กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 674
จอมมารใช้ดอกลำโพงของตัวเองเป็นม่านเกราะป้องกันให้กับรถม้า เพื่อป้องกันว่าจะไปถูกน้ำฝนกัดกร่อนของพวกเขา

เจี้ยงเสวี่ยตกใจอย่างมาก

เขาอยู่ภายนอก แต่กลับรับรู้ได้ว่าด้านหลังของเขานั้นมีพลังอาฆาตสังหารร้ายแรงติดตามพวกเขาอยู่ และระยะห่างนั้นก็ยิ่งใกล้เข้ามา หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องถูกตามทันอย่างแน่นอน

ทันใดนั้นจอมมารก็กล่าวขึ้น “ไล่ตามพวกเรานั้นไม่ได้มีเพียงสองคน แต่เป็นสามคน อีกคนหนึ่งนั้นมียอดฝีมือสูงสุดระดับหก”

หัวใจของเสี่ยวลู่เต้นแรงมาก

ยอดฝีมือระดับหกสองคนก็ยากที่จะจัดการแล้ว

ยังมียอดฝีมือสูงสุดระดับหกมาอีกคน พวกเขายังมีทางรอดชีวิตอีกหรือไม่?

กู้ชูหน่วนส่ายหน้าและลืมตาที่ปิดสนิท “ไม่ ไม่ใช่สามคน แต่เป็นสี่คน”

จอมมารตั้งใจรับรัศมีนั้นและใบหน้าที่หล่อเหลานั้นก็ดูเคร่งขรึมขึ้น

“สี่คน ยอดฝีมือสูงสุดระดับหกสี่คน เพียงแค่รัศมีของคนที่สี่นั้นปิดกั้นได้ดีมาก หากไม่ตั้งใจรับรู้คงรับรู้ไม่ได้อย่างแน่นอน”

เสี่ยวลู่อุทาน “ยอดฝีมือสูงสุดระดับหกสี่คน? หรือว่าจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่คนของเผ่าเพลิงฟ้าที่ไล่ตามมา? เช่นนั้นแล้วท่านผู้อาวุโสสูงล่ะ? หากท่านผู้อาวุโสสูงไม่เป็นอะไร เช่นนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้พวกเขาไล่ตามฆ่าพวกเราอย่างแน่นอน จะต้องเกิดเรื่องขึ้นกับท่านผู้อาวุโสสูงแน่นอน”

“ไม่ ถึงแม้ว่าทั้งสี่คนจะเป็นยอดฝีมือสูงสุดระดับหก แต่นอกจากผู้อาวุโสสูงอั้นเฮยและผู้อาวุโสสูงเสวี่ยเย่แล้ว รัศมีของอีกสองคนนั้นข้าไม่เคยเห็นมาก่อน คาดว่าไม่น่าจะใช่สี่คนก่อนหน้านี้”

เผ่าเพลิงฟ้าทำเพื่อต้องการได้ครอบครองไข่มุกมังกร ช่างเพียรพยายามอย่างมาก แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดในเผ่าก็ได้ส่งออกมา

“นายท่าน ข้าน้อยจะล่อพวกเขาไปทางอื่น ท่านนำไข่มุกมังกรไปกับจอมมารและคนอื่นๆ ก่อน”

“จะไปทางไหน พวกเราทุกคนถูกจับจ้องไว้หมดแล้ว เรามีกันห้าคนตรงนี้ คนหนึ่งบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ให้แยกห้าคนออกเป็นสี่ทางอย่างนั้นหรือ?” หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงเป็นการปล่อยให้พวกเขาจัดการพวกเราน่ะสิ?

กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่นและจ้องมองไปข้างหน้า “ท่านผู้อาวุโสสูงเคยบอกกับข้าว่า ทางเข้าเผ่าหยกนั้นยังมีเส้นทางที่สอง นั่นก็คือกระโดดลงไปจากหน้าผาตรงนั้น”

“ทางเส้นนั้นมีความอันตรายอย่างมากและยังมีค่ายกลฆ่าสังหารอีกจำนวนมาก ตอนนั้นที่ทำเส้นทางนั้นสำรองไว้ก็เพื่อป้องกันยอดฝีมือระดับสูง การจะเดินทางเส้นทางนั้นจะเป็นเรื่องอันตรายเกินไปหรือไม่?”

