989 วางแผน
หลังจากอาเจียนและถ่ายท้องไปจนแทบไม่เหลืออะไรแล้วกั๋วเจิ้งเหิงก็ค่อยๆฟื้นฟูกําลังของตัวเองกลับมาได้บ้างคนแรกที่เขาเห็นก็คือพี่สาวที่รักเขาที่สุดจากนั้นก็เป็นหวังเย้าคนที่เขาไม่อยากเห็นหน้าและเกลียดขี้หน้าที่สุด
“เจิ้งเหอ?”
“พี่ ผมทําให้พี่ต้องเป็นห่วงแล้วขอบคุณนะครับ”น้ำเสียงของกั๋วเจิ้งเหอแผ่วเบาจากร่างกายที่
ยังอ่อนแอของเขา
“ในที่สุดเธอก็ฟื้นสักที”เมื่อเห็นเขาได้สติกลับมาแล้วกั๊วซือทรงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“เธอท่าให้พี่กลัวแทบตาย”
“พี่ไม่ได้บอกแม่ใช่ไหม?”เขาถาม
“ไม่ได้บอกหรอก” กั๊วซือหรงตอบ
“แล้วลุงเสวี่ยล่ะครับ?”เขาพยายามหันหัวอย่างยากลําบากเขามองไปรอบๆและเห็นเสวี่ยซิน หยวนที่เพิ่งได้สติอยู่ข้างๆเขา
“เป็นเพราะผมเลยทําให้ลุงต้องลําาบากไปด้วย”
“คุณชายอย่าได้เกรงใจกันแบบนี้สิครับ”เสวี่ยซินหยวนพูด
ในความเป็นจริง เขาซึ้งใจมากหลังจากที่ได้สติคืนมาคุณชายก็คิดถึงเขาทันทีเขาเลือกติดตามคนไม่ผิดจริงๆความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเขาคุ้มค่าแล้ว
“หาที่ให้พวกเขาได้พักรักษาตัวและอีกสองวันให้กลับมาอีกครั้ง” หวังเย้าพูดคลินิกของเขาสามารถให้พวกเขาอยู่รักษาตัวได้แค่ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นเขาไม่มีพื้นที่มากพอให้พวกเขาอยู่รักษาตัวที่นี่เป็นเวลานานได้
“ได้”
ถั่วซือหรงรีบโทรหาคนของเธอไม่นานพวกเขาก็มาถึงทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะที่นี่คือจังหวัดฉี ซึ่งเป็นอาญาเขตพ่อของพวกเธอ
“ขอบคุณมาก เขียนเชิง”
“ไม่เป็นไร พักผ่อนให้มาก อย่าทําตัวเหนื่อยเกินไป”
“อืม”
พวกเขาไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองเหลียนชานแต่พวกเขาเลือกที่จะไปพักในวิลล่าที่ห่ายชิวแทน
มันอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปไม่มากขับรถไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว มันเป็นที่ที่เงียบสงบและเหมาะสําหรับการพักฟื้นที่นี่ยังมีคนที่ถูกจ้างมาเพื่อให้ดูแลเรื่องอาหารและสิ่งจําเป็นโดยเฉพาะอยู่ด้วย
“เจิ้งเหอรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม? กั่วซือทรงถาม
“ผมสบายดีครับพี่ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว”กั๋วเจิ้งเหอพูดใบหน้าของเขากลับมามีสีสันอีกครั้งเขาไม่ได้อยู่ในสภาพเหมือนกับตอนที่ไปถึงคลินิกในตอนแรกอีกแล้วในตอนนั้นเขาดูซีดเซียวจนหน้ากลัว แต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่ค่อยมีแรงอาการบาดเจ็บที่ได้รับทําให้เขาสูญเสียกําลังกายและกําลังใจไม่มาก
“คราวนี้เธอต้องฟังพี่นะ”กั๋วซือหรงพูด“กลับไปแล้วเธอต้องออกไปจากที่นั่นให้เร็วที่สุด”“ได้ครับ”ถั่วเจิ้งเหอพูดเสียงเบา
