ตอนที่ 978 น่าสนใจ

Elixir Supplier

978 น่าสนใจ

เมื่อพวกเขาขึ้นนั่งบนรถหญิงวัยกลางคนก็เอ่ยถาม“เสี่ยวรุ่ยลูกรู้สึกยังไงบ้าง?”เด็กหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า“ก็ดีนะครับ”

“หา!?” หญิงวัยกลางคนตกตะลึง

“ผมพูดจริงๆ” เด็กหนุ่มพูด“ตอนนี้ผมรู้สึกดีจริงๆผมรู้สึกอุ่นไปทั่วทั้งตัวและดูเหมือนเริ่มจะมีแรงขึ้นมานิดหน่อยแล้วด้วย”
“ดี! ดี! ดีมาก!”หญิงวัยกลางคนดีใจที่ได้ยินแบบนั้น

“หมอหวังเก่งจริงๆ”

พวกเขาเข้าพักในที่พักที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในเขตเหลียนชาน

เด็กหนุ่มนอนอยู่บนเตียง แต่เขาไม่รู้สึกง่วงเลยถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อย แต่ในหัวของเขาก็มีหลายเรื่องให้คิดเขาได้พบเจอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาแล้วหลายคนและตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เขาได้รับการรักษามาแล้วหลากหลายรูปแบบไม่มีใครรู้จักอาการป่วยของเขาดีไปกว่าตัวเขาเอง การรักษาในวันนี้มันแสดงผลลัพธ์ให้ได้เห็นภายในระยะเวลาแค่สั้นๆตัวเขารับรู้ถึงการ

เปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขาได้

เขารู้สึกว่า มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงเลย

“คราวนี้ ฉันอาจจะหายก็ได้”เด็กหนุ่มพูด

ความหวังของเขาที่ใกล้ดับมอดลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

ความหวังเกิดขึ้นแม้ว่ามันจะยังไม่แน่ชัดแต่ก็นับว่ายังมีหวัง

เช้าวันต่อมา ท้องฟ้ามีเมฆมากและมืดครึ้ม

“อากาศกําลังเปลี่ยน”หวังเย้าเงยหน้ามองท้องฟ้า

“จริงเหรอคะ?”

“อืม จะมีหิมะตกตอนประมาณบ่ายโมง”หวังเย้าดูหน้าจอมือถือของเขา

“จริงเหรอคะ!?” ซูเสี่ยวซวีถามกลั้วหัวเราะและพูดว่า“แต่ฉันดูพยากรณ์อากาศเมื่อคืนก็ไม่เห็นมีบอกเลยนะคะว่าจะมีหิมะตกวันนี้น่ะ”

“หิมะจะต้องตกแน่” หวังเย้ายิ้ม

“มาเถอะ เข้าไปดื่มชาในคลินิกกันดีกว่า”

ทั้งสองเดินเข้าไปในคลินิก

“อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วเธอเริ่มเบื่อบ้างรึยัง?”หวังเย้าถาม

“ไม่เบื่อเลยค่ะ” ซูเสี่ยวซวียิ้มพูด

“ดี บ่ายนี้เราออกไปข้างนอกกันดีไหม?” หวังเย้าถาม

“ไม่ต้องไปไหนก็ได้ค่ะแค่ได้อยู่กับเชียนเชิงฉันก็พอใจแล้ว”

“ไว้บ่ายนี้ผมจะพาเธอไปที่ที่หนึ่ง”หวังเย้าพูด“มันเป็นที่ที่มีก้อนหินอยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ”

“ได้ค่ะ”

พ่อแม่ของหวังเย้าวุ่นวายตลอดทั้งเช้าเพื่อเตรียมอาหารดีดีสําหรับทานกันในตอนเที่ยงตั้งแต่ที่ซูเสี่ยวซวีมาอยู่ที่หมู่บ้านแม่ของเขาก็ทําอาหารหลายอย่างเธอแทบไม่ทําอาหารที่ซ้ํา

กันเลย ความตั้งแต่ของเธอทําให้ซูเสี่ยวซวีรู้สึกเกรงใจขึ้นมา

“คุณป้า ไม่ต้องทําอาหารเยอะขนาดนี้ก็ได้นะคะ”ซูเสี่ยวซวีพูดประโยคนี้หลายครั้งจนเธอเลิกนับไปแล้ว

“ไม่เป็นไรๆ” จางซิวหยิงพูด“เธอชอบไหมจ๊ะ?”

