แดนนิรมิตเทพ บทที่ 551
มองดูโลงศพหยกขาวตรงหน้า ทุกคนไม่สงสัยในคำพูดของหยวนชิงซานอีกต่อไป

“ผมบอกแล้วว่ามันเบามาก” หยวนชิงซานพูดอย่างผู้บริสุทธิ์

แต่ว่า ในเวลานี้ไม่มีใครสนใจแล้วว่าทำไมโลงศพนี้ถึงได้เบาเช่นนี้? ภายในใจของทุกคน ต่างก็กังวลว่าภายในโลงศพ มีสมบัติล้ำค่าอะไรกันแน่

“รีบเปิดมันเร็ว ดอกฮิกันบานะต้องอยู่ในโลงศพนี้แน่นอน!” ไช่เหวินหย่าพูดกับบอดี้การ์ดทั้งสองคนอย่างร้อนใจ

บอดี้การ์ดทั้งสองเดินเข้าไปอย่างหวาดกลัว แล้วออกแรงยกฝาโลงไว้ เป็นอย่างที่หยวนชิงซานพูดจริงๆ โลงศพนี้เบาเหมือนกับว่าไร้น้ำหนัก

เมื่อฝาโลงเปิดออก ทุกคนต่างก็ชะโงกหน้ามองดู จากนั้นทุกคนต่างก็ตกใจอ้าปากค้าง

ภายในโลงศพหยกขาว มีหญิงสาวสวยงามที่สวมใส่มงกุฎ สวมเสื้อผ้าแดนตะวันตกโบราณ และมีสมบัติล้ำค่าวางอยู่เต็มร่างกาย เธอกำลังนอนอยู่อย่างเงียบสงบ

ผิวพรรณของเธอขาวอมชมพู ขนตาที่ยาวสง่าพาดอยู่บนดวงตา ไม่ต่างอะไรกับคนมีชีวิต

“นี่มันไม่เป็นหลักวิทยาศาสตร์เลย!”

“คนที่ตายไปกว่าสองพันปี ทำไมถึงได้รักษาไว้ได้อย่างดีเช่นนี้ละ?” ไช่เหวินหย่าอุทานอย่างไม่เข้าใจ ถึงขั้นลืมเรื่องการมาตามหาดอกฮิกันบานะไปแล้ว

เฉินโม่เองก็ขมวดคิ้ว สีหน้านึกคิดวิเคราะห์

“อ๊า!”

ทันใดนั้น ไช่เหวินหย่าก็เข้าไปเกาะแขนของเจี่ยงไต้ซือไว้ กรีดร้องอย่างหวาดกลัว “หล่อน หล่อนฟื้นแล้ว! หล่อนฟื้นแล้ว! เมื่อกี้ฉันเห็นหล่อนลืมตาขึ้นมาแล้ว!”

ที่จริงแล้วไม่ต้องรอให้ไช่เหวินหย่าพูด ในเวลานี้ราชินีจิงเจวี๋ยที่เดิมทีนอนอยู่ในโลงศพอย่างเงียบสงบ ตอนนี้ได้ลอยออกมากลางอากาศแล้ว

หญิงสาวคนนั้นสวยงามมาก สวยงามจนทำเอาหยุดหายใจ

“รบกวนข้าพักผ่อน พวกเจ้าก็อยู่ที่นี่ซะเถอะ!”

น้ำเสียงเย็นยะเยือก ดังขึ้นให้ทุกคนได้ยิน

ตามด้วย แท่นหินใต้เท้าของทุกคนสั่นสะเทือน และทั่วทั้งพระราชวังใต้ดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“แย่ละ ที่นี่จะถล่มแล้ว!” เจี่ยงไต้ซือกรีดร้องอย่างหวาดกลัว

“คุณหนู รีบถอยหนีครับ!”

