ตอนที่ 2008 ก่อนที่สงครามะเริ่มต้น (2)
ถ้าอย่างนั้นข้า…ก็ต้องแก้แค้นให้ท่านประมุข!
ไม่ว่าเจ้าหรือคนอื่นที่ช่วยเจ้าก็ต้องตาย
สำนักอิสระไม่ใช่สำนักเล็กๆ แต่เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง มีตำหนักใหญ่ตั้งอยู่กลางเมืองและเป็นส่วนที่วุ่นวายที่สุด เมื่อตอนนี้สมาชิกทุกคนได้รับข่าวจากหลั่งซินเยว่ พวกเขาก็รีบมาจากทุกทิศทางแล้วมารวมตัวกันที่จัตุรัสบริเวณประตูทางเข้าของสำนักอิสระ
“แม่นางหลั่ง เหตุใดท่านถึงเรียกพวกเรามาที่นี่อย่างรีบร้อนเช่นนี้” ชายชราผู้หนึ่งที่อยู่ในฝูงชนถามอย่างสงสัย
หลั่งซินเยว่มองคนที่อยู่ด้านล่างด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ข้ามาที่นี่เพื่อแจ้งพวกเจ้าว่า—ท่านประมุข…ตายแล้ว”
อะไรนะ
ท่านประมุขตายแล้วงั้นหรือ
ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงและบางคนก็ตัวสั่นเทิ้ม ประมุขผู้ก่อตั้งสำนักเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสองสามปีก่อน และตอนนี้ประมุขคนปัจจุบันก็มาตายอีกเหมือนกันงั้นหรือ
สำนักอิสระ…โดนสาปหรืออย่างไร
“แม่นางหลั่ง บอกพวกเรามาว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านประมุขตายได้อย่างไร” ชายชราถามอย่างรีบร้อน เขาหายใจถี่ด้วยท่าทางที่ดูวิตกกังวล
หลั่งซินเยว่หลุบตาเล็กน้อย “ข้าผิดเอง ข้าปกป้องท่านประมุขไม่ดี…”
นางเงยหน้าขึ้นช้าๆ และทุกคนก็เห็นสายตาเสียใจของนาง พวกเขาไม่มีใจจะโทษเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งหรอก แม้แต่ท่านประมุขยังถูกสังหารก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามือสังหารแข็งแกร่งขนาดไหน หลั่งซินเยว่ต้องหนีมาจากหายนะได้ด้วยโชคแน่นอน พวกเขาจะโทษนางได้อย่างไร
“แม่นางหลั่ง เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง บอกพวกเรามาว่าใครเป็นสังหารท่านประมุขแล้วพวกเราจะไปแก้แค้นให้เขาเอง”
ขนตาของหลั่งซินเยว่สั่นเล็กน้อย “ความจริงแล้ว พวกเจ้าทุกคนก็รู้จักคนที่สังหารท่านประมุขอยู่แล้ว คนผู้นั้นก็คือ…อวิ๋นเยว่ชิง!”
ตูม!
ชื่อนี้กระแทกหัวใจของคนเหล่านี้ราวกับหินหนักๆ
คนสูงอายุพวกนี้ที่ติดตามอดีตประมุขมาหลายปีแปลกใจและส่งเสียงเซ็งแซ่ “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นอวิ๋นเยว่ชิงไปได้อย่างไร นางเป็นศิษย์ของอดีตประมุขและยังเป็นศิษย์น้องของประมุขคนปัจจุบัน นางจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร”
ดวงตาของหลั่งซินเยว่เอ่อคลอด้วยน้ำตาและความโศกเศร้า
“นางซ่อนความลับบางอย่างไว้ ท่านประมุขไม่ต้องการให้ข้าบอกพวกเจ้าเพราะความเสน่ห์หาที่เขามีให้นาง! แต่ตอนนี้ท่านประมุขก็ตายด้วยน้ำมือของนังสารเลวนั่นแล้ว ข้าจะยังปิดบังให้นางไปทำไม”
เมื่อเห็นใบหน้าโกรธขึ้งของหลั่งซินเยว่ ทุกคนก็ตะลึง เกิดอะไรขึ้นระหว่างท่านประมุขกับอวิ๋นเยว่ชิง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอวิ๋นเยว่ชิงถึงไม่ได้กลับมาที่สำนักอิสระมาหลายปี” หลั่งซินเยว่กำหมัด “ก็เพราะว่าก่อนที่อาจารย์จะตาย นางกลับมาแล้วทำบางอย่างที่ถูกท่านประมุขไปพบเข้า!”
“วันนั้นไม่นานหลังจากที่อาจารย์ตาย ท่านประมุขก็เห็นอวิ๋นเยว่ชิงกำลังค้นห้องของอาจารย์จนข้าวของกระจุยกระจายไปหมดเพื่อตามหาบางอย่างแล้วสาปแช่งอาจารย์ว่า ‘ตาแก่สวะ’ ข้าเองก็อยู่ที่นั่น ทำให้ได้ยินอย่างชัดเจนว่านางกำลังหาตราประทับ…”
ตราประทับ?
หัวใจของทุกคนดำดิ่ง หลังจากที่อดีตประมุขตาย ตราประทับก็หายไป ไม่มีใครหาตราประทับเจอเป็นเพราะอวิ๋นเยว่ชิงเอาไปงั้นหรือ
ตอนที่ 2009 ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้น (3)
หลั่งซินเยว่กวาดมองไปทั่วฝูงชน แล้วดวงตาของนางก็เข้มขึ้น “ท่านประมุขให้ความสำคัญกับอาจารย์มาตลอด เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้นจึงพุ่งเข้าไปถามอวิ๋นเยว่ชิง แต่นางก็พยายามยั่วยวนท่านประมุขเพื่อให้ปกปิดเรื่องนี้!”
