ตอนที่ 991 ผู้มาเยือนสิงโตคําราม

Elixir Supplier

991 ผู้มาเยือนสิงโตคําราม

“แล้วจะทํายังไงกับผู้ชายคนนั้นดีครับ?”

“ให้ตํารวจจัดการเรื่องนี้”หวังเย้าพูด“เดี๋ยวผมโทรแจ้งเอง”หลังจากนั้นเขาก็กดโทรออกไม่นานก็มีคนมารับตัวชายคนนั้นไป

“จุ๊ๆ เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน? หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ”เจ้าหน้าที่ตํารวจที่นั่งอยู่ในรถถามเมื่อได้เห็นสภาพของชายที่พวกเขาไปพาตัวมา

“ผู้ชายคนนี้บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวน่ะสิที่โดนแบบนี้ก็เพราะเหยื่อต้องการป้องกันตัวเท่านั้น”นี่เรียกว่าป้องกันตัวอย่างนั้นเหรอ!? ชายที่ถูกจับร้องตะโกนอยู่ในใจเขากลืนคําพูดลงไปเมื่อคิดถึงความน่ากลัวของคนพวกนั้นขึ้นมาได้เลย

งานครั้งนี้ถือว่าล้มเหลวไม่เป็นท่าตอนนี้เขาได้แต่คิดว่าตนเองไม่น่ารับงานนี้มาทําตั้งแต่แรกหายชิวภายในวิลล่าแห่งหนึ่ง

“คุณชาย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนครับผู้ชายคนนั้นถูกตํารวจพาตัวไปแล้ว”

“ดี ดีมาก” ถั่วเจิ้งเหอยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาสามารถมองเห็นทะเลได้จากตรงนี้หากเขาเปิดหน้าต่างและตั้งใจฟังดีดีเขาก็จะสามารถได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งในสถานีตํารวจเขตเหลียนชาน

“อะไรนะ? ขโมยสมุนไพร?ยูนนานใต้?”เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูดตํารวจที่รับผิดชอบคดีก็อึ้งไป

ยูนนานใต้ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศและห่างจากที่ที่พวกเขาอยู่ไปไกลหลายพันไมล์ชายที่ตํารวจจับมาได้เดินทางไกลขนาดนั้นเพียงเพื่อไปที่หมู่บ้านบนเขาเพื่อขโมยสมุนไพรตํารวจคิดว่า เขาเป็นคนที่สุดยอดมากจริงๆ

“นายรู้จักหมอหวังได้ยังไง?”ตํารวจอีกคนถาม

หวังเย้ามีชื่อเสียงอยู่ในเขตเล็กๆแห่งนี้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยแทบทุกคนมักได้รับคําแนะนําจากคนที่พวกเขารู้จักให้ไปรักษากับเขา หลังจากไปที่คลินิกของเขาแล้วพวกเขาก็จะหายดีคนที่ป่วยด้วยโรคประหลาดที่แม้แต่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ยังไม่สามารถรักษาได้ก็หายดีได้เมื่อไปรักษากับหวังเย้าที่ดีไปกว่านั้นก็คือค่ารักษาของเขาไม่แพงเลยเรื่องดีดีทั้งหลายนี้ยิ่งทําให้เขามีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นหลายคนยังรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหวังเย้ารวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตํารวจนายนี้ด้วยเมื่อเขาได้ยินว่ามีคนเข้าไปขโมยสมุนไพรเขาก็รีบรับคดีนี้มาทําอย่างตั้งใจและถามรายละเอียดทุกอย่างไม่ให้มีตกหล่น

“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ”ชายที่ถูกจับพูด“ผมไม่เคยเห็นหน้าคนที่จ้างผมด้วยซ้ำ”“นายมาที่นี่โดยที่ไม่เคยเจอหน้าคนจ้างเลยเนี่ยนะ?” ตํารวจถาม

“เงินค่าจ้างมันดีมากน่ะสิ”เขาตอบ“พวกเขายังซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผมด้วยมันเป็นงานที่ได้เงินดีผมก็เลยไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ!”

เขายังรู้สึกระบมไปทั้งตัวเมื่อคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนในบ้านร้างบนเขาเขาก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้เขากลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะฆ่าขึ้นมาจริงๆผู้ชายอีกคนก็เย็นชาบรรยากาศรอบตัวเขา

ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้เขาต้องเคยฆ่าคนมาก่อนแล้วแน่ๆ

“นายรับงานเพราะนายได้เงิน”ตํารวจพูด“แล้วนายไม่กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นแพะเหรอ?” “แพะอะไร?มันร้ายแรงถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?”เขาถาม“ผมแค่โดนสั่งไปไปดูที่นั่นเท่านั้นไม่ได้ถูกสั่งให้ไปฆ่าคนหรือเผาทําลายที่ไหนสักหน่อย”

หลังจากสอบปากคําเขาแล้วตํารวจก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากนัก แต่มีเรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้คนที่อยู่ในยูนนานใต้ที่ห่างออกไปไกลหลายพันไมล์กําลังหมายหัวหวังเย้าอยู่และนั่นทําให้ตํารวจรู้สึกสนใจขึ้นมา

“หมอหวังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?”

