ตอนที่ 977 แช่นํ้ายา

Elixir Supplier

977 แช่นํ้ายา

เมื่อทําถังแช่น้ำยาเสร็จแล้วก็เหลืออีกแค่ไม่กี่อย่างที่ต้องเตรียม

ซูเสี่ยวซวีรู้สึกตื่นเต้นกับการที่เธอได้ช่วยงานเพราะเธอไม่เคยทําเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งเธอจึงสนุกกับงานนี้มากถาม

พวกเขาใช้เวลาหนึ่งวันครึ่งในการทําถังแช่น้ำยาและอุปกรณ์อื่นๆ

“เราแค่ต้องนั่งอยู่ในนั้น เติมยาลงไปในถัง แล้วก็จุดไฟใต้ถังเท่านั้นเองเหรอคะ?”ซูเสี่ยวซ

“นั่นเป็นกระบวนการคร่าวๆเท่านั้น”หวังเย้าพูด“ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทํา”การแช่น้ำยานั้นยังต้องมีความรู้ในเรื่องของการใช้ยาและเทคนิคการรักษาด้วยทั้งยังต้องพิจารณาเรื่องของสูตรยาที่ใช้,อุณหภูมิ,สภาพร่างกายของคนไข้,ไอน้ำ,การเดือดหรือแม้แต่ การปรุงมันไม่ใช่แค่การให้คนไข้เข้าไปนั่งในถังแล้วทุกอย่างก็เป็นอันเรียบร้อย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะคอยดูอยู่ข้างๆนะคะ”ซูเสี่ยวซวีพูด

“ได้สิ” หวังเย้ายิ้มตอบ

ภายในหุบเขาพันโอสถที่ห่างออกไปหลายพันไมล์

เดี่ยวเจิ้งหนานที่กลับมาจากเขตเหลียนชานได้ไม่นาน ในที่สุดเขาก็หายดีแล้ว“ผู้นํา”

“เป็นยังไงบ้าง?” เมี่ยวซีเหอถาม“ยังรู้สึกไม่สบายที่ตรงไหนอีกไหม?”

“ไม่มีแล้วครับ ผมสบายดี”เดี๋ยวเจิ้งหนานตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” เมี่ยวซีเหอพูด

หลังจากที่เขาพูดจบไปไม่นานเมี่ยวชิงเฟิงก็เดินเข้ามา

“ผมขอตัวก่อนนะครับผู้นํา”เมี่ยวเจิ้งหนานพูด

“อืม ไปพักผ่อนเถอะ” เมี่ยวซีเหอตอบ

“ผู้นําต้องการให้ผมทําอะไรเหรอครับ?”

“ให้คนไปตรวจสอบดูที่หมู่บ้านนั้นที” เมี่ยวซีเหอพูด “เขาไม่น่าจะใช่คนจากหุบเขาของเรา”“ผู้น่าหมายถึงหมู่บ้านเล็กๆทางเหนือที่หวังเย้าอยู่ใช่ไหมครับ?”เมี่ยวชิงเฟิงถาม

“ใช่แล้ว”

เมี่ยวซีเหอได้รู้เรื่องเกี่ยวกับหมอคนนั้นมาแค่ไม่กี่เรื่องชายหนุ่มคนนั้นเป็นหมออายุที่มีชื่อเสียงอยู่ในหมู่บ้านและเขามีฝีมือการรักษาที่ยอดเยี่ยมชื่อเสียงของเขากระจายออกไปทั่วเขายังมีคนไข้หลายคนที่เดินทางไกลเพื่อมารักษากับเขาเมี่ยวซีเหอเพิ่งได้รับรู้เรื่องราวของหมอหนุ่มที่

อยู่ทางเหนือคนนี้มาได้ไม่นานพื้นที่แถบนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งในอาณาเขตของเมี่ยวซีเหอทําให้คน

ของเขารวบรวมข้อมูลมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ได้ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เมี่ยวชิงเฟิงพูด

บนเนินเขาหนานชานที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆทางภาคเหนือที่ห่างออกไปหลายพันไมล์

ไอน้ำลอยออกมาจากหม้อต้มยากลิ่นสมุนไพรลอยอวลไปทั่ว

หวังเย้ากําลังต้มยาอยู่ภายในกระท่อม

ฟีนกําลังลุกไหม้ ยาภายในหม้อต้มกําลังเดือดปุดๆ หวังเข้าได้สกัดสมุนไพรออกมาหลายชนิดและใส่รวมลงไปในหม้อต้มยา

หวังเย้าไม่จําเป็นต้องดูสีของตัวยาเพียงแค่ดมกลิ่นเขาก็สามารถบอกได้แล้วว่าตัวยาได้ที่แล้วหรือจําเป็นต้องใส่ฟืนเพิ่มเข้าไป

“เชียนเชิงกําลังทํายาอะไรอยู่เหรอคะ?”ซูเสี่ยวซวีถาม

“สรรพคุณหลักของมันคือการบํารุงร่างกายและสมุนไพรอีกสองตัวจะช่วยเรื่องของการเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น”หวังเย้าพูด

ครั้งล่าสุดที่พวกเขาได้พบกันที่ปักกิ่งชายหนุ่มจากตระกูลเหอนั้นป่วยหนักมากการที่เขาป่วยด้วยโรคนี้หมายถึงการที่เขาต้องนอนอยู่บนเตียงแทบจะตลอดเวลาถ้าเขาลุกขึ้นนั่งเขาก็ไม่สามารถขยับตัวได้มากนักสิ่งมีชีวิตจําเป็นต้องขยับเนื้อตัวเพื่อให้รู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่หากคนคน

หนึ่งต้องถูกจํากัดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานานก็จะทําให้การไหลเวียนโลหิตแย่ลงและเกิดการอุดตันของหลอดเลือดตามส่วนต่างๆของร่างกาย มันจะทําให้ผู้ป่วยรู้สึกเซื่องซึมซึ่งส่งผลเสียต่อ สุขภาพของพวกเขาได้เด็กหนุ่มจําเป็นต้องได้รับการบํารุงร่างกายก่อนเป็นอันดับแรกตัวยาที่ใช้จึงมีสมุนไพรหลักอยู่สองชนิด

หวูเถิง เสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและเส้นเลือด

เตี่ยเหม่ย ที่ดูคล้ายกับดอกบ๊วยที่ทําขึ้นมาจากเหล็กมันช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นเอ็นและกระดูก

สมุนไพรวิเศษทั้งสองชนิดนี้มีไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายนั้นเป็นสิ่งสําคัญที่สุด

เพราะปัญหาของเด็กหนุ่มนั้นอยู่ที่กระดูกของเขา

และพลังวิญญาณก็มีส่วนสําคัญเช่นเดียวกันมันเป็นสิ่งที่หาได้ยากจากโลกภายนอกแต่มีอยู่บนเนินเขาหนานชานหวังเข้าสามารถดึงพลังวิญญาณจํานวนหนึ่งใส่ลงไปในตัวยาได้ซึ่งมันมีส่วนสําคัญต่อการรักษาเช่นเดียวกัน

“โรคของเขารักษาได้ยากมากไหมคะ?” ซูเสี่ยวซวีถาม

“ยากสิ แล้วยังต้องใช้เวลานานมากด้วย”หวังเย้าตอบ

สําหรับการแพทย์สมัยใหม่นั้นโรคนี้ถือได้ว่าอยู่ในกลุ่มของอาารป่วยระยะสุดท้ายเพราะมันไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายได้ มันต่างจากเนื้อร้ายที่กระจายได้รวดเร็วและกัดกินชีวิตของผู้ป่วย ส่วน รคนี้ไม่มีการแพร่กระจายแต่อย่างใดแต่มันก็ทําให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาได้

ตลอดชีวิต พวกเขาอาจจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้นาน

“ขอแค่ยังมีความหวัง ไม่ว่าต้องรอนานแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”ซูเสี่ยวซวีพูด

เธอนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอต้องนอนติดเตียงเป็นเวลาหลายปีเธอต้องจมอยู่กับความทุกข์

ทรมานมากกว่าเด็กหนุ่มหลายเท่าแต่เธอก็ผ่านมาได้เหมือนกับผีเสื้อที่โผล่พ้นออกมาจากรัง

ไหมตอนนี้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างที่เธอในเมื่อก่อนไม่กล้าแม้แต่จะคิดฝัน