ในสำนักอิสระมีเพียงแค่สองสามคนเท่านั้นที่รู้ว่าท่านประมุขรักอวิ๋นเยว่ชิง ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยเมื่อนางพูดแบบนี้ ความจริงแล้วเทียบกับอวิ๋นเยว่ชิงที่มาเข้าร่วมกับพวกเขาทีหลัง พวกเขาย่อมเชื่อหลั่งซินเยว่ที่โตมาด้วยกันในสำนักอิสระมากกว่า มีเพียงผู้อาวุโสสองสามคนเท่านั้นที่ไม่เชื่อว่าอวิ๋นเยว่ชิงเป็นคนอกตัญญูแบบนั้น…
“ท่านประมุขโกรธมากจึงทำร้ายอวิ๋นเยว่ชิง แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้นางบาดเจ็บร้ายแรงเพราะว่านางเป็นศิษย์น้องของเขา แต่ว่าอวิ๋นเยว่ชิงก็ฉวยโอกาสหลบหนีไปได้ จนเมื่อเร็วๆ นี้ท่านประมุขได้รับจดหมายจากนาง…”
“อวิ๋นเยว่ชิงบอกว่านางต้องการจะคืนดีกับท่านประมุขและนางก็รู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว ท่านประมุขยกโทษให้นางและพาคนกลุ่มหนึ่งไปตามหานางด้วยความตั้งใจที่จะพานางกลับมา”
“ไม่มีใครคาดคิดว่าอวิ๋นเยว่ชิงจะร่วมมือกับคนนอกแล้วสังหารท่านประมุข ร่วมถึงคนที่ท่านประมุขพาไปด้วย ข้าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต…”
สุดท้ายหลั่งซินเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะเอามือกุมหน้าแล้วร้องไห้ นางอธิบายได้อย่างชัดเจนจนไม่มีใครหาความผิดปกติในคำพูดของนางได้
“อวิ๋นเยว่ชิงกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร นางเป็นเพียงคนจรจัดบนถนนที่สูญเสียความทรงจำทั้งหมด อดีตประมุขเป็นคนช่วยนางแล้วทำให้นางมีชีวิตสุขสบายและมีพลังแข็งแกร่ง แล้วนี่เป็นสิ่งที่นางตอบแทนพวกเรางั้นหรือ”
“อดีตประมุขที่น่าสงสาร เขาดูแลนางเหมือนบุตรสาว นางทำตัวอกตัญญูแบบนี้ได้อย่างไร”
“นางทำเกินไปแล้ว! แม่นางหลั่ง บอกพวกเรามาว่าอวิ๋นเยว่ชิงอยู่ที่ไหน พวกเราจะไปแก้แค้นให้ท่านประมุข!”
ทุกคนเดือดดาล ถ้าอวิ๋นเยว่ชิงมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาต้องฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ แน่นอน
แน่นอนว่าก็ยังมีบางคนที่ยังมีสติอยู่ท่ามกลางฝูงชน ชายชราคนหนึ่งขมวดคิ้วแล้วถาม “แม่นางหลั่ง ท่านพูดความจริงงั้นหรือ ข้าไม่คิดว่าอวิ๋นเยว่ชิงจะเป็นคนที่ทำอะไรแบบนั้นได้”
“ผู้อาวุโสฉิน แมวยังซ่อนกรงเล็บ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าจริงๆ แล้วอวิ๋นเยว่ชิงเป็นคนอย่างไร พวกเราเห็นแม่นางหลั่งเติบโตและนางก็ไม่เคยโกหก ในความคิดของข้า อวิ๋นเยว่ชิงเป็นสัตว์ประหลาดชั่วร้ายที่โลภมากและต้องการครอบครองสำนักอิสระ!”
“ใช่แล้ว แม่นางหลั่ง บอกพวกเรามาว่าอวิ๋นเยว่ชิงอยู่ที่ไหน ท่านไม่ต้องใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ของท่านอีกต่อไปแล้ว สตรีผู้นี้ไม่มีค่าพอจะเป็นสมาชิกของสำนักอิสระของพวกเรา!”
เมื่อเห็นเหล่าคนที่เดือดดาล หลั่งซินเยว่ก็ยังใจเย็นอยู่ นางยกมือขึ้นแล้วทันใดนั้นฝูงชนก็เงียบเสียงลงเพื่อฟังนาง
“ทุกคนในเมื่ออวิ๋นเยว่ชิงมีพรรคพวกที่สามารถเอาชนะท่านประมุข ถ้าพวกเราไปหานางแบบนี้ก็ไม่ต่างกับรนหาที่ตาย”
ทุกคนยังคงเงียบเพื่อรอคำพูดต่อมาของหลั่งซินเยว่
จากนั้นภายใต้สายตาของทุกคนที่จ้องมา หลั่งซินเยว่พูดต่อ “แต่ว่าอาจารย์ได้ให้คัมภีร์ลับกับข้าที่เขียนถึงวิธีที่ทำให้สามารถผ่านด่านเลื่อนระดับเป็นขั้นเซียนจักรพรรดิได้อย่างรวดเร็ว! ถ้าข้าเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนจักรพรรดิแล้ว ข้าจะต้องกลัวคนพวกนั้นไปทำไม”
ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนจักรพรรดิ…
คำพูดเหล่านี้แตะโดนขั้วหัวใจของทุกคนอย่างจังจนทำให้พวกเขาอ้าปากค้าง และหัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด