ตอนที่ 2004 สังหารนางซะ (4) / ตอนที่ 2005 สังหารเขาซะ (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2004 สังหารนางซะ (4)

ดังนั้นเกือบทุกคนในอาณาจักรเทียนฉีจึงเกลียดเขา…

ถ้าเขาต้องไปเดินบนถนนแล้วให้ฝูงชนเป็นคนตัดสินล่ะก็ เขาก็คงจะถูกสังหาร

“สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ!” ฉีหลิงโบกมืออย่างเย็นชา “พาตัวเขาไป ให้เขาได้ไปเสี่ยงโชคของตัวเอง…”

แน่นอนว่าร่างของฉีอวี่เคยเป็นแหล่งรวมของสุราและราคะ ดังนั้นโอกาสที่เขาจะรอดก็เท่ากับศูนย์!

จากนั้นระหว่างที่ฉีอวี่ร้องโหยหวน ฉีหลิงก็เดินออกจากท้องพระโรง อากาศบริสุทธิ์พัดมาทักทายเขาแล้วทำให้เขาสดชื่น ตอนนี้เขาก็คิดเกี่ยวกับราชครูที่ช่วยเขา เขาหันหลังไปเพื่อขอบคุณราชครูแต่ก็พบว่าราชครูที่เพิ่งยืนอยู่ในท้องพระโรงเมื่อครู่หายไปแล้ว

บนถนน

ชายในชุดสีขาวราวหิมะกำลังเดินอยู่ เขาดูงุนงงและก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองถึงมาที่ถนนแห่งนี้ เขาก็แค่รู้สึกว่า…มีบุรุษคนหนึ่งที่เขาถูกกำหนดให้เจอกำลังรอเขาอยู่ที่นี่

ชายผู้นี้กำลังขมวดคิ้วครุ่นคิดและมองไม่เห็นถนนด้านหน้า ดังนั้นเขาจึงชนเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเหม่ออยู่เหมือนกัน

ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าอย่างโกรธเคือง ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนผู้หนึ่งเข้า…

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาไม่ใช่ความหล่อเหลาของบุรุษผู้นี้แต่เป็น…กลิ่นอายคุ้นเคยในตัวบุรุษผู้นี้ที่คล้ายกับของเจวี๋ยเชียน

ชายหนุ่มตะลึงงันแล้วระหว่างที่เขากำลังคิด เสียงอ่อนโยนของบุรุษผู้นี้ก็ดังขึ้น

“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

เสียงของบุรุษผู้นี้ทั้งนุ่มนวลและไพเราะจนทำลายฝันกลางวันของเขา

เขาไม่ใช่เจวี๋ยเชียน!

เจวี๋ยเชียนเป็นคนดื้อนรั้นและเผด็จการในขณะที่บุรุษตรงหน้าเขาอ่อนโยนเกินไป คนอ่อนโยนแบบนี้จะเป็นเจวี๋ยเชียนที่กระหายเลือดและใจแข็งได้อย่างไร

“ไม่เป็นไร” โม่เชียนเฉิงส่ายหน้าแล้วหลุบตา

เขาก็พบเจวี๋ยเชียนแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดบุรุษตรงหน้าเขาถึงทำให้เขานึกถึงเจวี๋ยเชียน

“ดีแล้ว”

บุรุษผู้นี้ยิ้มและรอยยิ้มของเขาก็ดูเหมือนสายลมเบาๆ ในฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านใบหน้าของเขา

“เจ้า…เจ้าชื่ออะไร” โม่เชียนเฉิงกัดปากแล้วถามอย่างเขินอาย

“เฟิงจิ่น”

เฟิงจิ่น?

