บทที่ 337 วิหารหลังใหม่

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 337 วิหารหลังใหม่

ณ ดินแดนทวยเทพ

“ฮ่าฮ่าฮ่า แบบนี้ข้าก็ไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้ว…”

“คราวนี้แหละข้าจะกลับมาเป็นฝ่ายไล่ล่าพวกเจ้าบ้าง”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามถืออาวุธอยู่ในสองมือและเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ

บัดนี้ นางกำลังมีกระบี่เล่มใหม่ที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง ชุดเกราะที่เก่าแก่คร่ำครึเปลี่ยนเป็นชุดเกราะทองคำชุดใหม่ที่สามารถป้องกันการโจมตีได้ดีมากกว่าเดิม และนับเป็นชุดเกราะรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับกลุ่มเทพีในดินแดนทวยเทพ

บริเวณหัวไหล่ของชุดเกราะถูกแกะสลักเป็นรูปเปลวไฟสวยงาม ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของชุดเกราะปรากฏรูปเปลวไฟสว่างไสวเช่นเดียวกัน ชายกระโปรงเหล็กที่สวมใส่นั้นมีปลายชี้แหลมเหมือนลูกดอก ดูเข้ากันดีกับรองเท้าบูตปลายงอนสีแดงสดที่ซื้อมาจากช่างทำรองเท้าชื่อดัง และมีราคาแพงระยับ

ชุดเกราะที่เทพีกระบี่หิมะไร้นามกำลังสวมใส่อยู่ในขณะนี้ นอกจากมันจะช่วยส่งเสริมเรือนร่างของนางให้ดูเย้ายวนใจอย่างประหลาดแล้ว ยังช่วยเสริมการโจมตีและการป้องกันเวลาที่โคจรพลังลมปราณใส่เข้าไปอีกด้วย

กลุ่มเทพเจ้าในชุดเกราะหนังที่กำลังตามล่าตัวเทพีกระบี่หิมะไร้นาม บัดนี้พวกเขากำลังพากันหันกลับวิ่งหนีแตกกระเจิงไปทันที

“พวกเจ้าจะหนีไปไหน จงรอรับการล้างแค้นจากข้าเสียดีๆ วะฮ่าฮ่าฮ่า”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามซื้อชุดเกราะทองคำนี้ด้วยคะแนนศรัทธาถึง 1,000 แต้ม แต่มันก็ทำให้นางไม่ต้องหวาดกลัวผู้ใดอีกแล้ว

กระบี่ในมือข้างหนึ่งฟันออกไป

“ฉัวะ!”

คมกระบี่แห่งความแค้นสาดประกายในอากาศ

“อ๊าก…”

“เทพีชั้นต่ำอย่างนาง ไปเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์พวกนี้มาจากไหน?”

“พวกเรารีบหนีเร็ว”

กลุ่มเทพเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ตามล่า ขณะนี้กลับต้องเป็นฝ่ายหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต

แต่ในที่สุดแล้ว พวกเขากลับสามารถรอดชีวิตไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำ ยังหลบหนีไปได้ในสภาพปางตายอีกด้วย

เทพีกระบี่หิมะไร้นามไม่ได้ไล่ตามไปอีกแล้ว

“เฮ้อ ไม่คิดไม่ฝันเลยนะว่าเราจะมีวาสนาได้ใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์กับเขาเหมือนกัน หุหุ ครั้งนี้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เราคงต้องช่วยน้องชายคนนั้นแล้วจริงๆ”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก

นางมั่นใจว่าด้วยชุดเกราะและอาวุธที่ตนเองครอบครองอยู่ขณะนี้ คงไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องนางอีกแล้ว

“อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าพวกนั้นจะกล้ามาตามล่าข้าอีกไหม?” เทพีกระบี่หิมะไร้นามพูดด้วยความตื่นเต้น

หลังจากนั้น เทพีกระบี่หิมะไร้นามก็โคจรพลังลมปราณ

แล้วลำแสงสีแดงก็ปกคลุมทั่วร่างกาย

ชุดเกราะและกระบี่เหล่านั้นเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกำไลที่สวมใส่อยู่บนข้อมือทั้งสองข้าง และมันก็เป็นกำไลที่มีลวดลายเปลวไฟสวยงามมีชีวิตชีวา เวลาที่เทพีกระบี่หิมะไร้นามยกไม้ยกมือกรีดกราย กำไลสีแดงเหล่านั้นก็ยิ่งสะท้อนประกายดูโดดเด่นสะดุดตา

“อุ๊ย… เกือบลืมไปเลย ก่อนหน้านี้ข้าจ่ายค่ามัดจำให้สมาคมช่างซ่อมวิหารประจำดินแดนทวยเทพแล้วนี่นา ป่านนี้พวกเขาคงส่งคนมาซ่อมวิหารให้ข้าแล้ว… ต้องรีบกลับไปแล้วสิ”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามโคจรพลังลมปราณอีกครั้ง แล้วปีกกระบี่คู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของนาง

เทพีกระบี่หิมะไร้นามโผบินขึ้นไปในอากาศ

หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียว นางก็กลับมาถึงวิหารของตนเอง

มีเทพเจ้าซึ่งเป็นนายช่างยืนรออยู่ที่หน้าประตูประมาณสิบคน แบ่งเป็นชายห้าหญิงห้า ยืนอยู่สองฟากฝั่งของทางเดิน รอต้อนรับการมาถึงของเทพีกระบี่หิมะไร้นามเหมือนนางเป็นผู้สูงส่ง

“ฮื่อ ขออภัยทุกท่าน ข้ามาสายไปนิดหน่อยสินะ…”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามรีบส่งยิ้มขออภัยทันทีที่ทิ้งตัวกลับลงมายืนบนพื้นดิน

“ไม่มีปัญหา แต่ว่ากันตามกฎหมายคุ้มครองนายช่างประจำดินแดนทวยเทพ ท่านต้องจ่ายค่าล่าช้าให้กับพวกเราเป็นคะแนนศรัทธาจำนวน 1 แต้ม…” หนึ่งในกลุ่มเทพีทางซ้ายมือยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาให้ “กรุณาลงนามยืนยันด้วยเจ้าค่ะ”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

เจ้าพวกนี้ ช้านิดช้าหน่อยก็หักเงิน ไม่รู้จักเห็นใจกันบ้างเลย

นางรับแผ่นกระดาษกับปากกาขนนกมาลงนาม เรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจ “แบบแปลนการก่อสร้างเอาตามที่ข้าเลือกไว้ก่อนหน้านี้นั่นแหละนะ พวกท่านเริ่มการบูรณะได้เลย ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลานานหรือไม่?”

“เพียงก้านธูปเดี๋ยวก็เสร็จสิ้นแล้ว” เทพีหน้าเหลี่ยมอีกหนึ่งนางกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“แล้วถ้าข้าอยากให้ท่านช่วยสร้างค่ายอาคมรอบวิหารใหม่ทั้งหมด ไม่ทราบว่าคิดราคาเท่าไหร่?”

“ถ้าอย่างนั้น เราคงต้องคิดค่าบริการเป็นคะแนนศรัทธาเพิ่มอีก 100 แต้ม”

“ไม่ทราบว่ามีบริการดูแลหลังการขายหรือไม่?”

“ท่านลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการหลังการขายของเราได้ 3 แพ็คเกจ ครอบคลุมระยะเวลาการดูแล 100 ปี 300 ปีและ 600 ปีตามลำดับ สนนราคาอยู่ที่คะแนนความศรัทธา 20 แต้ม  30 แต้ม และ 50 แต้มตามลำดับเช่นกันเจ้าค่ะ…”

“หา แค่อยากได้รับการดูแลหลังการขายยังต้องเสียเงินอีกหรือ มิน่าเล่า พวกท่านถึงได้รวยเอารวยเอา…”

แล้วเวลา 1 ก้านธูปก็ผ่านพ้นไป

เทพีกระบี่หิมะไร้นามยืนบ่นว่าตนเองโดนเอารัดเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดแสงสว่างแวววาวขึ้นเบื้องหน้า ดวงตาของนางก็พร่าพราย แล้ววิหารหลังใหม่ก็ปรากฏขึ้นในสายตา…

ที่จริงมันก็คือวิหารหลังเดิมซึ่งสุดแสนจะซอมซ่อน่าอนาถใจของนางนั่นเอง ทว่า บัดนี้วิหารที่เก่าแก่ได้รับการบูรณะใหม่รวมถึงมีการสร้างค่ายอาคมขึ้นมารอบบริเวณ… เทพีกระบี่หิมะไร้นามจึงต้องยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงแล้ว

หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกมากหลายผสมปนเปกัน

สายลมโชยพัดมาแผ่วเบา

น้ำตาหยดหนึ่งค่อยๆ ไหลออกมาจากหางตาของเทพีกระบี่หิมะไร้นาม

“ท่านลูกค้าได้เวลาจ่ายค่าบูรณะทั้งหมดแล้ว”

เทพเจ้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนายช่างเดินเข้ามาทวงเงินค่าแรงด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

เทพีกระบี่หิมะไร้นามถูกขัดจังหวะอารมณ์ความซาบซึ้ง แต่นางก็ไม่ได้หงุดหงิด มิหนำซ้ำ ใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์

รอยยิ้มของนางทำให้รอบบริเวณเหมือนจะมีดอกไม้บานอยู่ทุกหนทุกแห่ง

บนดินแดนทวยเทพ เทพีหน้าตางดงามนั้นมีอยู่มากมายเกินที่จะนับ

และบรรดาเทพเจ้าที่เป็นนายช่างก็ได้ชื่อว่าเป็นพวกอารมณ์ตายด้านมากที่สุดแล้ว

แต่บัดนี้ เมื่อพวกเขาได้พบเห็นรอยยิ้มของเทพีกระบี่หิมะไร้นาม นายช่างเหล่านั้นก็อดตกตะลึงไม่ได้ พวกเขารู้สึกราวกับว่ารอยยิ้มที่ได้เห็นอยู่นี้ เป็นยิ้มที่สวยงามที่สุดในชีวิตอย่างที่ทุกคนไม่เคยพบเห็นมาก่อน

“รอสักครู่”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามพูด และกดเปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง และส่งข้อความไปหาเด็กหนุ่มผู้นั้นว่า “เจ้าได้เงินมาแล้วหรือยัง?”