“พี่ไปพักผ่อนเถอะวันนี้เธอก็เหนื่อยไปไม่น้อยเหมือนกัน”
“พี่ไม่เหนื่อยเธองีบสักหน่อยนะเดี๋ยวพี่จะไปทําโจ๊กมาให้กิน”
“อย่าล่ามากเลยครับ”กั่วเจิ้งเหอพูด“ให้คนอื่นทําดีกว่าส่วนพี่ก็ไปพักเถอะนะครับ”
ในเวลานี้ เขาถึงได้รู้ว่าความรักจากคนในครอบครัวนั้นสําคัญมากแค่ไหน มีเพียงคนใน
ครอบครัวเท่านั้นที่เขาสามารถพึ่งพาได้พวกเขาคือคนที่ห่วงใยเขาอย่างแท้จริง
“เธอนอนเถอะพี่จะออกไปแล้วถ้ามีอะไรก็เรียกพี่ได้”
“ครับ”
ถั่วซือหรงหวาดวิตกจนไม่เป็นอันทําอะไรวันนี้เธอวิ่งวุ่นไม่หยุด เธอเหนื่อยมากจริงๆหลังจากกลับไปที่ห้องนอนและล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
ในอีกห้องหนึ่งถั่วเจิ้งเหอกําลังนอนจ้องเพดานอยู่เขาอ่อนเพลีย แต่เขากลับไม่ง่วงเลยเขาไม่อยากหลับ
เขาได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสทําให้คนในครอบครัวต้องเป็นห่วงและทําให้เขาเกือบต้องตายไปแล้วจริงๆ
เรื่องนี้จะปล่อยไปเฉยๆไม่ได้เด็ดขาด!
เดี่ยวซีเหอต้องตาย!
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เบ้ามาได้”
แกร๊ก…ประตูเปิดออกเสวี่ยซินหยวนเดินเข้ามาในห้องใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย
“ลุงเสวี่ยทําไมถึงไม่นอนพักล่ะครับ?”เมื่อเห็นคนที่เข้ามากั๋วเจิ้งเหอก็ใช้แขนพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งเขาอยากลุกออกไปจากเตียงแต่เขาไม่มีแรงมากพอ
“คุณชายนอนลงเถอะครับ”เสวี่ยซินหยวนพูด“อย่าลุกขึ้นนั่งเลยผมแค่เข้ามาดูว่าคุณชายเป็นยังไงบ้างและอยากพูดอะไรด้วยสักหน่อยเท่านั้น”
“นั่งสิครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด “ลุงมีเรื่องอะไรอยากจะพูดเหรอครับ? รอให้หายดีก่อนแล้วค่อยพูด ก็ได้นี่ครับ”
ตอนนี้ เขานับเสวี่ยซินหยวนเป็นคนของเขาอย่างเต็มตัวแล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาเข้าใจ
อะไรหลายๆอย่างและมองอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น
“คุณชายจะทํายังไงกับเรื่องนี้ต่อไปครับ?”
“ผมจะทํายังไงน่ะเหรอ?” ถั่วเจิ้งเหอหันไปทางประตู
“ไม่มีใครอยู่ข้างนอกครับ ผมไล่พวกเขาไปหมดแล้ว”
“เมี่ยวซีเหอต้องตาย” ถั่วเจิ้งเหอพูด เมื่อพูดออกไปแล้ว เขากลับรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด มันราวกับว่า เขากําลังพูดคุยถึงเรื่องการดื่มกินอยู่อย่างไรอย่างนั้น เสวี่ยซินหยวนรู้สึกเย็นยะเยือก
ราวกับคําพูดของเขากลายเป็นมีดที่คมกริบเล่มหนึ่ง
“ได้ครับ เราจะเตรียมตัวสําหรับเรื่องนี้ให้พร้อม”
“ลุงเสวี่ยคิดยังไงบ้างครับ?”
“คุณชายผมไม่ได้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้มานานมากแล้วและมันก็เกิดขึ้นมามากกว่าหนึ่งครั้ง”เสวี่ยซินหยวนพูด“ถ้าผมยังเป็นผมคนเก่าอยู่ล่ะก็ผมคงคิดหาวิธีวางระเบิดเพื่อทําลายหุบเขาพันโอสถไปแล้ว!”
