บทที่ 1542+1543

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1542 ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้ว่างจนเบื่อหน่าย 3

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เธอก็เป็นเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว

จะเจ้าแง่แสนงอน จะโผเข้ากอด จะร้องห่มร้องไห้…

นิ้วมือของตี้ฝูอีพลันชี้ปลายจมูกนาง “โง่งม เจ้าเผายันต์ถ่ายทอดเสียงจนมอดไหม้แล้ว สองวันมานี้ข้าอยากติดต่อเจ้าแค่ไหนก็ติดต่อไม่ได้ นี่ไม่ใช่ว่าเพิ่งทำธุระมาได้ช่วงหนึ่ง ข้าก็มาหาเจ้าแล้วหรือไร”

เมื่อเขาอธิบายเช่นนี้ ทำให้กู้ซีจิ่วรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ส่งเสียงชิคราหนึ่ง “ไม่ได้โทษท่านเสียหน่อย…” หากเขาไม่ได้เย็นชาต่อเธอ ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการหมางเมิน ทำให้เวลาเธอทำสิ่งใดก็คิดฟุ้งซ่าน ไม่เช่นนั้นจะเผายันต์ถ่ายทอดเสียงได้อย่างไร?

“อืม โทษข้าเอง” ตี้ฝูอีกลับยอมรับความผิด ใช้คางถูไถกลางศีรษะนาง “ไม่โกรธแล้วนะ หืม?”

กู้ซีจิ่วไม่ได้โกรธเขา อย่างไรเสียฐานะของเขาก็ค้ำคออยู่ตรงนั้น ยุ่งง่วนในช่วงนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ

อวี่ผู้ยิ่งใหญ่แก้ปัญหาน้ำท่วม ผ่านบ้านสามครั้งแต่ไม่เข้า เขาแข็งแกร่งกว่าอวี่ผู้ยิ่งใหญ่ยิ่งนัก และไม่มาหาเธอแค่เพียงสองวันเอง…

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ใช้แขนข้างหนึ่งกอดเขากลับด้วยเห็นแก่หน้าของเขา “ยากนักที่ท่านจะมาหาข้าที่บ้านด้วยตัวเอง ครั้งนี้คิดจะมาหาข้าเดี๋ยวเดียวแล้วจากไปหรือ”

ตี้ฝูอียิ้ม โอบเอวนางไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง “ไป ข้าพาเจ้าออกไปเที่ยว!”

สองปีมานี้ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นั้นทำลายทวีปแห่งนี้ไปไม่น้อย บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

หลังจากตี้ฝูอีกลับมาใหม่ ยังมีอีกหลายสิ่งที่รอการฟื้นฟู ประชาชนต้องได้รับการบำรุงขวัญ ขุนนางต้องได้รับการปรับเปลี่ยน ปัญหาหลังเกิดศึกสงครามต้องได้รับการเยียวยา…

บางอย่างเขาต้องไปจัดการด้วยตัวเอง บางอย่างก็ต้องมาถามจากเขา

สมแล้วที่เขาเป็นผู้ปกครองทวีปแห่งนี้ จัดการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยให้กลับมาเหมือนเดิมได้อย่างง่ายดาย ในเวลาไม่เกินสิบกว่าวัน ทวีปแห่งนี้หวนคืนความมีชีวิตชีวาไม่น้อย ชาวบ้านที่ระหกหะเหินสิ้นเนื้อประดาตัวก็กลับบ้านได้อีกครั้ง ทำไร่ไถนา ทำประมง ทอผ้าล่าสัตว์ ค่อยๆ กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ดังเดิม

กู้ซีจิ่วรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เมื่อเดินไปตามท้องถนน ถึงแม้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีสีหน้าซีดเซียว ทว่ามีชีวิตชีวายิ่งนัก เดินเหินอย่างวีรบุรุษผู้กล้า ทำการสิ่งใดมีคึกคักฮึกเหิม

หลายวันมานี้ กู้ซีจิ่วนับว่าเป็นที่รู้จักดีนัก ชาวบ้านตามท้องถนนแทบทุกคนรู้จักเธอ

หลังเธอออกจากบ้านไม่นานก็มีคนจำได้ เปรียบเสมือนดาราที่มีแฟนคลับรายล้อม ก้าวเดินลำบากยิ่งนัก พวกเขากล่าวทักทายเธออย่างกระตือรือร้น ถามไถ่สารทุกสุขดิบเธอ…