“ได้มาแล้ว”

“ประเสริฐ ถ้าอย่างนั้นก็โอนมาให้ข้าก่อน 100,000 เหรียญทองคำ ส่วนที่เหลือ… ถ้าเจ้าได้ครบแล้ว จะโอนมาพร้อมกันเลยก็ได้”

“เดี๋ยวสิ จะเอาไปหมดเลยหรือไง เกิดท่านไม่ยอมดำเนินการให้ข้าขึ้นมา ข้าก็เสียเงินเปล่ากันพอดี”

“เฮ้อ เจ้าช่วยทำให้ข้ามั่นใจหน่อยได้ไหมว่าข้าเป็นเทพเจ้าบนดินแดนทวยเทพจริงๆ ไม่คิดจะเชื่อใจกันบ้างเลยหรือไร”

“แหม ก็ก่อนหน้านี้ใครกันล่ะที่หลอกเงินข้าไปจนหมดตัว? รู้ไหมว่ากว่าที่ข้าจะหาเงินก้อนนี้มาได้ ข้าต้องลำบากเสี่ยงตายขนาดไหน…”

“นี่เจ้าจะไม่เชื่อใจข้าจริงๆ ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ลองโอนเงินทั้งหมดดูสิ”

“ไม่มีทาง ใครทำแบบนั้นก็โง่เต็มทีแล้ว”

ติ๊ง!

หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเทพีกระบี่หิมะไร้นามเป็นประกายสว่างไสวเล็กน้อย แล้วบัญชีส่วนตัวของนางก็มีคะแนนความศรัทธาเพิ่มขึ้นมาเป็น 10,000 แต้มพอดิบพอดี

แล้วดวงตาของเทพีสาวก็เป็นประกายด้วยความสมหวัง

“อิอิ แค่นี้ก็เรียบร้อย” นางจัดการจ่ายเงินซื้อบริการหลังการขายเป็นเวลา 300 ปี หลังจากโอนคะแนนให้หัวหน้ากลุ่มนายช่างเรียบร้อยแล้ว เทพีกระบี่หิมะไร้นามก็เดินเต้นระบำเข้าไปในวิหารหลังใหม่ของตนเองด้วยความสุขใจ

ค่ายอาคมที่ถูกสร้างไว้รอบบริเวณเริ่มต้นทำงาน

มันแผ่รัศมีคอยดูแลความปลอดภัยปกคลุมพื้นที่หลายร้อยลี้

ฟึบ!

เทพีกระบี่หิมะไร้นามถอดเสื้อผ้าออกและกระโดดลงไปนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ

หลังจากผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบร้อยแล้ว นางก็นำโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความอีกครั้ง

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เทพีกระบี่ยินดีให้ข้าเข้าพบ นางอยากทราบว่าน้องชายมีเรื่องอันใดอยากรบกวนหรือ?”

ณ เมืองหยุนเมิ่ง

วิหารเทพกระบี่

ชาวเมืองกว่า 20,000 ชีวิตมารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความน่ากลัว

บัดนี้ นักโทษจำนวนนับร้อยชีวิตถูกล่ามโซ่ตรวนยืนรวมกลุ่มกันอยู่บนเวทีขนาดใหญ่

ด้านล่างเป็นกองฟืนที่ถูกนำมาเตรียมพร้อมสำหรับการย่างสด

กลิ่นของไม้ฟืนสดใหม่ลอยคลุ้งในอากาศ

เจ้าหน้าที่มือปราบคนหนึ่งยืนถือคบเพลิงอยู่ด้านข้างกองฟืน เตรียมพร้อมที่จะจุดไฟได้ตลอดเวลา

ขอแค่เขาโยนคบเพลิงในมือลงไปบนกองฟืนเท่านั้น เปลวไฟก็จะลุกโชนสว่างไสวและเผาไหม้ผู้คนที่ถูกจับโยนเข้ากองไฟอย่างช้าๆ นี่คือการชำระบาปที่ทุกคนทราบกันดี มันเป็นบทลงทัณฑ์สำหรับผู้ที่กระทำผิดอย่างไม่อาจให้อภัย

ถังกู่จินยืนอยู่บนเวทีมอบรางวัลที่ยังไม่ได้รื้อถอนออกไป รอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า เพราะเขาทราบดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตนเองทั้งหมดแล้ว