“ชอบค่ะ ฉันชอบมาก” ซูเสี่ยวซวีพูด“น้ำหนักของฉันขึ้นตั้งหลายกิโลเลยค่ะคุณป้า” “ไร้สาระเธอไม่เห็นจะอ้วนที่ตรงไหนเลย”จางซิวหยิงยิ้มพูด

“พอเถอะครับแม่ หยุดงานในมือแล้วมากินข้าวกับพวกเราได้แล้ว” หวังเย้าพูด

“ได๋ได้ แม่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

หลังจากจบมื้อเที่ยง หวังเย้าก็อยู่พูดคุยกับพ่อแม่ของเขาครู่หนึ่ง ก่อนที่จะออกไปข้างนอกกับซูเสี่ยวซวีเมื่อพวกเขามาถึงถนนสายหลักพวกเขาก็ขับออกจากหมู่บ้านและมุ่งหน้าไปทางทิศ เหนือ

“เรากําลังจะไปที่ไหนกันเหรอคะ?” ซูเสี่ยวซวีถาม

“ผมบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมจะพาเธอไปดูที่ที่เต็มไปด้วยหินน่ะ?” หวังเย้าหัวเราะรถขับไปตามถนนได้ประมาณ 15 นาทีก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนลูกรังอีกครั้งมันเป็นถนนสายเล็กๆที่กว้างไม่ถึง 3 เมตร แล้วเขาก็ขับเข้าไปจอดที่ข้างทาง

“เธอคิดว่าเขาลูกนี้เป็นยังไง?” หวังเย้าชี้ไปที่ภูเขาลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

“มีแต่ก้อนหินเต็มไปหมดเลย!” ซูเสี่ยวซวีมองดูภูเขาตรงหน้าด้วยความตกใจ

ภูเขาก่อตัวขึ้นจากหินเพียงอย่างเดียวมีเพียงต้นสนที่โผล่ออกมาตามรอยแยกของก้อนหินแค่ไม่กี่ต้น มันไม่มีต้นไม้อย่างอื่นอยู่เลยและแม้แต่ดินทรายก็แทบไม่มีให้เห็น

“เราเข้าไปดูใกล้ๆกันเถอะ” หวังเย้าพูด

“ดีค่ะ”

ที่ตีนภูเขาหิน เป็นพื้นที่โล่งกว้างเมื่อหน้าหนาวมาเยือนพื้นที่ส่วนใหญ่แทบไม่มีอะไรอยู่เลยมันไม่มีอะไรเลย แม้แต่ถนนก็ไม่มี

“มาเถอะ ผมจะแบกเธอไปเอง” หวังเย้าพูด

“หา อะไรนะคะ!?” ซูเสี่ยวซวีตกใจ

“ไปกันเลย”

หวังเย้าให้เธอขี้หลัง พวกเขากระโดดแค่ไม่กี่ก้าวก็ไปถึงภูเขาหินแล้ว

เมื่อมองดูจากตีนเขา พวกเขาจะพบว่า ภูเขาลูกนี้นั้นน่าสนใจมาก มันมีก้อนหินอยู่ทั่วทุกที่มีทั้งรูปทรงเหลี่ยม,ทรงกลม,และรูปทรงที่ดูแปลกตาทั่วทั้งภูเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากก้อนหิน

“เราขึ้นไปดูข้างบนกันดีไหม?”หวังเย้าถาม

“ดีค่ะ”

“ไม่ต้องรีบ” หวังเย้าพูด “เธอจ๋าท่าเท่าที่ผมสอนให้ได้ไหม?”

“จ๋าได้ค่ะ” ซูเสี่ยวซวีตอบ

“เธอลองทําดูที่นี่ได้นะ”

“บนก้อนหินน่ะเหรอคะ?” เธอถาม

“ใช่” หวังเย้าตอบ

เมื่อพูดจบ หวังเย้าก็เริ่มขยับเท้าเขากระโดดไปตามก้อนหินแต่ละก้อนราวกับลิงเพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจเขาก็ไปโผล่อยู่กึ่งกลางทางขึ้นเขาแล้วเขาหันกลับไปมองดูซูเสี่ยวซวีถ้าเขาคิดจะทําเขาก็สามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้แล้วในตอนนี้แต่เขาสนใจที่จะสอนซูเสี่ยวซวีมากกว่า

“ขึ้นมาสิ” หวังเย้าพูด “ไม่ต้องรีบ”

“ได้ค่ะ ฉันจะลองดู” ซูเสี่ยวซวีพูด

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและกระโดดได้สูงกว่าสองเมตร เธอร่อนลงไปและเหยียบลงบนหิน ก้อนหนึ่งและกระโดดขึ้นไปอีกครั้งเธอทําแบบเดิมซ้ําหลายรอบแต่แล้วเธอก็ลื่นเธอเสียสมดุลและกําลังจะร่วงลงไป แต่แล้วก็มีพลังงานบางอย่างพยุงตัวเธอเอาไว้ทําให้เธอกลับมายืนได้อีกครั้งเธอหันกลับไปมองกว่าที่เธอจะทันได้รู้ตัว หวังเย้าก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว
“เอ่อ?”