ชื่อนี้ทำให้จู่ๆ โม่เชียนเฉิงนึกถึงบทกลอนบทหนึ่ง…

เจ้ากำลังมองดูทิวทัศน์จากที่แสนไกล ในขณะที่ข้ากำลังมองดูเจ้าอยู่ใกล้เพียงนี้

“ชื่อสกุลของเจ้าพิเศษมาก ส่วนข้าชื่อโม่เชียนเฉิง!” รอยยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและดวงตาที่โค้งของเขาก็ดูน่าดึงดูด

เฟิงจิ่นยิ้มแล้วใช้ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ “โม่เชียนเฉิง ข้าจำเจ้าได้ แต่ข้าต้องไปเพราะข้ามีบางอย่างต้องทำ ถ้าพวกเราโชคดีก็คงจะได้พบกันอีกครั้ง”

“บางอย่างงั้นหรือ อะไรล่ะ” โม่เชียนเฉิงถามด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

“ข้ากำลังจะไปพบคนที่ข้ามีชะตาต้องไปพบ…”

พระเจ้าเสนอให้เขาไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกพลังฌาน แต่มอบของขวัญให้เขามีดวงตาที่พิเศษและสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ในขณะที่เขาเห็นชะตาของคนอื่น เขากลับไม่สามารถมองเห็นชะตาของตัวเองได้…

ยกตัวอย่างเช่น เขาสามารถเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขามีชะตาที่ต้องสูญเสียรักแท้และต้องทรมานกับรักที่ไม่สมหวังไปตลอดชีวิต เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ ร่องรอยเห็นใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เหตุใดชายหนุ่มหล่อเหลาแบบนี้ถึงได้มีชะตากรรมที่ทุกข์ตรมเช่นนี้ หัวใจของเขาเจ็บปวดเพราะอีกฝ่าย

“โม่เชียนเฉิง ไว้ค่อยเจอกันใหม่นะ”

เฟิงจิ่นโบกมือแล้วหันหลังเดินออกไปด้วยท่าทางน่ามอง

ตอนที่ 2005 สังหารเขาซะ (1)

ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ฝีเท้าของเขาก็หยุดเพราะเสียงที่ชัดเจนของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง “ถ้าชาติหน้าข้าเกิดมาเป็นสตรี เจ้าจะแต่งข้าไปเป็นภรรยาของเจ้าหรือไม่”

เจวี๋ยเชียน ถ้าชาติหน้าข้าเป็นสตรีและเจ้าเป็นบุรุษ เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่

เสียงคลุมเครือที่คุ้นเคยดังขึ้นในความคิดของเฟิงจิ่น ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไกลแต่ก็ดูเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ…

คู่ชะตาของเขาเป็นบุรุษงั้นหรือ

เฟิงจิ่นยิ้มแล้วส่ายหน้า ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน ความชอบของเขาปกติ เขาชอบสตรีไม่ใช่บุรุษ แล้วคู่ชีวิตของเขาจะเป็นบุรุษได้อย่างไร

แต่ว่าเมื่อได้ยินคำถาม เฟิงจิ่นก็ตอบ “ถ้าชาติหน้าเจ้าเป็นสตรีจริงๆ ข้าจะแต่งงานกับเจ้า”

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในฝูงชนช้าๆ แล้วหายไปท่ามกลางถนนที่วุ่นวาย…

โม่เชียนเฉิงมองแผ่นหลังของบุรุษผู้นั้นด้วยความผิดหวัง และเม้มริมฝีปากสวยสีชมพูของตัวเอง “เขาไม่ใช่เจวี๋ยเชียน ถ้าเจวี๋ยเชียนได้ยินแบบนี้ เขาต้องรังเกียจที่จะตอบคำถามข้าแน่…

…ถึงอย่างไร เจวี๋ยเชียนที่หยิ่งยโสจะตอบคำถามเด็กๆ แบบนี้ได้อย่างไร อีกอย่างเจวี๋ยเชียนในความทรงจำของข้าไม่ใช่คนอ่อนโยน…เขามักจะยืนอยู่เหนือโลกแล้วเหยียบย่ำความรู้สึกทั้งหมดใต้ฝ่าเท้าของเขา”

ถ้าเจวี๋ยเชีนอ่อนโยนเหมือนบุรุษผู้นี้ ไม่แน่…เรื่องก่อนหน้านี้ก็คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้!

