ตอนที่ 2004 สังหารนางซะ (4)
ดังนั้นเกือบทุกคนในอาณาจักรเทียนฉีจึงเกลียดเขา…
ถ้าเขาต้องไปเดินบนถนนแล้วให้ฝูงชนเป็นคนตัดสินล่ะก็ เขาก็คงจะถูกสังหาร
“สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ!” ฉีหลิงโบกมืออย่างเย็นชา “พาตัวเขาไป ให้เขาได้ไปเสี่ยงโชคของตัวเอง…”
แน่นอนว่าร่างของฉีอวี่เคยเป็นแหล่งรวมของสุราและราคะ ดังนั้นโอกาสที่เขาจะรอดก็เท่ากับศูนย์!
จากนั้นระหว่างที่ฉีอวี่ร้องโหยหวน ฉีหลิงก็เดินออกจากท้องพระโรง อากาศบริสุทธิ์พัดมาทักทายเขาแล้วทำให้เขาสดชื่น ตอนนี้เขาก็คิดเกี่ยวกับราชครูที่ช่วยเขา เขาหันหลังไปเพื่อขอบคุณราชครูแต่ก็พบว่าราชครูที่เพิ่งยืนอยู่ในท้องพระโรงเมื่อครู่หายไปแล้ว
…
บนถนน
ชายในชุดสีขาวราวหิมะกำลังเดินอยู่ เขาดูงุนงงและก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองถึงมาที่ถนนแห่งนี้ เขาก็แค่รู้สึกว่า…มีบุรุษคนหนึ่งที่เขาถูกกำหนดให้เจอกำลังรอเขาอยู่ที่นี่
ชายผู้นี้กำลังขมวดคิ้วครุ่นคิดและมองไม่เห็นถนนด้านหน้า ดังนั้นเขาจึงชนเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเหม่ออยู่เหมือนกัน
ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าอย่างโกรธเคือง ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนผู้หนึ่งเข้า…
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาไม่ใช่ความหล่อเหลาของบุรุษผู้นี้แต่เป็น…กลิ่นอายคุ้นเคยในตัวบุรุษผู้นี้ที่คล้ายกับของเจวี๋ยเชียน
ชายหนุ่มตะลึงงันแล้วระหว่างที่เขากำลังคิด เสียงอ่อนโยนของบุรุษผู้นี้ก็ดังขึ้น
“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
เสียงของบุรุษผู้นี้ทั้งนุ่มนวลและไพเราะจนทำลายฝันกลางวันของเขา
เขาไม่ใช่เจวี๋ยเชียน!
เจวี๋ยเชียนเป็นคนดื้อนรั้นและเผด็จการในขณะที่บุรุษตรงหน้าเขาอ่อนโยนเกินไป คนอ่อนโยนแบบนี้จะเป็นเจวี๋ยเชียนที่กระหายเลือดและใจแข็งได้อย่างไร
“ไม่เป็นไร” โม่เชียนเฉิงส่ายหน้าแล้วหลุบตา
เขาก็พบเจวี๋ยเชียนแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดบุรุษตรงหน้าเขาถึงทำให้เขานึกถึงเจวี๋ยเชียน
“ดีแล้ว”
บุรุษผู้นี้ยิ้มและรอยยิ้มของเขาก็ดูเหมือนสายลมเบาๆ ในฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านใบหน้าของเขา
“เจ้า…เจ้าชื่ออะไร” โม่เชียนเฉิงกัดปากแล้วถามอย่างเขินอาย
“เฟิงจิ่น”
เฟิงจิ่น?
