บทที่ 226 เชือดไก่ให้ลิงด

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

“ทำให้ผู้มีอิทธิพลขุ่นเคืองงั้นเหรอ” วอลนัทพึมพำ “ทำให้ใครขุ่นเคือง”

คุณพ่อวสินคำรามอย่างเดือดดาล “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง แก่ก็คิดเองสิ!”

มือของวอลนัทที่ยังใส่กุญแจมืออยู่ยกขึ้นมาสางผมตัวเอง พลางครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย

หากพูดถึงเรื่องที่เขาถูกทำร้ายและถูกส่งเข้าคุก ไม่ใช่ฝีมือของนักลงทุนคนนั้นอยู่เบื้องหลังคอยบงการ งั้นไม่นานมานี้เขาไปทำให้ใครขุ่นเคืองใจ?

หรือว่า…

เมื่อนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ทันใดนั้นวอลนัทก็เงยหน้าขึ้นมา พึมพำด้วยความประหลาดใจ คงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง”

คุณพ่อวสินรีบร้อนถามขึ้น “ใคร”

วอลนัทกล่าวด้วยความกลัดกลุ้ม “ผม วันนี้ผมโทรไปหาหลินจือคนนั้น อยากนัดเธอออกไปทานข้าว และผมยัง ยังพูด…”

คุณพ่อวสินกัดฟันถาม “แกพูดอะไร”

วอลนัทพูดอย่างแผ่วเบา “ผมบอกว่าผมจะรวบหัวรวบหางเธอ จะได้เป็นลูกเขยของตระกูลแม็กซิมัส…”

อารมณ์เดือดดาลของคุณพ่อวสินปะทุขึ้นมา แทบกระอักเลือดตายเพราะไอ้ลูกชายคนนี้

“ลูกสาวตระกูลแม็กซิมัส แกคิดว่าแกจะปีนขึ้นไปจับได้งั้นเหรอ” คุณพ่อวสินคำรามอย่างโกรธจัด ถ้าไม่ใช่เพราะมีกระจกกั้นกลางระหว่างเขาและวอลนัทเอาไว้ เขาคงปรี่เข้าไปซัดวอลนัทหนักๆ สักหมัด

“ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วใช่ไหม หากไม่รู้จักลดความทะเยอทะยานไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเรื่องขึ้น ตอนนี้ก็ดี ทำให้ตระกูลแม็กซิมัสไม่พอใจ แม้ฉันอยากช้อนแกขึ้นมาจากน้ำ ก็คงช้อนขึ้นมาไม่ได้!”

เขาหมดหวังกับลูกชายเส็งเคร็งคนนี้ของเขาจริงๆ

วอลนัทตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ “แต่ตระกูลแม็กซิมัสก็ทำแบบนี้ไม่ได้เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของผม ผมยังไม่ได้ทำอะไรหลินจือคนนั้นเลยด้วยซ้ำ!!”

คุณพ่อวสินตวาดลั่น “ถ้ารอให้แกทำอะไรแบบนั้นกับหล่อน เกรงว่าตอนนี้ฉันคงต้องไปเก็บศพแกแทน!”

“แกเสียสติไปแล้วเหรอ คนในครอบครัวแม็กซิมัสเพิ่งได้ลูกสาวอันมีค่าคนนี้คืนมา แน่นอนว่าต้องได้รับความเอาอกเอาใจราวกับเด็กทารก แกไม่เห็นสร้อยคอมรกตที่หล่อนสวมในคืนนั้นเหรอ ได้ยินมาว่าราคาประมูลสูงหูฉีก!”

“ผู้คนให้ความสำคัญกับลูกสาวคนนี้มาก แกปากพล่อยพูดไปอย่างนั้นเหรอ ด้วยความปากพล่อยของแกคนอื่นก็พลอยคิดว่าแกจะทำเรื่องสกปรกๆ กับลูกสาวของพวกเขา!”