ประโยคนี้ได้อธิบายถึงความคิดและเจตนาของเขาได้อย่างชัดเจน
“ดี เราคงต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทํายังไงแต่ผมมีแผนอยู่แล้ว”
“บอกผมมาได้เลยครับ”
ถั่วเจิ้งเหอบอกเล่าความคิดของเขาออกไปอย่างช้าๆดวงตาของเสวี่ยซินหยวนเป็นประกายเมื่อได้ยินแผนการของอีกฝ่าย
เขา”
“ลุงคิดว่ายังไงครับ?”
“วิเศษ มันวิเศษมาก!”
“แต่คนคนนี้ต้องเป็นคนที่เชื่อถือได้”กั๋วเจิ้งเหอพูด
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมหาได้แน่นอน”
“ดี ก้าวแรกถือว่าสําเร็จแล้วผมจะจัดการแผนการต่อจากนี้เอง”
ภายในห้องชายที่ไม่มีแรงเดินกับชายที่ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืนกําลังรวมหัวกันวางแผนอยู่
ภายในหุบเขาพันโอสถที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
“พวกเขาออกไปจากที่นั่นเร็วมาก”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“คนของเราติดตามไปแต่ก็คลาดกับพวก
“พวกเขาตามไม่ทันเหรอ?”เมี่ยวซีเหอถาม
“ครับ คนของเราสองคนถูกจับได้ด้วย”
“ใคร?”
“ผมไม่รู้ครับพวกเขาอาจจะเป็นคนจากตระกูลกั่วก็ได้”
“แล้วคนอื่นถูกจับได้ด้วยรึเปล่า?”
“ไม่ครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
“ดี ฉันเข้าใจแล้ว” เมี่ยวซีเหอโบกมือ
เดี่ยวชิงเฟิงเดินออกไป
จ้าวหยิงหาวที่ยืนรออยู่ด้านนอกรีบเดินเข้าไปหาเมี่ยวชิงเฟิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินออกมาแล้ว
เขารีบถามออกไปว่า“เป็นยังไงบ้าง?”
“ผู้น่ายังคิดแผนการดีดีไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็คิดกันเองไม่ได้เหรอ?”
“จะทําแบบนั้นได้ยังไง?”
“ผมอาจจะเดาที่ที่พวกเขาไปได้”
“นายคิดว่า พวกเขาไปที่หมู่บ้านกลางเขาเหรอ?”
“อาจจะเป็นที่นั่นก็ได้” จ้าวหยิงหาวพูด
“ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” เดี่ยวชิงเฟิงถาม
“อืม”จ้าวหยิงหาวพูด“ตอนนี้พอผมคิดเรื่องนี้ดูแล้วแม้แต่ความสามารถของผมในตอนนี้ก็คงไม่สามารถเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของเขาได้ผมไม่รู้ว่าอาจารย์กับคนอื่นเก่งขนาดไหนแต่ผู้ชาย
คนนั้นสามารถทําให้ทุกคนรู้สึกสิ้นไร้หนทางได้ง่ายๆ!”
เขาอายุยังน้อยแล้วเขามีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง?เมี่ยวชิงเฟิงคิ้วขมวดมุ่น
“เราส่งคนไปสืบดูดีไหม?”
“ให้ไปสืบหรือว่าไปตายกันแน่?”จ้าวหยิงหาวถาม
“ไปสืบ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“มีหลายคนในหุบเขาที่มีความสามารถเฉพาะตัวมันน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเรื่องที่คนตระกูลทั่วไปหาเขาหรือเปล่าก็ยังยืนยันไม่ได้”
“ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า!”
“ไม่พลาดหรอก” เดี่ยวชิงเฟิงพูด
สองวันต่อมา ในหมู่บ้านกลางเขา
ถั่วเจิ้งเหอกับเสวี่ยซินหยวนเข้ารับการรักษาเป็นครั้งที่สองหลังจากรักษาเสร็จทั้งสองก็
สามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติแต่ร่างกายของพวกเขาก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
“ขอบคุณมากครับเชียนเชิง”