ชื่อนี้ทำให้จู่ๆ โม่เชียนเฉิงนึกถึงบทกลอนบทหนึ่ง…
เจ้ากำลังมองดูทิวทัศน์จากที่แสนไกล ในขณะที่ข้ากำลังมองดูเจ้าอยู่ใกล้เพียงนี้
“ชื่อสกุลของเจ้าพิเศษมาก ส่วนข้าชื่อโม่เชียนเฉิง!” รอยยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและดวงตาที่โค้งของเขาก็ดูน่าดึงดูด
เฟิงจิ่นยิ้มแล้วใช้ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ “โม่เชียนเฉิง ข้าจำเจ้าได้ แต่ข้าต้องไปเพราะข้ามีบางอย่างต้องทำ ถ้าพวกเราโชคดีก็คงจะได้พบกันอีกครั้ง”
“บางอย่างงั้นหรือ อะไรล่ะ” โม่เชียนเฉิงถามด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“ข้ากำลังจะไปพบคนที่ข้ามีชะตาต้องไปพบ…”
พระเจ้าเสนอให้เขาไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกพลังฌาน แต่มอบของขวัญให้เขามีดวงตาที่พิเศษและสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ในขณะที่เขาเห็นชะตาของคนอื่น เขากลับไม่สามารถมองเห็นชะตาของตัวเองได้…
ยกตัวอย่างเช่น เขาสามารถเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขามีชะตาที่ต้องสูญเสียรักแท้และต้องทรมานกับรักที่ไม่สมหวังไปตลอดชีวิต เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ ร่องรอยเห็นใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เหตุใดชายหนุ่มหล่อเหลาแบบนี้ถึงได้มีชะตากรรมที่ทุกข์ตรมเช่นนี้ หัวใจของเขาเจ็บปวดเพราะอีกฝ่าย
“โม่เชียนเฉิง ไว้ค่อยเจอกันใหม่นะ”
เฟิงจิ่นโบกมือแล้วหันหลังเดินออกไปด้วยท่าทางน่ามอง
ตอนที่ 2005 สังหารเขาซะ (1)
ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ฝีเท้าของเขาก็หยุดเพราะเสียงที่ชัดเจนของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง “ถ้าชาติหน้าข้าเกิดมาเป็นสตรี เจ้าจะแต่งข้าไปเป็นภรรยาของเจ้าหรือไม่”
เจวี๋ยเชียน ถ้าชาติหน้าข้าเป็นสตรีและเจ้าเป็นบุรุษ เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่
เสียงคลุมเครือที่คุ้นเคยดังขึ้นในความคิดของเฟิงจิ่น ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไกลแต่ก็ดูเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ…
คู่ชะตาของเขาเป็นบุรุษงั้นหรือ
เฟิงจิ่นยิ้มแล้วส่ายหน้า ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน ความชอบของเขาปกติ เขาชอบสตรีไม่ใช่บุรุษ แล้วคู่ชีวิตของเขาจะเป็นบุรุษได้อย่างไร
แต่ว่าเมื่อได้ยินคำถาม เฟิงจิ่นก็ตอบ “ถ้าชาติหน้าเจ้าเป็นสตรีจริงๆ ข้าจะแต่งงานกับเจ้า”
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในฝูงชนช้าๆ แล้วหายไปท่ามกลางถนนที่วุ่นวาย…
โม่เชียนเฉิงมองแผ่นหลังของบุรุษผู้นั้นด้วยความผิดหวัง และเม้มริมฝีปากสวยสีชมพูของตัวเอง “เขาไม่ใช่เจวี๋ยเชียน ถ้าเจวี๋ยเชียนได้ยินแบบนี้ เขาต้องรังเกียจที่จะตอบคำถามข้าแน่…
…ถึงอย่างไร เจวี๋ยเชียนที่หยิ่งยโสจะตอบคำถามเด็กๆ แบบนี้ได้อย่างไร อีกอย่างเจวี๋ยเชียนในความทรงจำของข้าไม่ใช่คนอ่อนโยน…เขามักจะยืนอยู่เหนือโลกแล้วเหยียบย่ำความรู้สึกทั้งหมดใต้ฝ่าเท้าของเขา”
ถ้าเจวี๋ยเชีนอ่อนโยนเหมือนบุรุษผู้นี้ ไม่แน่…เรื่องก่อนหน้านี้ก็คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้!