ทว่าตี้ฝูอีกลับสวมชุดสีเขียวเรียบง่ายอยู่ข้างกาย เขาเก็บซ่อนความสามารถและปกปิดรูปลักษณ์กึ่งหนึ่ง พวกชาวบ้านจึงจำเขาไม่ได้ ยังคิดว่าเขาเป็นสหายของกู้ซีจิ่ว จึงมองข้ามเขาไป…

แน่นอนว่าต่อให้เขาปกปิดรูปลักษณ์ไปกึ่งหนึ่งแล้วก็ยังหล่อเหลาล่มบ้านล่มเมือง ดึงดูดสายตาสตรีผู้งดงามไม่น้อย พวกนางแอบส่งสายตาให้เขา สอบถามฐานะของเขาเป็นการส่วนตัว

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เข้าใจว่าทำไมตี้ฝูอีถึงได้สวมใส่หน้ากากบดบังใบหน้าไว้ตลอดเวลา เพราะหากออกมาเที่ยวเตร่ ด้วยรูปลักษณ์แท้จริงที่ไม่ได้แปลงโฉม คนก็จะจำได้!

เขาในชุดเรียบง่ายตามติดข้างกายเธอในยามนี้ รอยยิ้มบนริมฝีปากอ่อนโยนยิ่งนัก มองไม่เห็นรอยยิ้มที่เฉียบคม ถึงขั้นที่ดูอารมณ์ดี ราวกับคุณชายตระกูลสูงส่งเดินทางท่องเที่ยวยามวสันต์ มองดูสบายตายิ่งนัก

กู้ซีจิ่วไม่ถนัดการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ หลังจากเธอรับมืออยู่ไม่นานก็ลากตี้ฝูอีหายตัวไป

พฤติกรรมเช่นนี้ของเธอย่อมทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าลึกลับซับซ้อน และความลึกลับซับซ้อนแสดงถึงความสูงศักดิ์ เหล่าชาวบ้านยิ่งเคารพบูชาเธอถึงขั้นที่มีบางคนหมอบกราบคำนับไปยังทิศทางที่เธอหายตัวไป ประหนึ่งพบเจอเทพเซียนก็ไม่ปาน…

ช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปต่อมา ณ ตรอกที่ค่อนข้างเงียบสงบห่างไกลแห่งหนึ่ง กู้ซีจิ่วซักถามตี้ฝูอีที่อยู่ข้างกาย…

————————————————————————————-

บทที่ 1543 ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้ว่างจนเบื่อหน่าย 4

“ท่านรู้อยู่แล้วกระมังว่าจะดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้าง? เหตุใดจึงไม่เตือนข้าเล่า?”

ตี้ฝูอีพลันกอดอก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ความรู้สึกที่มีคนเคารพนับถือเช่นนี้เป็นอย่างไร?”

กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง

แรกเริ่มย่อมรู้สึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็รู้สึกหวาดระแวงอยู่บ้าง ทำสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำตามใจชอบไม่ได้

กู้ซีจิ่วเข้าใจเหตุผลหลักที่ตี้ฝูอีใช้ฐานะตัวตนมากมายขนาดนี้ท่องไปทั่วอาณาจักรอย่างอิสระเสรีแล้ว…

ฐานะเทพศักดิ์สิทธิ์ของเขาสูงส่งเกินไป หนาวเหน็บและเงียบเหงา เขาย่อมรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่แล้ว

ทว่าก็ไม่อาจละทิ้งฐานะนั้น ดังนั้นหากเขาต้องการทำสิ่งใดก็เปลี่ยนไปใช้ฐานะคนธรรมดาได้! แสวงหาความสำเร็จ เสาะหาความท้าทาย…

เธอทอดถอนใจ “ข้าก็อยากเปลี่ยนฐานะไปเที่ยวเตร่ได้อย่างมีความสุข!”

ตี้ฝูอีดึงนางแล้วเดินไป “เช่นนั้นยังมัวรีรออันใด? ไปสิ! พวกเราเปลี่ยนฐานะไปเที่ยวกัน!”

ภายในโกดังร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง เสื้อผ้ามากมายหลากหลายละลานตา

ตี้ฝูอีลากกู้ซีจิ่วไปยืนอยู่ในโกดัง ชายเสื้อพลันสะบัด “เสื้อผ้าที่นี่ครบครัน สามลัทธิเก้าอาชีพ[1]ล้วนมีหมด เจ้าอยากเปลี่ยนเป็นฐานะอะไร? ข้าจะเปลี่ยนตามให้เข้ากับเจ้า”

กู้ซีจิ่วนึกไม่ถึงว่าเขาจะถูกใจเสื้อผ้าของร้านตัดเสื้อธรรมดา ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเขาจะพาเธอมาเพื่อขโมยมัน!

