที่คบกันและไม่จริงจัง?”

เจเทาวน์รู้ว่าเขาหมายความว่าไง แต่ก็ยังจงใจอ้อมค้อมหลีกเลี่ยงคำถามสำคัญไม่พูดถึง

เทาเท่มองออกทันที เขาหงุดหงิดมาก ไม่อยากพูดจาเหลวไหลกับเจเทาวน์ที่นี่

เพราะว่าเขาเงยมองไปที่เจเทาวน์แล้วถามเสียงคมกริบ:“พวกคุณเคยจูบกัน?”

เจเทาวน์เลิกคิ้วขึ้น ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดี

เขากับหลินจือไม่เคยจูบกันอยู่แล้ว และแม้แต่มือก็ยังเคยจูงแค่ครั้งเดียว ตอนที่เข้าไปในห้องคนไข้ของแม่เขา

ถึงในใจเขาจะเห็นเธอเป็นแฟนจริงๆจังๆ อยากเอาใจเธออยากปกป้องดูแลเธออย่างดีแค่ไหน แต่ในใจหลินจือเห็นเขาเป็นเพื่อน เป็นเจ้านายที่บริษัท

ดังนั้น ถึงเขาอยากทำอะไรกับเธอมากกว่านี้ แต่ก็รู้ว่าในใจเธอไม่ยินยอม ดังนั้นทั้งสองจึงไม่เคยข้ามเส้นกันเลย

เห็นเจเทาวน์ไม่พูด เทาเท่ถามอย่างบีบบังคับไปว่า:“คุณกล้าจูบเธอต่อหน้าผมไหมล่ะ?”

เจเทาวน์ยกมือขึ้นกุมศีรษะ ยังคงอ้อมค้อมไปว่า:“ประธานเทาเท่ ผมกับเธอไม่ชินที่จะต้องชิดใกล้กันแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”

เทาเท่หัวเราะอย่างเยือกเย็น:“เธอไม่รักคุณ เธอจูบไปเธอต้องปฏิเสธแน่”

หลินจือเคยรักเขา ดังนั้นเขารู้ว่าตอนที่เธอจมอยู่ในความรัก จะจูบอย่างไร

ถ้าหลินจือไม่ปฏิเสธเจเทาวน์ที่จูบเธอ ถ้าหลินจือรักเจเทาวน์จริงๆ เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป

ยอมที่จะเดิมพันถึงแพ้ก็จะยอมรับ

เจเทาวน์รู้ว่าเทาเท่บีบเขาแบบนี้ทำไม เทาเท่สงสัยความสัมพันธ์ของเขากับหลินจือ ดังนั้นจึงบีบบังคับพวกเขาให้เปิดเผยออกมาด้วยวิธีนี้

แต่เขาจะเป็นคนที่ปล่อยให้เทาเท่ชักจูงได้ที่ไหนกัน ดังนั้นเขาจึงเก็บรอยยิ้มแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า:“ประธานเทาเท่ คุณพูดจาล้ำเส้นไปแล้ว ผมแนะนำให้คุณกลับบ้านไปอาบน้ำทำจิตใจให้สงบ”

เจเทาวน์พูดจบก็ก้าวเท้าไปกดออดประตูของหลินจือไม่อยากสนเทาเท่อีก

เทาเท่ในเวลานี้ เหมือนคนบ้าที่เสียสติ

ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก ก็คงไม่ทำแบบนี้

เสียงออดประตูดังรอให้หลินจือมาเปิดประตู เจเทาวน์หันหน้าเหลือบไปมองเทาเท่ ก็เห็นเขายังไม่กลับบ้าน ยืนตัวตรงกอดอกอยู่ที่เดิมอย่างนิ่งๆ รอดูหลินจือมาเปิดประตูให้เขา

เจเทาวน์คิดว่าเขาน่ารังเกียจเล็กน้อย และน่าสงสารหน่อยๆ

แต่เจเทาวน์ไม่อยากสนใจเขา แป๊บเดียวหลินจือก็มาเปิดประตู

เพราะว่าอากาศเย็นลง เธอจึงห่อตัวด้วยชุดนอนหน้าฟูสีขาวปรากฏตัวที่หน้าประตู

เห็นเป็นเจเทาวน์ตรงหน้าบ้านตัวเอง เธอก็ตกใจอย่างมาก:“ประธานเจเทาวน์ คุณมาได้ไง?”

เจเทาวน์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและเอาใจ:“ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะกลับมาเตรียมเปิดเครื่อง?เมื่อคืนนั่งไฟล์ทสี่ทุ่มกว่ากลับมา กลัวรบกวนเวลานอนคุณลยไม่ได้ติดต่อมา”

หลินจือเปิดประตูให้กว้างขึ้น:“รีบเข้ามาเถอะค่ะ”

“อือ”เจเทาวน์ตอบไป จากนั้นหันไปโบกมือให้เทาเท่ตรงด้านนอก พูดอย่างสบายๆว่า“ประธานเทาเท่ บ๊ายบาย”

หลินจือชะโงกหน้าออกมาอย่างตกใจ ก็เห็นเทาเท่ที่ทำหน้าเย็นชาอยู่

เขาน่าจะเพิ่งกลับมาจากวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า ที่ตัวยังมีชุดออกกำลังกายสีดำ

พอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เมื่อคืนอุณหภูมิลดลงสองสามองศากะทันหัน หลินจือตื่นเช้ามาก็รีบหาชุดอยู่บ้านหนาๆมาสวม ส่วนเทาเท่ที่อยู่ด้านนอกดันสวมแขนสั้นขาสั้น

เธอมองก็หนาวแล้ว มองแค่แวบเดียวหลินจือก็ชักกลับไปทันที ทำเป็นไม่เห็นเทาเท่ ยกมือขึ้นดึงเจเทาวน์เข้าไป รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว

เทาเท่โกรธมาก

เขายิ่งสงสัยความสัมพันธ์ของเธอกับเจเทาวน์มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องรีบหาทางให้พวกเขาพูดความจริงออกมา

ตั้งกลุ่มมาเล่นเกมความจริงหรือกล้าแบบนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เลว

ถึงตอนนั้นเธอเลือกความจริง ก็ถามเธอว่ารักเจเทาวน์หรือไม่

หลังจากเจเทาวน์กับหลินจือเข้าห้องไป เจเทาวน์เอาอาหารเช้าที่ตัวเองเอามายื่นให้หลินจือ:“ผมตื่นเช้ามาทำ”

หลินจือดีใจอย่างมาก:“ขอบคุณค่ะ ฉันยังไม่ได้กินอะไรพอดีเลย กินด้วยกันละกัน”

หลินจือพูดไปก็ไปห้องครัวหยิบจานชามออกมา ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องทานข้าวที่สว่างกินอาหารเช้าอย่างสบายๆ

เจเทาวน์เอาคำพูดที่เทาเท่พูดอยู่ข้างนอกมาพูดสรุปให้หลินจือ หลินจือเกือบสำลักโจ๊กในปาก

“เขาประสาทหรือเปล่า?”เทาเท่มาให้เจเทาวน์จูบเธอต่อหน้าเขาเนี่ยนะ หลินจือโกรธสุดๆ

เจเทาวน์ยื่นทิชชูให้เธออย่างใส่ใจ:“เขาต้องสงสัยความสัมพันธ์ของพวกเราแน่”

หลินจือส่งเสียงฮึดฮัด:“เขาสงสัยหรือไม่ พวกเราแค่ทำของเราไปก็พอแล้ว”

เจเทาวน์พูดอย่างรู้สึกผิด:“ขอโทษนะ ที่สร้างความยุ่งยากให้คุณ”

หลินจือรีบพูด:“คุณอย่าพูดแบบนี้สิ ยุ่งยากอะไรกัน?”