อย่างน้อยบุรุษผู้นี้ก็คงไม่ได้ทำเหมือนเจวี๋ยเชียนที่ไม่พูดกับเขาอีกเลยหลังจากที่เขาสารภาพรักกับอีกฝ่าย…
โม่เชียนเฉิงหลุบตาเพื่อปกปิดความเสียใจและเจ็บปวดในดวงตา เขามองทิศทางที่เฟิงจิ่นหายไปเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกไปอีกทาง…
นครเฟิงอวิ๋น…
ภายในกระท่อมมีบุรุษและสตรีคู่หนึ่งกำลังมีสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง อวิ๋นลั่วเฟิงตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ นางกดร่างของตัวเองเข้ากับชายหนุ่มที่อยู่เหนือร่างนางให้แนบแน่นขึ้น พวกเขาสามารถได้ยินเสียงหายใจหอบของกันและกัน
“ข้าคิดว่าครั้งนี้พวกเราจะทำสำเร็จ ข้าหวังว่าคราวนี้ข้าจะตั้งครรภ์”
อวิ๋นลั่วเฟิงหอบหายใจ ถึงแม้ว่านางจะเลื่อนระดับเป็นขั้นเซียนอาวุโสแล้ว แต่นางก็ยังไม่สามารถทนความกระปรี้กระเปร่าของอวิ๋นเซียวได้
โชคดีที่นางสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้ด้วยวิธีฝึกผสานพลังฌานกับอวิ๋นเซียว ดังนั้นนางจึงไม่ได้อ่อนแอเหมือนตอนที่นางเพิ่งเป็นเซียนอาวุโส
“ถ้าท่านไม่ตั้งครรภ์ก็ไม่เป็นไร” อวิ๋นเซียวพูดแล้วก้มลงมาจูบริมฝีปากของหญิงสาว “ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือท่าน”
ทันทีที่อวิ๋นเซียวกำลังจะลองอีกครั้ง อวิ๋นลั่วเฟิงก็ตีเขาแล้วผลักเขาออกไป
“พวกเราอยู่ที่นี่มาครึ่งเดือนแล้ว พอได้แล้ว ข้าคิดว่าฉีซูกับฉีหลิงใกล้จะพร้อมแล้ว ข้าจะกลับไปคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับสำนักอิสระ”
อวิ๋นเซียวขมวดคิ้ว “ถ้าท่านอยากจัดการสำนักอิสระ ข้าก็สามารถกวาดล้างพวกเขาให้ท่านได้ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้น”
ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ เขาไม่อยากให้สัมพันธ์ลึกซึ้งอันแสนสุขต้องโดนขัดเพราะสำนักอิสระ
อวิ๋นลั่วเฟิงพูดกับอวิ๋นเซียวอย่างจริงจัง “ไม่ ข้าจะทิ้งเรื่องนี้ไว้ให้ฉีซูกับฉีหลิงจัดการ พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่งจนกว่าพวกเขาจะรับมือไม่ได้”
“ก็ได้ แล้วแต่ท่านเถอะ”
อวิ๋นเซียวไม่ได้ถามว่าทำไม เขาเชื่อในตัวอวิ๋นลั่วเฟิง ไม่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งใจจะทำอะไร นางก็ต้องมีเหตุผลดังนั้นเขาก็แค่…สนับสนุนนางเหมือนที่ทำมาตลอด
“เหตุใดท่านถึงไม่ถามเหตุผลข้าล่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงกะพริบตาแล้วเอ่ยถาม
อวิ๋นเซียวก้มหน้าลงมากัดริมฝีปากของนางอีกครั้ง “ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดอะไรกับท่าน”
“พูดอะไรหรือ”
“ท่านสังหาร ข้าฝัง! ดังนั้นไม่ว่าท่านต้องการอะไร ข้าจะเก็บกวาดเรื่องวุ่นวายให้ท่านเอง”