แดนนิรมิตเทพ บทที่ 555
รากทิพย์พรสวรรค์ ก็คือรากของไม้ทิพย์พรสวรรค์ ไม้ทิพย์พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่ารากทิพย์พรสวรรค์ล้ำค่ามากเพียงใด!

แม้จะเป็นดาวบำเพ็ญเซียนที่มีพลังชี่ทิพย์มากเพียงพอ แต่รากทิพย์พรสวรรค์ก็มีไม่มาก ดังนั้น แม้แต่เฉินโม่เองก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ

“คราวนี้ คำลาในตำราโบราณหนังแพะที่ราชินีจิงเจวี๋ยทิ้งไว้ฉันก็พอจะเข้าใจได้แล้วละ”

“ต้องเป็นเพราะแผ่นดินไหวทำลายรากทิพย์พรสวรรค์ใต้ดินของประเทศจิงเจวี๋ย ทำให้รากทิพย์พรสวรรค์รักษาตัวเอง โดยการดูดดึงพลังชะตาในฟ้าดินมากมาย จึงทำให้ทั่วทั้งประเทศจิงเจวี๋ยกลายเป็นพื้นที่รกร้าง”

“ราชินีจิงเจวี๋ยผู้เป็นผู้บำเพ็ญเซียน ต้องรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของรากทิพย์พรสวรรค์แต่แรกแล้ว จึงได้พาประชากรย้ายแผ่นดินไปที่อื่น”

“บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่แคว้นในดินแดนตะวันตกที่อุดมสมบูรณ์ แปรสภาพกลายเป็นทะเลทราย”

“ทะเลทรายเป็นพื้นที่แห่งความตาย ภายใต้พื้นที่แห่งความตายมีรากทิพย์พรสวรรค์ที่เป็นเครื่องหมายของการมีชีวิต พื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ต่างขั้วที่โลกบำเพ็ญเซียนบันทึกไว้แล้ว!”

“พื้นที่ต่างขั้ว เป็นหนึ่งในห้าพื้นที่สำคัญของโลกบำเพ็ญเซียน ถึงว่าทำไมที่นี่ถึงได้ถูกเรียกว่าทะเลแห่งความตาย หากว่ายังปล่อยให้รากทิพย์พรสวรรค์รักษาตัวเองต่อไป ดึงดูดพังชี่ทิพย์รอบข้างมาเรื่อยๆ คาดว่าทะเลทรายคงจะขยายกว้างไปรอบด้านอีก!”

“ราชินีจิงเจวี๋ยไม่ได้ฝึกฝนร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวน ทำให้น้ำไฟไม่รุกราน รากทิพย์พรสวรรค์ที่ไม่ดับสิ้น แต่ฉันฝึกฝนร่างธาตุไม้ นั่นคือมือปราบของรากทิพย์พรสวรรค์ พบเจอกับฉัน คงจะเป็นการที่ถูกชะตาลิขิตไว้แล้ว?”

แม้จะเป็นเฉินโม่ที่ไม่เคยเชื่อเกี่ยวกับชะตาลิขิต แต่ในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมีความสงสัย

หรือว่าการเกิดใหม่ของเขาถูกลิขิตชะตาไว้แล้ว?

แต่ไม่นานเฉินโม่ก็ทิ้งความคิดนี้ไป แม้จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งดั่งผู้ทรงอำนาจ ก็คงจะไม่สามารถวางกำหนดชะตาเหตุการณ์นี้ได้!

ภายในถ้ำ เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ ทุกคนต่างก็แปลกใจกันหมด

“นี่คืออะไร? ทำไมฉันถึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายการมีชีวิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้!ฉันสามารถรู้สึกได้ว่าบาดแผลภายในกำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว!” เจี่ยงไต้ซือสีหน้าตกตะลึงมองดูรากทิพย์พรสวรรค์ที่สว่างใสใต้เท้า

หยวนชิงซานและพระภิกษุสำนักลับทั้งสามเองก็มีสีหน้าเคลิบเคลิ้มไปกับมัน หยวนชิงซานหายใจเข้าลึกๆ พูดว่า “ฉันรู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยพลัง หากว่าฝึกฝนในที่แห่งนี้ ฉันมีความมั่นใจว่าภายในหนึ่งปีก็สามารถทะลุเข้าสู่ปรมาจารย์แดนแปรภาพได้!”

“คุณหนูครับ บางทีอาการป่วยของคุณท่านของจะมีวิธีรักษาแล้วละครับ!” เจี่ยงไต้ซือมองไช่เหวินหย่า แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“คุณหมายถึงท่อนไม้ที่แปลกประหลาดขนาดใหญ่นี้?” ไช่เหวินหย่าชี้รากทิพย์พรสวรรค์ใต้เท้าแล้วเอ่ยถาม

เจี่ยงไต้ซือพยักหน้า “ใช่ครับ แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ผมสามารถรู้สึกได้ว่าสิ่งนี้มันไม่ธรรมดา มันมีพลังงานของชีวิตบรรจุอยู่มหาศาล หากว่าสามารถนำกลับไปอยู่เคียงข้างคุณท่านได้ อาการป่วยของคุณท่านต้องดีขึ้นแน่นอนครับ!”

“จริงหรอคะ? อย่างนั้นก็ดีสิคะ!แต่ว่าท่อนไม้ที่ยาวขนาดนี้ พวกเราจะขนกลับไปยังไงละคะ?” ไช่เหวินหย่าขมวดคิ้ว แล้วเป็นกังวล

“ไม่จำเป็นต้องนำกลับไปทั้งหมดครับ พวกเรานำกลับไปเพียงท่อนหนึ่งก็พอแล้วครับ!”

เจี่ยงไต้ซือกระโดดลงบนรากทิพย์พรสวรรค์ สำรวจมองรอบด้าน มองหาตำแหน่งที่เหมาะสมเตรียมจะตัดมัน

“เอามีดมา!”

“เร็ว รีบเอามีดมาซะ!” ไช่เหวินหย่าตะคอกใส่พวกบอดี้การ์ด

บอดี้การ์ดคนหนึ่งยื่นกระบี่ที่พกติดตัวเสมอให้กับเจี่ยงไต้ซือ

เจี่ยงไต้ซือรับมา เล็งตำแหน่งไว้ “ตรงนี้แหละ!”

ยกกระบี่ขึ้น แล้วฟันลงรากทิพย์พรสวรรค์ใต้เท้าอย่างแรง

เคร้ง!

แต่กลับมีเสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น เจี่ยงไต้ซือสั่นสะท้านจนแขนชา กระบี่ที่ผลิตขึ้นจากเหล็กถูกปะทะจนหัก แต่ด้านบนรากทิพย์พรสวรรค์กลับไม่มีร่องรอยหลงเหลือเลยแม้แต่น้อย

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้!” เจี่ยงไต้ซือตกตะลึง

“พวกนายไม่ต้องเสียเวลาไปหรอก รากทิพย์พรสวรรค์กันน้ำกันไฟ แข็งแกร่งอย่างมาก นายคิดอยากจะตัดมัน เป็นได้แค่ความเพ้อฝันเท่านั้น!”

พูดนิ่งๆ แล้วเฉินโม่ก็เดินมา