คิดถึงตรงนี้หลินจือก็พูดอย่างโมโหว่า:“คนที่สร้างความยุ่งยากให้ฉันคือเทาเท่โอเคไหมคะ”

เดิมทีเธอแค่ช่วยเจเทาวน์เฉยๆ แกล้งเป็นแฟนเขาให้แม่เขาสบายใจ ใครจะไปรู้ว่าเทาเท่เข้ามาพัวพันยุ่งกับเธอไม่จบไม่สิ้น จนทำให้ชีวิตของเธอยุ่งเหยิง

เจเทาวน์ไม่ได้อยู่บ้านของหลินจือนานมากนัก กินเสร็จก็ไปออกไป

อย่างแรกหลินจือนัดกับจอร์แดนแล้วว่าจะไปข้างนอก อย่างที่สองที่บริษัทก็ยังรอเขาให้ไปจัดการ

หลินจือเรียกรถ แล้วไปโรงแรมของจอร์แดนเพื่อไปรับจอร์แดน แล้วทั้งสองก็ไปที่ชานเมืองด้วยกัน

แม่บุญธรรมของหลินจือดึงดันจะฝังตัวเองที่ชานเมือง เพราะไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวกับชาร์ลี ถ้าเธอไม่ป่วยแล้วตายกะทันหัน หลินจือคิดว่ายังไงเธอก็จะขอชาร์ลีหย่า

จอร์แดนซื้อดอกไม้มาช่อหนึ่ง โค้งคำนับที่หน้าหลุมศพแม่บุญธรรมหลินจืออย่างเคร่งขรึม

ถ้าไม่มีเธอ บางทีอาจจะไม่มีวันนี้ของลูกสาวเขาแล้ว

ถึงแม้สองพ่อลูกชาร์ลีจะไว้ใจไม่ได้ แต่แม่บุญธรรมหลินจือคนนี้จริงใจกับหลินจือมาก สนับสนุนให้หลินจือเรียนหนังสือมาตลอด

จอร์แดนได้ยินหลินจือเคยพูดว่า ชาร์ลีไม่อยากให้เธอเรียนต่อตั้งนานแล้ว อยากให้เธอออกไปทำงานช่วยที่บ้านหาเงิน แต่แม่บุญธรรมเธอยืนหยัดหลินจือจึงมีโอกาสเรียนถึงมหาวิทยาลัย

ทั้งสองกราบเคารพแม่บุญธรรมของหลินจือเสร็จ ก็เดินเที่ยวรอบๆ

อากาศทางชานเมืองดีและสวยงาม ไม่ได้เจอบ่อยๆ เลยต้องเดินเล่นสักหน่อย

จอร์แดนอยู่เมืองเจสเวิร์ดนานมากไม่ได้ ดังนั้นเขาเลยทะนุถนอมช่วงเวลาที่อยู่กับหลินจือ

ก่อนฟ้ามืดทั้งสองนั่งรถกลับเมืองเจสเวิร์ด สุดท้ายระหว่างทางหลินจือได้รับสายของนานิ บอกว่าเธอกับจอร์แดนขึ้นฮอตเสิร์ช และเนื้อหาไม่ดีด้วย

หลินจือสาวสายเสร็จเข้าเวยป๋อทันที จึงเห็นว่ามีคนสร้างข่าวว่าเธอกับจอร์แดนมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกัน เธอถูกด่าอย่างแรงจนน่าสังเวช

ต้องรู้ว่าเมื่อคืนเธอเพิ่งเผยโฉมและขึ้นฮอตเสิร์ช คนจำนวนมากชมว่าเธอสวยดูดีและเก่ง

หัวข้อข่าวคือ:ที่แท้นักเขียนบทสาวสวยก็ไต่เต้ามาแบบนี้ เนื้อหาข้อความด้านล่างบอกว่าเธอใช้ความสวยเข้าหาจอร์แดน จึงมีโอกาสได้เขียนบทละครหนังสือเล่มใหม่ของจอร์แดน

ไม่ใช่แค่นี้ บทความนี้ยังตำหนิประชดประชันจอร์แดนอย่างแรง บอกว่าเขาที่มีภาพลักษณ์ผู้ชายที่ดีมาตลอดหลายปีนี้ล้วนแต่เสแสร้ง ที่จริงแล้วชีวิตส่วนตัวของเขาก็เละเทะสุดๆ