ทั้งสองคนแอบลอบเข้าทางประตูหลังประหนึ่งหัวขโมย!

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าน่าขบขันทว่าก็ประหลาดใจ เธอครุ่นคิดแล้วจึงเลือกเสื้อผ้าชุดหนึ่ง นั่นคือชุดของแม่ค้าธรรมดา เธอแปลงโฉมอีกครั้ง ยังคงเป็นหญิงงามคนหนึ่ง แต่ไม่ได้งามขนาดทำให้ผู้คนเห็นแวบหนึ่งแล้วไม่อาจละสายตาได้

ตี้ฝูอีเปลี่ยนชุดทันทีเช่นกัน เป็นคุณชายเจ้าของกิจการ มือถือพัดจีบ มีหยกห้อยเอว ทุกท่วงท่ากิริยาแฝงด้วยความหล่อเหลาสง่างามที่ค่อนข้างเฉิ่มเชย

กู้ซีจิ่วมองดูรูปลักษณ์เช่นนี้ของเขา อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วหัวแม่มือให้ “ยอดเยี่ยม!”

คนผู้นี้แปลงเป็นมังกรเหมือนมังกร แปลงเป็นพยัคฆ์เหมือนพยัคฆ์ ยามนี้ หากไม่ใช่เพราะเธอรู้ว่าเป็นเขา พบเจอและถูกเขาเดินชนเข้าบนท้องถนนเกรงว่าคงไม่มีทางจำได้!

ตี้ฝูอีจูงมือนาง “ไปกันเถอะ พวกเราไปเดินเล่นกัน!”

กู้ซีจิ่วยังคงมีขีดจำกัดยิ่งนัก ก่อนจากไป เธอทิ้งทองคำขาวก้อนโตไว้บนชั้นวางของหลายก้อนเพื่อชดเชยความเสียหายของร้านนี้

ทั้งสองคนเดินเล่นบนถนนอย่างสบายอารมณ์

ความจริงกู้ซีจิ่วไม่ได้เดินเล่นมาเป็นเวลานานแล้ว ยามนี้จึงเดินอย่างสบายอดสบายใจยิ่งนัก

โดยเฉพาะยามมีเขาอยู่เป็นเพื่อนข้างกาย ความสบายใจยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

วันนี้ตี้ฝูอีมีความอดทนยิ่งนัก เดินเล่นเป็นเพื่อนเธอไปตามถนน เยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ มากมาย พบเจอสิ่งของที่เหมาะสมหรือถูกใจก็ซื้อให้เธอสองชิ้น เขาต่อรองราคาเป็นเช่นกัน สิ่งของราคาหนึ่งร้อยตำลึง เขากลับซื้อมาได้ในราคาสิบตำลึงอย่างมีชั้นเชิง ลักษณะของพ่อค้าผู้มีไหวพริบปฏิภาณ แทบจะทำให้พ่อค้าเร่ขาดทุนย่อยยับ…

กู้ซีจิ่วประหลาดใจเมื่อเห็นท่าทางเจ็บใจเป็นที่สุดของพ่อค้าเร่ “ท่านมีความสามารถนัก! ประสบการณ์ชีวิตของท่านมากมายเหนือธรรมดาจริงๆ!”

ตี้ฝูอีใช้มือคาดคะเนน้ำหนักของถุงผ้าดิ้นทองด้ายเงินนั้น “ต้นทุนของสิ่งนี้ราคาเพียงแค่แปดตำลึงสามอีแปะ ข้าให้เขาสิบตำลึงก็นับว่าให้เขาได้กำไรแล้ว”

กู้ซีจิ่วไร้ซึ่งวาจา

นี่เขารู้หมดเลยหรือ?!

“เมื่อก่อนท่านเคยเป็นพ่อค้าเร่หรือไง? เหตุใดจึงรู้ราคาต้นทุนของคนอื่นได้?!”

ตี้ฝูอีดึงนางเข้าสู่อ้อมกอดแล้วเดินต่อไป “เด็กน้อย ความจริงชีวิตของข้าก่อนที่จะพบเจอเจ้าน่าเบื่อยิ่งนัก เพื่อตามหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง นอกจากคณิกาในหอนางโลมแล้ว อาชีพอื่นข้าก็เคยทำมาหมด!”

กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง

————————————————————————————-

[1] สามลัทธิเก้าอาชีพ หมายถึง กระแสวิชาชีพต่าง ๆ ที่แตกแขนงออกหลายสาขา