เมื่อถูกคุณพ่อวสินตะคอกใส่ วอลนัทพลันหน้าซีดเซียวด้วยความตกใจ ร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พ่อ ตอนนี้ผมต้องทำยังไง พ่อต้องช่วยผมนะ”

หลังจากคุณพ่อวสินตะคอกออกมาด้วยความเดือดดาลเขาพลันทรุดตัวลงบนพื้น พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าแกทำให้ตระกูลแม็กซิมัสขุ่นเคืองจริงๆ แกคิดว่าฉันจะช่วยแกได้งั้นเหรอ”

วอลนัทตื่นตระหนก “แล้วผมต้องทำยังไง”

“ถ้าอย่างนั้นแกอยู่ที่นี่รอไปก่อน” พูดจบคุณพ่อวสินลุกขึ้นยื่น แล้วเดินจากไป “แกควรได้รับบทเรียนและทุกข์ทนเสียบ้าง”

คุณพ่อวสินเดินออกมาจากสถานกักกันโดยไม่หันกลับไปมอง ทิ้งให้วอลนัทร้องไห้อย่างสิ้นหวังอยู่เบื้องหลัง อย่างเปล่าประโยชน์

หลังจากคุณพ่อวสินออกมาจากสถานกักกันตัว เขาหยุดยืนอยู่ข้างรถตัวเองทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ต้อนรับขับสู้เพื่อวอลนัทต่อไป

ปากก็บอกให้วอลนัทอยู่ในสถานกักกันรอไปก่อน แต่นั่นเป็นลูกชายของเขา และเป็นลูกชายเพียงคนเดียว จะทนดูเขาทุกข์ทรมานได้อย่างไร

เพียงแต่ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากลับต้องกดรับสายสายหนึ่ง สายปลายพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ประธานวสินสวัสดีครับ ผมจอนห์ผู้ช่วยของฟอเรนากรุป”

คุณพ่อวสินสับสนงงงวย “ฟอเรนากรุป”

อีกฝ่ายตอบกลับมาเบาๆ “อืม”

คุณพ่อวสินถามอีกครั้ง “คุณโทรหาผมมีธุระอะไร”

คุณพ่อวสินรู้จักฟอเรนากรุป และแน่นอนว่ารู้จักเทาเท่ ผู้ช่วยจอนห์ของฟอเรนากรุปเขาก็รู้จักเช่นกัน

เพียงแค่คนเหล่านี้สำหรับบริษัทขนาดเล็กอย่างพวกเขา อยู่สูงเกินเอื้อม

“ท่านประธานเทาเท่บอกว่า ลูกชายของคุณไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง แน่นอนว่ามีราคาที่ต้องจ่าย ประธานวสินยังอยากช่วยกอบกู้เขาขึ้นมาอยู่ใช่ไหม งั้นก็ลองดู” คำพูดของจอนห์แฝงด้วยความหมายอะไรบางอย่าง

คนฉลาดอย่างคุณพ่อวสิน ทำไมจะไม่เข้าใจนัยที่แฝงอยู่ในคำพูดเหล่านั้น

เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว พูดอย่างไม่อยากเชื่อ “ท่านประธานเทาเท่กับหลินจือ…”

เทาเท่ออกมารับหน้าด้วยตัวเองขนาดนี้ และยังบอกว่า ไปยุ่งกับคนที่ไม่สมควรยุ่ง เช่นนั้นหมายความว่าเทาเท่กับหลินจือเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา

จอนห์ไม่ปิดบัง “คนนั้นเป็นอดีตภรรยาของท่านประธานเทาเท่ และตอนนี้ท่านประธานกำลังตามจีบเธอใหม่อีกครั้ง”

จอนห์ชี้แจงอย่างชัดเจน แน่นอนว่าเป็นความเจตนารมณ์ของเทาเท่

เหตุผลที่เขาบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อวสิน เพราะเทาเท่ไม่อยากให้คุณพ่อวสินวิ่งพล่านไปไหนมาไหนเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์นี้ทั้งวันทั้งคืน เขาไม่อยากให้คนในครอบครัว李กระโดดไปอยู่จุดนั้นอีก

รวมทั้งหลังจากหลินจือกลายเป็นลูกสาวของตระกูลแม็กซิมัส คนอย่างวอลนัทจึงปรารถนาเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาจะใช้ปากของคุณพ่อวสินกระจายข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับหลินจือ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่ยอมแพ้ต่อหลินจือไป

สิ่งที่เขาทำ ถือว่าเป็นการขัดขวางไม่ให้เธอต้องพบเจอกับสิ่งไม่ดี ไม่ว่าในอนาคตเธอจะยอมรับขาหรือไม่ แต่เขารู้ว่า ตอนนี้เธอไม่อยากถูกคุกคามจากคนที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน

คำพูดเพียงสั้นๆ ของจอนห์ กลับทำให้คุณพ่อวสินเข่าทรุดลงกับพื้น

อดีตภรรยาของเทาเท่?

และตอนนี้เขากำลังตามจีบเธอใหม่อีกครั้ง?

คุณพ่อวสินสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาพูดอะไรไม่ออก

มิน่าล่ะคราวนี้ลูกชายเขาจึงถูกกระทำรุนแรงขนาดนี้ เพราะกล้าดีไปทำให้บอสใหญ่ท่านนี้ขุ่นเคืองหมองใจ

“ประธานวสิน ลูกชายของคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นคนใหม่จริงๆ คุณก็เห็น” จอนห์พูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น แล้ววางสายไป

แม้ว่าจอนห์จะไม่ได้พูดอะไรอย่างชัดเจน แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นการตักเตือนคุณพ่อวสินดีๆ นี่เอง คราวนี้ลูกชายของเขาคงได้อยู่ในสถานกักกันจนยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อกลายเป็นคนใหม่ซะแล้วสิ

แต่คุณพ่อวสินยังอยากกอบกู้ลูกชายขึ้นมา จึงคิดไตร่ตรองชั่งน้ำหนักว่า ตัวเองใช่คู่ต่อสู้ของเทาเท่หรือไม่

คุณพ่อวสินปีนขึ้นมาจากความสิ้นหวัง ก้าวเข้าไปบนรถแล้วขับออกไป

เขาเป็นคู่ต่อสู้ของเทาเท่เสียที่ไหนกัน

และทั้งเมืองเจสเวิร์ดแห่งนี้ มีคู่ปรับของเทาเท่อยู่สักกี่คนกันเชียว

จอนห์พูดถูก ลูกชายของเขาจำเป็นต้องเป็นคนใหม่ หากเอาแต่ทำตัวกร่างไปทั่วแบบนี้ เขารู้ ไม่ช้าก็เร็วสักวันต้องเกิดเรื่องขึ้น

เมื่อหลินจือเห็นข่าววอลนัทที่ถูกเผยแพร่ออกมา นานิส่งข้อความเสียงมาหาเธอทันที ด้วยรู้สึกยินดีปรีชาในความโชคร้ายของเขา

“ฮ่าๆๆๆๆๆ วอลนัทล้มหัวคะมำแบบนี้ เธอไม่ต้องกังวลใจว่าเขาจะมารังควานเธออีกแล้ว”

“ฉันเดาว่า เรื่องนี้เทาเท่เป็นคนลงมือ?”

“ถ้าเรื่องนี้เธอยังไม่ได้บอกพ่อของเธอ งั้นแน่นอนว่าเทาเท่เป็นคนจัดการวอลนัท”

“ต้องยอมรับว่า เคล็ดลับง่ายๆ ของเทาเท่คือความป่าเถื่อน แต่ช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกินสำหรับเศษสละอย่างวอลนัท”

หลินจือยังไม่เชื่อว่าเป็นเทาเท่เป็นคนทำ “เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นขนาดนั้นหรอกมั้ง”

นานิถอนหายใจ “เพราะเธอไม่รู้ว่าคำพูดที่วอลนัทพูดออกมาเมื่ออยู่ข้างนอกนั้นหยาบคายแค่ไหน”

เพราะนานิเป็นคนในแวดวงบันเทิง ข้อมูลทางด้านนั้นจึงมีประสิทธิภาพมาก คำพูดของไอ้คนระยำอย่างวอลนัททั้งหมดไปถึงหูของนานิ นานิจงใจไม่บอกหลินจือ เพื่อไม่ให้กระทบกับอารมณ์ของเธอ

หากเทาเท่ไม่ได้เป็นคนลงมือ นานิกำลังคิดหาโอกาสสั่งสอนบทเรียนลับๆ ให้วอลนัทด้วยตัวเองสักหน่อย โดยเฉพาะปากอันน่าขยะแขยงของเขา เธออยากซัดวอลนัทจนหาฟันไม่เจอเลยคอยดู

ตอนนี้เทาเท่ลงมือแล้ว ช่วยลดขั้นตอนของเธอไป

นานิพูดเสริมขึ้นว่า “เทาเท่ทำดีมาก เชือดไก่ให้ลิงดู”

หลินจือพูดอย่างจนใจ “แต่คนที่ฉันไม่อยากสนใจที่สุดคือเขา เมื่อไหร่เขาจะรู้ตัวสักที แล้วเริ่มมีความคิดที่จะหายหัวไปให้พ้นสายตาฉัน