เธอเชื่อว่าเด็กหนุ่มก็ต้องผ่านมันไปได้เหมือนกัน

หวังเย้าใช้เวลาช่วงเช้าไปกับการต้มยาเพียงแค่หนึ่งชนิด มันคือช่วงเวลาที่สําคัญที่สุดเป็นช่วงเวลาที่พลังวิญญาณและพลังหยางเข้มข้นมากที่สุดของวัน

“เรียบร้อย”

หวังเย้าเทยาใส่ลงไปในขวดกระเบื้อง

หลังจากผ่านช่วงปีใหม่มาได้แปดวันก็เริ่มมีคนไข้มาที่คลินิกมากขึ้นเรื่อยๆ

รถป้ายทะเบียนปักกิ่งสองคันขับเข้ามาในหมู่บ้านในตอนเช้า

มีคนลงมาจากรถ พวกเขาเดินเข้าไปในคลินิกพร้อมกับถือของสองสามอย่างติดมือไปด้วย

“หมอหวัง เสี่ยวซ

“สวัสดีค่ะ คุณป้า”ซูเสี่ยวซวีทักทายอีกฝ่ายอย่างร่าเริง

“สวัสดีครับเชิญนั่งครับ”

เด็กหนุ่มยังคงมีท่าทางเซื่องซึมและใบหน้าซีดเซียวตั้งแต่ที่เขาเริ่มป่วยครอบครัวของเขาก็เสาะหาวิธีการรักษาไปทั่วทุกที่ แล้วเปลวไฟแห่งความหวังในใจเขาก็เริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆเขาไม่กล้าออกกําลังกายที่ต้องใช้แรงมากแม้แต่การวิ่งหรือกระโดดเขาก็ไม่ทํา เพราะเพียงแค่การสะดุดล้มเบาๆก็สามารถทําให้กระดูกของเขาแตกได้แล้วเขาเป็นเหมือนกับดอกไม้ที่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับความโหดร้ายของโลกภายนอกได้และต้องหลบซ่อนตัวอยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่สามารถเป็นเกราะกําบังคุ้มภัยให้กับเขาเขาพบว่าการใช้ชีวิตแบบนี้นั้นไร้ความหมายและเขาทนมามากพอแล้ว ตอนนี้เขาเห็นเพียงความตายเท่านั้นที่จะสามารถปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระได้

หวังเย้าตรวจดูร่างกายของเด็กหนุ่มอย่างละเอียด

“อืม เขาดีขึ้นกว่าครั้งก่อนที่เจอกันนะครับ”เขาพูด

“จริงเหรอ? ผมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย”เด็กหนุ่มพูดแทรก

“เสี่ยวรุ่ย” แม่ของเขาที่อยู่ด้านหลังเอ่ยเรียกชื่อเขา

“ไม่เป็นไรครับ”หวังเย้ายิ้ม“อาการที่ดีขึ้นแค่เล็กน้อยมันยากต่อการสังเกตอยู่แล้ว”

“คุณจ้าว ผมอยากอธิบายรายละเอียดของการรักษาให้คุณได้รู้ก่อนที่เราจะมาเริ่มการรักษากัน” หวังเย้าพูด

“ได้สิคะ หมอหวัง”

หวังเย้าบอกแผนการรักษาที่เขาได้ร่างเอาไว้กับหญิงวัยกลางคน

“ได้ค่ะ เราจะทําทุกอย่างเท่าที่เราพอจะช่วยได้”เธอพูดหลายปีที่ผ่านมาเธอเดินทางไปมาหลายที่เพื่อหาทางรักษาลูกชายของเธอ พวกเขาได้พบเจอแพทย์ที่มีชื่อเสียงหลายคนหากเราได้ใช้เวลาอยู่กับผู้ป่วยนานพอหรือตัวเราที่ป่วยมานานเราก็จะเริ่มรู้ในเรื่องของการรักษาและการใช้ยาดังนั้นตัวเธอเองจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับการรักษาพอสมควรแต่แผนการรักษาที่หวังเย้าอธิบายให้ฟังนั้น เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

“เอาล่ะครับเรามาเริ่มรักษากันเช้านี้เลย”หวังเย้าพูด“การรักษาของลูกชายคุณต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จนะครับ”

“เรารอได้ค่ะ” เธอตอบ

“ดีครับ”

หวังเย้าเดินออกไปเตรียมยาสําหรับการแช่น้ำยาเขาเทสมุนไพรจํานวนมากลงไปในถังตามสัดส่วนที่วางเอาไว้น้ำที่ใช้เป็นน้ำที่ตักมาจากเนินเขาตงชาน มีการเติมน้ำแร่โบราณลงไปผสมเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มต้มน้ำให้เดือด