เจี่ยงไต้ซือดึงไช่เหวินหย่าไว้ ทุกคนรีบร้อนถอยหนี

เฉินโม่มองดูราชินีจิงเจวี๋ยที่ลอยอยู่บนอากาศ คิ้วขมวดเล็กน้อย แต่เดี๋ยวที่นี่ก็จะถล่มแล้ว เฉินโม่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ถอยหลัง

“เร็ว เมื่อกี้มีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง พวกเรารีบเข้าไปหลบเร็ว!” หยวนชิงซานชี้ไปยังถ้ำแห่งหนึ่งบนกำแพงสีดำ

ทุกคนรีบเข้าในถ้ำ แล้วเดินตรงไปตามทางเดินในถ้ำ จนถึงด้านในที่ไม่มีการสั่นสะเทือน ทุกคนถึงได้โล่งใจลง

“พระราชวังใต้ดินถล่ม ดอกฮิกันบานะจะถูกฝังอยู่ในนั้นหรือเปล่าคะ?” ไช่เหวินหย่าพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ

เจี่ยงไต้ซือถอนหายใจ เงียบไม่พูดอะไร

“ไม่ได้ ฉันต้องกลับไปดู!” ไช่เหวินหย่าหันหลังวิ่งกลับไปอย่างไม่ตายใจ

“คุณหนูครับ กลับมา!” เจี่ยงไต้ซือตะคอก

ไม่ต้องรอเจี่ยงไต้ซือมาขวาง ไช่เหวินหย่าก็หยุดฝีเท้าลง เพราะว่าทางเดินที่มาเมื่อกี้นี้ถล่มแล้ว และตอนนี้ก็ได้ถูกปิดทางไปแล้ว

“คราวนี้ลำบากละ พวกเราถูกขังไว้ด้านในนี้แล้ว!” ไช่เหวินหย่าพูดอย่างตกใจ

“พวกเราเดินตรงไปข้างหน้า ดูว่าถ้ำทะลุไปถึงที่ไหน?” เจี่ยงไต้ซือพูด

“ทำได้แค่อย่างนั้นแล้วละค่ะ” คราวนี้ไช่เหวินหย่าถึงได้ตายใจ แล้วเดินตามเจี่ยงไต้ซือไป

เดินตรงไปอีกไม่นาน ภายในถ้ำก็กว้างขวางมากขึ้น ภายหน้าของทุกคนมีห้องหินที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง

“นั่นคือ…ดอกฮิกันบานะ! ฮ่าๆ ที่แท้ดอกฮิกันบานะก็อยู่ที่นี่ ในที่สุดฉันก็หาดอกฮิกันบานะเจอจนได้!” ไช่เหวินหย่ากระโดดโลดเต้นขึ้นมาเหมือนบ้าไปแล้ว ชี้ไปที่ด้านหน้า ตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้นดีใจ

หยวนชิงซานเองก็สีหน้าตื่นเต้น แววตามองดูด้านหน้าอย่างเป็นประกาย “เครื่องราง เครื่องรางเยอะแยะมากมาย!”

เจี่ยงไต้ซือเองก็สีหน้าตื่นเต้นดีใจ ตื่นเต้นจนมือสั่น “นั่นคือวิชาฮวงจุ้ยเฉียนเทียนที่ฉันใฝ่ฝันหา ไม่คิดเลยว่าจะมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่!”

พระภิกษุสำนักลับทั้งสามเองต่างก็แววตาอึ้งตะลึง แล้วก็ท่องบทสวดออกมา “คัมภีร์ฝ่าเอี๋ยน คัมภีร์ฟ่านเทียน พวกนี้ล้วนเป็นตำราโบราณที่หายสาบสูญไปนานแล้ว!”

บอดี้การ์ดพวกนั้นที่ไช่เหวินหย่าพามาถึงขั้นน้ำลายไหลออกมา “สมบัติ สมบัติมากมากมาย คราวนี้รวยแน่!”

เฉินโม่ไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง แต่ในเวลานี้เองก็ตกเขาสู่ภวังค์ เพราะภายในห้องหิน มีหญิงสาวสวยงามผมยาวสวมชุดโบราณหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่ด้านใน