“เป็นไปได้ที่มันจะกระจายไปได้ไกลขนาดนั้น”ตํารวจอีกคนพูด “แล้วยังเคยมีคนจากทางนั้นมารักษากับเขาด้วยทีนี้ก็เลยมีคนไปหาผู้ชายคนนี้และสั่งให้เขามาที่นี่นายก็ได้ยินแล้วนี่ถ้าไม่โดนจับซะก่อนเขาก็คิดที่จะเข้าไปในคลินิกคืนนี้ด้วย”

“นายว่าพวกเขามาเพราะต้องการสูตรยาของหมอหวังรึเปล่า?” ตํารวจอีกคนถาม“โรงงานผลิตยาได้กําไรดีมากแล้วฝีมือการรักษาของหมอหวังก็ดีมากด้วยยาที่เขาสั่งให้คนไข้อาจจะพิเศษกว่าที่อื่นก็ได้”

“นั่นก็เป็นไปได้เหมือนกัน”ตํารวจตอบ

“น่าเสียดายที่เราไม่มีเบาะแสอะไรให้ตามต่อได้เลย”

คดีถือเป็นอันสิ้นสุดในขั้นต้นโทษของชายคนนี้ไม่ถือว่าหนักแต่มันก็ทําให้เขาต้องจําไปจนตายมีสถานที่ที่หากไม่จําเป็นก็ไม่ควรเข้าไปอยู่

กลับมาที่หมู่บ้านบนเขา

“เชียนเชิง ผมได้ยินมาจากเพื่อนของผมว่าช่วงนี้หุบเขาพันโอสถคึกคักเป็นพิเศษเลยล่ะ” เจี๋ยจื้อจายพูด

ภายในคลินิก เจี๋ยจื้อจายได้บอกข้อมูลที่เขาได้รับมากับหวังเย้า

“เรื่องของหุบเขาถูกโพสลงบนอินเตอร์เนตและมีหลายคนเดินทางเข้าไปที่นั่น” เจี๋ยจื้อจายพูด “มีหลายคนที่จบลงด้วยการหมดสติ, ชักกระตุก, ท้องเสีย,และเป็นอะไรอีกหลายอย่างโอ้แล้วยังมีคนตายที่นั่นเมื่อคืนนี้ด้วยเขาหัวใจวายตาย”

“มีคนตายเหรอ?”หวังเย้าประหลาดใจ

“ใช่ มีคนตาย” เจี๋ยจื้อจายพูด

“แต่ยิ่งมีเรื่องเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทําให้มีคนเข้าไปที่นั่นมากขึ้นเรื่อยๆ”เขาพูด

“อืม มันเป็นเรื่องของจิตวิทยา”หวังเย้าพูด

“จริงสิ เพื่อนของผมลองสืบเรื่องนี้ดูแล้ว” เจี๋ยจื้อจายพูด“มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆถ้าไม่อย่างนั้นข่าวแบบนี้คงโดนข่าวอื่นกลืนหายไปนานแล้วแต่กลับกลายเป็นว่ามันได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆแทน

“คิดว่าเป็นฝีมือของกั๋วเจิ้งเหอรึเปล่า?” หวังเข้าถาม

“เขาเป็นคนแรกที่ผมนึกถึงเลยล่ะ”เจี๋ยจื้อจายพูด“เขาทํางานอยู่ที่นั่น และยังมีเรื่องกับคนจากในหุบเขาพันโอสถด้วยเขตที่เขาดูแลรับผิดชอบอยู่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเขาถูกวางยาพิษ แล้วพี่สาวของเขาก็ยังโดนไปด้วยเรื่องทั้งหมดต้องทําให้เขาไม่พอใจมากแน่ถ้าเขา

ปล่อยวางเรื่องนี้ได้เขาก็คงเป็นนักบวชแล้วที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ เขายังเจอเรื่องร้ายมากขึ้นเรื่อยๆเชียนเชิงบอกเองว่าถ้าเขามาช้ากว่านี้แค่นิดเดียวเขาก็คงจะตายไปแล้วมันเลยจบลงที่ทั้งสอง ต้องกลายเป็นศัตรูกันจริงๆผมคิดว่าคนจากหุบเขาพันโอสถจะต้องมีแผนอะไรอยู่แน่ๆและยังเล่นงานเขากลับแบบนี้ด้วย”

“นั่นมีความเป็นไปได้สูงมาก”หวังเย้าพูด“คนจากหุบเขาพันโอสถกล้ามากไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งการตายของคนจํานวนมากนั้นก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาแน่ตอนนี้พวกเขายังกล้าลงมือกับคนที่ดูแลทั้งเขตอีกคนพวกนั้นไม่กลัวตายกันเลยจริงๆ”

“นั่นสิครับ ถึงยังไงเขาก็คือคนที่รับผิดชอบเขตนั้นอยู่ และตระกูลของเขาก็ยิ่งใหญ่ทั้งยังมีทรัพยากรทุกอย่างพร้อมสรรพ”เจี๋ยจื้อจายพูด “ผมไม่เชื่อแน่ว่าคนจากหุบเขาพันโอสถจะไม่รู้ตัว

ว่า พวกเขาไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งที่ต้องตายกันไปข้าง”

“ดื่มชาก่อนสิ”หวังเย้าพูด

“ครับ” เจี๋ยจื้อจายพูด

“เชียนเชิงผู้ชายคนนั้นจะต้องแอบตามกั่วเจิ้งเหอมาแน่ๆ”เขาพูด

“อืม เรื่องนั้นก็เป็นไปได้”หวังเย้าพูด“แล้วมันก็คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วยเขาก็เป็นแค่คน สอดแนมสําหรับคนพวกนั้นเท่านั้น”

กลุ่มคนที่ไร้ความกลัวเหล่านั้นไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นที่สามารถรักษาพิษและกู่ของพวกเขา

ไปง่ายๆแน่ มันถือเป็นภัยคุกคามและทําให้การค้นคว้ากับความพยายามตลอดหลายสิบปีของ เขาไร้ความหมายไปในทันที

“เชียนเชิง เราต้องเตรียมรับมือเอาไว้นะครับ”เจี๋ยจื้อจายพูด

“อืม” หวังเย้าพยักหน้าตัวเขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยแต่เขาเป็นห่วงครอบครัวและคนในหมู่บ้านมากกว่า

คนพวกนั้นสามารถทําได้ทุกอย่างโดยไม่สนหน้าไหนทั้งสิ้น

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะลาดตระเวนหมู่บ้าน”เจี๋ยจื้อจายพูด

“ดี ผมจะบอกให้ต้าเซี่ยคอยจับตาดูไว้ด้วย”หวังเย้าพูด

ต้าเซี่ยที่อยู่บนเนินเขาหนานชานนั้นมีความเฉลียวฉลาดมากมันสามารถเข้าใจคําสั่งจากหวังเย้าได้

“ถ้าแบบนั้นก็จะดีมากครับ”เจี๋ยจื้อจายพูดในตอนที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีคนเข้ามาในหมู่บ้าน

“ที่นี่สินะ”เขาพูดด้วยเสียงที่แหบเล็กน้อย

เขาไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้านผ่านเส้นทางปกติเขาเลือกที่จะเข้าผ่านทางเนินเขาซีชานแทนเขา

เดินขึ้นไปบนยอดเขาและมองลงไปยังหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ด้านล่าง

“หม?”

ดูเหมือนเขาจะค้นพบอะไรบางอย่างเขารีบพุ่งตัวไปทางเนินเขาหนานชานราวกับคนเสียสติ

เขาพุ่งผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆก่อนจะไปถึงเนินเขาหนานชาน

“เป็นไม่ไปได!?”เขาตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น

“ทําไมพลังของที่นี่ถึงได้เข้มข้นแบบนี้?”

เขาขยี้ตาตัวเอง

“ไม่ผิดแน่”

เขามุ่งตรงไปข้างหน้าแล้วเขาก็ไปถึงจุดที่ภูเขาสองลูกเชื่อมถึงกัน

เฮือก ฮา เขาหายใจแรงด้วยความโล

“พลังงานที่นี่เข้มข้นยิ่งกว่าในหุบเขาทางใต้ด้วยซ้ำ”

เขาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปและรีบส่งไปในคนในหุบเขาดู หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กดรับสายโทรศัพย์

“ครับ ผู้นํา ผมอยู่ตรงตีนเขาครับใช้ครับมันไม่มีภูเขาลูกใหญ่อยู่ที่นี่ มีแค่เนินเขาเท่านั้นไม่ผิดครับไม่มีทางผิดแน่นอนผมอ่อนไหวกับพลังงานมากแล้วที่นี่ก็ต้องเป็นสรวงสวรรค์ในตํานาน

แน่ ครับ ครับ”

เขาเดินขึ้นไปพร้อมกับอัดวิดีโอมันยังอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมโดยตรรกะแล้วต้นไม้ของทางเหนือยังไม่ควรผลิใบในช่วงเวลานี้แต่บนเนินเขาลูกนี้กลับเขียวขจีและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาราวกับอยู่ในป่าของทางใต้ยังไงยังงั้น

โฮ่ง!

อยู่ๆก็มีเสียงเห่าดังขึ้น มันดังราวกับเสียงคํารามของสิงโต

แล้วสุนัขตัวโตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

พระเจ้า สุนัขตัวนี้ใหญ่มาก!เขาตกตะลึงแต่ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อยเขายังดูสนใจด้วยซ้ำ

มันจะต้องเป็นเพราะพลังงานที่เข้มข้นของที่นี่แน่!เขากดถ่ายรูปสุนัขตัวนั้นสุนัขแยกเขี้ยวขู่และเตรียมพร้อมโจมตี

“โฮ้ จงเป็นหมาที่เชื่อฟังและนอนลงไปดีกว่านะ!”