“มา ดื่มนี่ก่อนนะ” หวังเย้าเอายาให้เด็กหนุ่มดื่มไปหนึ่งถ้วยหลังจากได้รับยามาเด็กหนุ่มก็ดื่มยาลงไปโดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย

หลายปีที่ผ่านมา เขาได้ใช้ยามาแล้วแทบทุกแบบทั้งยาเม็ด,ยาน้ำ, หรือยาแบบแผ่นแปะเขาได้กินยามาหลายชนิดจนคุ้นเคยกับรสชาติของมันเป็นอย่างดี

ยาในถ้วยใบนี้ค่อนข้างอุ่นและไม่ได้มีรสชาติแปลกจนกินไม่ได้

“เอาล่ะ ทีนี้ก็นอนลง” หวังเย้าพูด

เด็กหนุ่มนอนลง หวังเย้าใช้วิธีการพิเศษในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและกดตามจุดต่างๆก่อนที่จะทําการฝังเข็ม

เขาไม่มีการลังเลเมื่อต้องแทงเข็มลงไปเขาแทงเข็มลงไปและหมุนปรับองศาของมัน มีเพียง ที่เรียนมาเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่าเขากําลังทําอะไรอยู่สําหรับสิ่งที่เขากําลังทําอยู่นี้มี

เพียงแพทย์แผนจีนประสบการณ์สูงเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่าการฝังเข็มของเขานั้นยอดเยี่ยม
แค่ไหน

“เอาล่ะ ได้เวลาแช่น้ำยาแล้ว” หวังเย้าพูด

น้ำยาในถังค่อนข้างร้อน

“โอ๊ย!” เด็กหนุ่มคิ้วขมวดเมื่อลงไปแช่ตัวในถัง

มันร้อนมาก

“ทนหน่อย อุณหภูมิอาจจะสูงแต่มันจะไม่ส่งผลเสียกับร่างกายของเธอ”หวังเย้าจุ่มมือลงไป

และวัดอุณหภูมิดู

“อืม” เด็กหนุ่มพยักหน้า

“ท่าต่อไป”
“น้ำครับ” หวังเย้าพูด “ให้เขาดื่มน้ำทุกๆ 10 นาทีนะครับ”

“ได้ค่ะ ฉันจัดการเอง” หญิงวัยกลางคนพูด

หวังเย้าปรับอุณหภูมิของน้ำอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่ามันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและทําให้การ รักษามีประสิทธิภาพสูงสุดการแช่น้ำยานั้นต้องใช้เวลานาน มันต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการแช่แต่ละครั้งตลอดทั้งวันเขาจึงรักษาแค่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้น การรักษาของพวกเขาจบลงเมื่อใกล้ถึงเวลาสี่โมงเย็น

“เอาล่ะ การรักษาครั้งแรกเสร็จสิ้นแล้ว” หวังเย้าพูด “ครั้งต่อไปเป็นอีกสามวันข้างหน้านะครับ”

“ได้ค่ะ” หญิงวัยกลางคนพูด

เธอได้เตรียมที่พักเอาไว้สําหรับทุกคนตั้งแต่ก่อนจะมาที่นี่แล้ว พวกเธอสองแม่ลูกจะใช้เวลา

อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ไปอีกระยะหนึ่งพวกเขาจะไม่กลับไปปักกิ่งจนกว่าอาการของเด็กหนุ่มจะดีขึ้น

“ขอบคุณนะคะ หมอหวัง”หญิงวัยกลางคนพูด

“ไม่เป็นไรครับ”

วิธีการรักษาที่ไม่เหมือนคนอื่นแบบนี้ย่อมมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วยเพราะหวังเย้านั้น

ไดใช้สมุนไพรวิเศษไปถึงห้าชนิดด้วยกัน

ประสิทธิภาพของตัวยานั้นสูงมากหลังแช่น้ำยาเสร็จแล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกอุ่นมากมันเป็นความอุ่นที่รู้สึกได้จากทั้งภายนอกและภายใน มันทําให้เขารู้สึกราวกับกําลังยืนอยู่ภายใต้สายลมที่อบอุ่นอย่างไรอย่างนั้น