อย่างน้อยบุรุษผู้นี้ก็คงไม่ได้ทำเหมือนเจวี๋ยเชียนที่ไม่พูดกับเขาอีกเลยหลังจากที่เขาสารภาพรักกับอีกฝ่าย…

โม่เชียนเฉิงหลุบตาเพื่อปกปิดความเสียใจและเจ็บปวดในดวงตา เขามองทิศทางที่เฟิงจิ่นหายไปเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกไปอีกทาง…

นครเฟิงอวิ๋น…

ภายในกระท่อมมีบุรุษและสตรีคู่หนึ่งกำลังมีสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง อวิ๋นลั่วเฟิงตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ นางกดร่างของตัวเองเข้ากับชายหนุ่มที่อยู่เหนือร่างนางให้แนบแน่นขึ้น พวกเขาสามารถได้ยินเสียงหายใจหอบของกันและกัน

“ข้าคิดว่าครั้งนี้พวกเราจะทำสำเร็จ ข้าหวังว่าคราวนี้ข้าจะตั้งครรภ์”

อวิ๋นลั่วเฟิงหอบหายใจ ถึงแม้ว่านางจะเลื่อนระดับเป็นขั้นเซียนอาวุโสแล้ว แต่นางก็ยังไม่สามารถทนความกระปรี้กระเปร่าของอวิ๋นเซียวได้

โชคดีที่นางสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้ด้วยวิธีฝึกผสานพลังฌานกับอวิ๋นเซียว ดังนั้นนางจึงไม่ได้อ่อนแอเหมือนตอนที่นางเพิ่งเป็นเซียนอาวุโส

“ถ้าท่านไม่ตั้งครรภ์ก็ไม่เป็นไร” อวิ๋นเซียวพูดแล้วก้มลงมาจูบริมฝีปากของหญิงสาว “ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือท่าน”

ทันทีที่อวิ๋นเซียวกำลังจะลองอีกครั้ง อวิ๋นลั่วเฟิงก็ตีเขาแล้วผลักเขาออกไป

“พวกเราอยู่ที่นี่มาครึ่งเดือนแล้ว พอได้แล้ว ข้าคิดว่าฉีซูกับฉีหลิงใกล้จะพร้อมแล้ว ข้าจะกลับไปคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับสำนักอิสระ”

อวิ๋นเซียวขมวดคิ้ว “ถ้าท่านอยากจัดการสำนักอิสระ ข้าก็สามารถกวาดล้างพวกเขาให้ท่านได้ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้น”

ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ เขาไม่อยากให้สัมพันธ์ลึกซึ้งอันแสนสุขต้องโดนขัดเพราะสำนักอิสระ

อวิ๋นลั่วเฟิงพูดกับอวิ๋นเซียวอย่างจริงจัง “ไม่ ข้าจะทิ้งเรื่องนี้ไว้ให้ฉีซูกับฉีหลิงจัดการ พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่งจนกว่าพวกเขาจะรับมือไม่ได้”

“ก็ได้ แล้วแต่ท่านเถอะ”

อวิ๋นเซียวไม่ได้ถามว่าทำไม เขาเชื่อในตัวอวิ๋นลั่วเฟิง ไม่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งใจจะทำอะไร นางก็ต้องมีเหตุผลดังนั้นเขาก็แค่…สนับสนุนนางเหมือนที่ทำมาตลอด

“เหตุใดท่านถึงไม่ถามเหตุผลข้าล่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงกะพริบตาแล้วเอ่ยถาม

อวิ๋นเซียวก้มหน้าลงมากัดริมฝีปากของนางอีกครั้ง “ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดอะไรกับท่าน”

“พูดอะไรหรือ”

“ท่านสังหาร ข้าฝัง! ดังนั้นไม่ว่าท่านต้องการอะไร ข้าจะเก็บกวาดเรื่องวุ่นวายให้ท่านเอง”