ตอนที่ 1536 สำนักประหลาด (3)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1536  สำนักประหลาด (3)

“เจ้าคือจวินอู๋ใช่ไหม?  ข้าเห็นว่าช่วงนี้เจ้าไม่ค่อยได้ออกจากห้อง  บังเอิญข้ามีอาหารอยู่ก็เลยเอามาให้”  เด็กสาวน่ารักอ่อนหวานยิ้มตาหยี  นางมองจวินอู๋เสียพร้อมกับโบกกล่องอาหารในมือ

จวินอู๋เสียมองเด็กสาวที่จู่ๆก็โผล่มาทำตัวเป็นมิตรอย่างเย็นชา  จวินอู๋เสียจำได้ว่าเคยเห็นเด็กสาวคนนี้มาก่อน  ดูเหมือนนางจะถูกเลือกโดยวิหารมารโลหิต  ตอนที่พวกเขาเข้ามาในสำนัก  นางก็ยืนอยู่กับศิษย์ของวิหารมารโลหิต

วิหารมารโลหิตมีอำนาจเกือบเทียบเท่าวิหารปีศาจเพลิง  โดยที่วิหารปีศาจเพลิงเหนือกว่าเล็กน้อย  แต่หลังจากสูญเสียผู้อาวุโสไป 2 คน  ความเหนือกว่าเล็กน้อยนั้นก็โดนวิหารมารโลหิตตามทัน

ถ้าจะหาวิหารที่แข็งแกร่งที่สุด 2 วิหารในบรรดาสิบสองวิหาร  ก็มีเพียงวิหารปีศาจเพลิงและวิหารมารโลหิตนี่เท่านั้น

ถ้าจวินอู๋เสียจำไม่ผิด  กู่อิ่งจากตอนที่อยู่สำนักวายุประจิมก็เป็นคนที่วิหารมารโลหิตส่งมา

ท่าทางเย็นชาของจวินอู๋เสียดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กสาวเลยแม้แต่น้อย  เพราะรอยยิ้มของเด็กสาวไม่ได้เปลี่ยนไปเลย  นางพูดต่อด้วยท่าทางสนิทสนมว่า  “ดูเหมือนคนจากสำนักธาราเมฆจะไม่มายุ่งกับพวกเราในช่วงนี้นะ  ข้าได้ยินว่าจนกว่าทุกคนจะผ่านการทดสอบ  เราจะต้องดูแลตัวเองกันไปก่อน  บังเอิญว่าข้าอยู่ชั้นเดียวกับเจ้า  ห้องตรงข้ามนี้เอง  มันคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราได้พบกัน  ข้าชื่อกู่ซินเยียน  อาหารนี่เจ้ารับไว้เถอะ  ไม่งั้นจะหิวเอานะ”

ใบหน้าของกู่ซินเยียนมีเสน่ห์อย่างมาก  รอยยิ้มของนางบริสุทธิ์งดงาม  ทำให้ผู้คนรู้สึกเป็นมิตรและสนิทใจได้อย่างง่ายดาย  ไม่รู้ทำไม  เมื่อจวินอู๋เสียเห็นรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของกู่ซินเยียน  นางก็นึกถึงฉูหลิงเย่ในอดีตทันที

ในอดีต  ฉูหลิงเย่เคยบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเมื่อนางยิ้ม  ราวกับว่านางไม่มีเรื่องกังวลหรือทุกข์ร้อนใดๆเลย

สายตาของจวินอู๋เสียหยุดอยู่ที่ใบหน้าของกู่ซินเยียนครู่หนึ่ง  ก่อนจะละสายตาและพูดเบาๆว่า  “ไม่จำเป็น”

กู่ซินเยียนไม่ยอมแพ้  นางพูดว่า  “ดูตัวเจ้าซิ  ผอมขนาดนี้  ถ้าปล่อยให้หิวเดี๋ยวก็แย่เอาหรอก  สำนักธาราเมฆไม่ใช่สำนักทั่วไป  ถ้าเจ้าอยากฝึกอยู่ที่นี่ให้เก่งๆ  เจ้าก็ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง”

ขณะที่พูด  กู่ซินเยียนก็ยัดกล่องอาหารใส่มือจวินอู๋เสีย  จากนั้นก็ถอยไปสองสามก้าวทันที  พร้อมกับโบกมือโดยไม่เปิดโอกาสให้จวินอู๋เสียปฏิเสธ

“เจ้ากินก่อนเถอะ  ถ้าไม่พอ  ข้าจะเอามาให้อีก  ไปล่ะ”  พูดจบกู่ซินเยียนก็เดินจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมาเลย  เด็กหนุ่มที่อยู่กับนางก็เดินตามไปทันที

เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ  ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลาเย็นชา  สายตาที่จ้องมองมาตอนจากไปก็ดูไม่เป็นมิตร

จวินอู๋เสียมองกล่องอาหารที่ถูกยัดเยียดใส่มือนาง  แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้โยนมันทิ้งไป  นางถือมันเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูตามหลัง

กู่ซินเยียนยังไม่ได้เดินออกไปไกลนัก  นางหันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงปิดประตู  และเห็นหน้าห้องของจวินอู๋เสียว่างเปล่า  รอยยิ้มฉายแววในดวงตาของนางอย่างไม่รู้ตัว

“ซินเยียน  ทำไมเจ้าต้องดีกับหมอนั่นด้วย?  ไม่เห็นหรือว่าเขาไม่ได้ตอบสนองความหวังดีของเจ้าเลยสักนิด?”  เด็กหนุ่มหน้าหล่อพูดพลางขมวดคิ้ว  ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นมัวเมื่อเห็นรอยยิ้มในดวงตาของกู่ซินเยียน

กู่ซินเยียนหันหน้ากลับมามองเด็กหนุ่มที่กำลังไม่พอใจอย่างมาก

“เขาจะชื่นชมความมีน้ำใจของข้าหรือไม่ก็ไม่สำคัญ  เฮ่าอวี่  เมื่อไรสมองของเจ้าจะฉลาดขึ้นมาบ้าง?  ถ้าเจ้ายังโง่อยู่แบบนี้  ตอนที่อยู่สำนักธาราเมฆนี่  เจ้าก็อยู่ของเจ้า  ข้าก็อยู่ของข้า  เราสองคนไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกัน”  รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่ซินเยียนจางหายไป  ขณะมองหลินเฮ่าอวี่ด้วยสายตาโกรธเคือง

หลินเฮ่าอวี่อ้าปาก  มองกู่ซินเยียนที่มีสีหน้าไม่พอใจ  แล้วเขาก็พูดอะไรไม่ออก