“จะรอดได้ก็ต่อเมื่อถึงที่ตาย หากไม่สามารถผ่านพ้นความอันตรายนี้ไปได้ เช่นนั้นแล้วจะหลุดพ้นจากยอดฝีมือสูงสุดทั้งสี่คนของเผ่าเพลิงฟ้าไปได้อย่างไร เจี้ยงเสวี่ย เจ้าเร่งความเร็วอีกหน่อย พวกเขาจะไล่ตามมาทันแล้ว”

“พระชายา ความเร็วสูงสุดแล้วขอรับ ไม่สามารถเพิ่มได้อีกแล้วขอรับ”

ตรงหน้าก็คือหน้าผาแล้ว เจี้ยงเสวี่ยแทบอยากมีปีกออกมาและพาพวกเขาบินไป

แต่เขาตื่นตระหนกและประหม่าอย่างมาก ภูมิศาสตร์ของที่นี่ช่างสูงชันและไม่รู้ว่าหน้าผานี้มีความลึกมากเพียงใด จะกระโดดลงไปทั้งรถม้าทั้งคนเลยอย่างนั้นหรือ?

เขายอมตายได้

แต่หากนายท่านเป็นอะไรไป เช่นนั้นแล้วเขาควรทำเช่นไร?

“เมื่อถึงยอดหน้าผาเจ้าห้ามลดความเร็วเด็ดขาดและพุ่งลงหน้าผาไปเลย จำไว้ เจ้าไม่มีเวลาที่จะลังเลใจ หากเจ้าเกิดความลังเลขึ้นในใจ เราทุกคนจะตายไปพร้อมกับเจ้า”

“ขอรับ……”

เจี้ยงเสวี่ยถอนหายใจอย่างแรง

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าพระชายาจะมีแผนการอะไรรองรับอยู่ภายหลังหรือไม่ แต่เขาก็เชื่อนายท่าน สายตาของนายท่านนั้นไม่แย่เด็ดขาด นางต้องไม่เล่นสนุกกับชีวิตของนายท่านอย่างแน่นอน และยิ่งไม่ล้อเล่นกับชีวิตของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วพระชายาของพวกเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์มาโดยตลอด

ในที่สุด……

พวกเขาก็เร่งความเร็วจึงไปถึงยอดหน้าผา รัศมีสังหารทั้งสี่ก็ไล่ตามมาติดๆ

“ชิ้ว……”

เถาวัลย์เขียวเลื้อยคลานเข้ามาราวกับพยายามปิดกั้นอย่างแน่นหนา โดยไม่มีใครยอมใคร

“นายท่าน พาจอมมารไปที่เผ่าหยกด้วยหรือ?”

“พูดจาเหลวไหล จะให้ทิ้งเขาไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือ?”

เสี่ยวลู่กุมหน้าอกแน่น

เผ่าหยกไม่เคยอนุญาตให้คนนอกเข้าไป แต่ตอนนี้นายท่านกลับพาคนนอกเข้าไปทีเดียวพร้อมกันสามคน เช่นนั้นแล้วผู้อาวุโสในเผ่าจะต้องโกรธอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามากพอให้พวกเขาเลือกอีกต่อไปแล้ว หากทิ้งใครไว้เช่นนั้นจะต้องจบชีวิตลงอย่างแน่นอน

จอมมารยิ้มและดวงตาหลากสีของเขาถูกย้อมด้วยความภาคภูมิใจและความสุขเล็กน้อย และมองดูเสี่ยวลู่อย่างยั่วยุ ราวกับว่ากำลังอวดเสี่ยวลู่

“ระวัง”

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง

เมื่อจอมมารตระหนักได้ก็สายไปเสียแล้ว ดอกลำโพงของเขาถูกเถาวัลย์เขียวเกี่ยวรั้งเข้าอย่างรวดเร็วและคดเคี้ยวไปมาจนเกือบกลืนกินเขาเข้าไป หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนตัดสินใจเฉียบขาดและตัดดอกลำโพงของเขาขาดได้อย่างรวดเร็ว เช่นนั้นก็เกรงว่ามือขวาของจอมมารคงพังไปแล้ว

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่หญิงต้องเป็นห่วงข้า”

ประสาทหรือ

นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะออดอ้อนอะไรนางอีก ไม่เห็นหรือว่าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ไล่ตามมาติดๆ แล้ว?