“ครั้งแรกไม่จําเป็นต้องรีบร้อน” หวังเย้าพูด “เธอต้องค่อยเป็นค่อยไปก่อน”

ทั้งสองกระโดดไปมาตามก้อนหิน ไม่นาน พวกเขาก็ขึ้นไปถึงยอดเขา

ลมพัดบนยอดเขานั้นเย็นมาก

“หนาวไหม?” หวังเย้าถาม

“หนาว? ไม่เลยค่ะ”การกระโดดเมื่อครู่ทําให้เธอรู้สึกอุ่นขึ้นมาก เธอยังตื่นเต้นไม่หาย

ประสบการณ์ครั้งนี้มันน่าตื่นเต้นมาก

“เธอชอบไหม?” หวังเย้าถาม

“ชอบมากเลยค่ะ”

“อืม ไว้ผมจะพาไปดูที่ที่น่าสนใจที่อื่นอีกนะ”

หวังเย้าเดินนําไปข้างหน้า ในตอนที่พวกเขากําลังเดินอยู่นั้น หิมะก็เริ่มตกลงมา “หิมะตกจริงๆด้วย”ซูเสี่ยวซวีมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือมันบอกเวลาบ่ายโมงห้านาที

“เชียนเชิงสุดยอดไปเลยค่ะ”

“ไม่เลย” หวังเย้าพูด

การคาดการณ์สภาพอากาศอยู่ในแปลงสมุนไพรกลายเป็นความเคยชินของเขาไปเสียแล้วเขาค่อนข้างทําได้ดีในเรื่องนี้ ท้องฟ้าดูเหมือนไม่มีรูปแบบที่สามารถอ่านออกได้แต่มันกลับเต็มไปด้วยความลึกลับสลับซับซ้อนเมื่อมีใครที่ได้ทําความเข้าใจกับมันแล้ว พวกเขาก็จะเริ่มชื่นชอบการมองดูท้องฟ้าและเป็นเพราะความซับซ้อนเหล่านั้นเองที่ทําให้หวังเย้าชอบที่จะมองดูท้องฟ้าเป็นประจําทุกวัน

“ลม ฝน และหิมะมีสัญญาณการเกิดของมันอยู่” หวังเข้าชี้ไปที่หิมะที่กําลังตกลงมา

ทั้งสองเดินไปตามก้อนหินท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา

“เรามาถึงแล้ว” หวังเย้าพูด

บนยอดเขามีพื้นที่โล่งที่ถูกล้อมรอบไว้ด้วยก้อนหินขนาดใหญ่

“มาสิ” หวังเย้าโบกมือเรียกซูเสี่ยวซ

หลังจากเดินไปถึงจุดนั้นแล้ว ซูเสี่ยวซวีก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าไม่มีลมพัดเข้ามาได้เลย

“ทําไมถึงไม่มีลมพัดที่นี่เลยล่ะคะ?”

“มันแปลกใช่ไหม?”

“ค่ะ”

“ก้อนหินพวกนั้นอาจดูเหมือนไม่มีอะไรแต่พวกมันได้เชื่อมอยู่กับภูเขาโดยรอบก้อนหินพวกนั้นทําหน้าที่ปิดกั้นลมที่พัดมาจากทางเหนือตกและตะวันออกอยู่”หวังเย้าพูด

“จริงสิ ทางทิศใต้ก็เหมือนกันลองมองตรงนั้นจากจุดนี้ดูสิเธอจะเห็นว่า ลมทางทิศใต้ก็ถูกปิดกั้นเอาไว้เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่าที่นี่ลมพัดเข้ามาไม่ได้เลยน่ะสิคะ?”ซูเสี่ยวซวีพูด

“ใช่” หวังเย้ายิ้มและพูด “ผมเคยมาที่นี่หลายครั้งตอนฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง,และฤดูหนาวไม่ว่าจะมาตอนฤดูไหนเธอก็จะพบว่ามันไม่มีลมพัดเข้ามาที่นี่ได้เลยนี่เป็นสถานที่ที่