“อวี้ (เสียงม้า)……” ดังขึ้น กู้ชูหน่วนแทงดาบอ่อนไปที่ขาหลังขาม้าและแย่งบังเหียนจากมือของเจี้ยงเสวี่ย จากนั้นเร่งความเร็วอย่างไม่ลังเลเพื่อพุ่งลงไปที่หุบเหวข้างล่าง

“อ่า……”

แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะกระโดดลงไปจากหน้าผาที่สูงมากเช่นนี้ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความตกใจ

เมื่อชุดสีแดงของจอมมารแวบหายเขาก็ไปโอบเอวของกู้ชูหน่วนและตกลงมาจากหน้าผาพร้อมกับนาง

แม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะกอดกู้ชูหน่วนเพื่อจะได้ตายไปพร้อมกัน

และในขณะที่พวกเขากำลังกระโดดลงจากหน้าผา ผู้อาวุโสสูงทั้งสี่ก็ไล่ตามทันพวกเขา

เมื่อเห็นพวกเขากระโดดลงไปจากหน้าผา เถาวัลย์เขียวของผู้อาวุโสสูงเสวี่ยเย่ก็เลื้อยออกมา เพื่อต้องการจะคว้าพวกเขาขึ้นมา

ฝนกรดของผู้อาวุโสสูงอั้นเฮยก็ตกลงมาอย่างหนัก เพื่อต้องการจะรั้งพวกเขาไว้

และยังมีผู้อาวุโสสูงอีกสองคนก็ลงมือด้วยเช่นกัน

แต่……

ไม่น่าแปลกใจเลยก็คือ มีพละกำลังอันแข็งแกร่งได้ปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องล่าถอย

ผู้อาวุโสสูงทั้งหมดต่างตกตะลึง

พลังอันแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก

หรือว่าข้างในจะมียอดฝีมือระดับเจ็ด?

ไม่ ไม่ใช่ยอดฝีมือระดับเจ็ด

แต่เป็นเพราะที่นี่เคยมียอดฝีมือระดับเจ็ดได้สร้างค่ายกลพิฆาตร้ายแรงขึ้นและค่ายกลสังหารนี้ได้สกัดกั้นพวกเขาเอาไว้

ลูกเป็ดที่กำลังจะตกอยู่ในมือกลับหนีไปได้ พวกเขาจะยอมได้อย่างไร

หากนี่เป็นไข่มุกมังกรเม็ดที่หกก็แล้วไป แต่กลับเป็นไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด

หากนำไข่มุกมังกรเม็ดนี้กลับไป เช่นนั้นเผ่าหยกก็อาจกำจัดทำลายพิษคำสาปโลหิตได้

หากพวกเขาถอนคำสาปโลหิตได้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะต้องกลับมาล้างแค้นเผ่าเพลิงฟ้าอย่างแน่นอนไม่ใช่หรือ?

ไม่ พวกเขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

ผู้อาวุโสสูงทั้งหมดต่างไม่ยอม และพยายามคิดหาวิธีทำลายค่ายกลนี้ พวกเขาเชื่อว่าหุบเหวของหน้าผานี้จะต้องเป็นทางเข้าของเผ่าหยกอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะผู้อาวุโสสูงเสวี่ยเย่ เขาเพิ่งจะทราบเมื่อสักครู่นี้เองว่าน้องชายแท้ๆ ของเขาผู้อาวุโสสูงเสวี่ยเยี่ยได้ถูกกู้ชูหน่วนและพวกฆ่าสังหารลงที่ขั้วโลกเหนือ

และตอนนี้ก็แค้นนั้นก็เพิ่มมากขึ้น เขาจะปล่อยไปได้เช่นไร

ที่ด้านล่างของหน้าผา กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ต่างตกลงบนใบบัวอย่างรุนแรง

และสิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ ใบบัวกลับไม่ได้หักงอหรือบิดเบี้ยวจากการที่พวกนางตกลงมา แต่กลับราวกับมีความยืดหยุ่นและรองรับดีดเด้งกู้ชูหน่วน เสี่ยวลู่และรวมไปถึงเยี่ยจิ่งหาน

กู้ชูหน่วนปัดชุดที่ไม่เป็นระเบียบบนเรือนร่างและมองขึ้นไปยังยอดหน้าผาที่ไม่อาจคะเนความสูงได้ จากนั้นรู้สึกตกใจมากที่กระโดดลงมาจากที่สูงลิบลิ่วแต่กลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

และเมื่อมองไปยังสระบัวที่ไร้ร่องรอยก็ยิ่งทำให้นางเกิดความสงสัย

“อ่า……”