ตอนที่ 993 ต้นไม้นิ่งสงบ ลมไม่หยุดพัด

Elixir Supplier

993 ต้นไม้นิ่งสงบ ลมไม่หยุดพัด

“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็จะดีมาก”หวังเย้าพูด

“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทําให้เชียนเชิงต้องมาเดือดร้อนไปด้วย” กั๋วเจิ้งเหอขอโทษอีกครั้งด้วยท่าทีที่ดูจริงใจอย่างน้อยเขาก็ทําให้ดูเป็นแบบนั้นเมื่อดื่มกับสหายรู้ใจเหล้าพันจอกยังถือว่าน้อยไป แต่กับศัตรูเพียงครึ่งคําก็ถือว่ามากเกินไปด้วยซ้ำ

ทั้งสองไม่สามารถปรองดองกันได้กั๋วเจิ้งเหอเข้าใจเรื่องนี้ดีเขาจึงไม่ได้อยู่ที่คลินิกของหวังเย้านานนักเขาไปที่นั่นและได้พูดเรื่องที่ควรพูดไปแล้วอีกฝ่ายเข้าใจแล้วแค่นั้นก็เพียงพอสําหรับเขาแล้ว
มา

“ถ้าต้องการอะไรก็บอกผมได้”เขาพูด“ผมคงต้องขอตัวก่อน” “เดินทางปลอดภัย”หวังเย้าพูด

กั่วเจิ้งเหอกลับขึ้นรถและขับออกไปจากหมู่บ้านเขากลับไปถึงที่ห่ายชิวในอีกสามสิบนาทีต่อ

“คุณชาย กลับมาแล้ว”เสวี่ยซินหยวนพูด

“ลุงเสวี่ยเลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้วครับ”กั๋วเจิ้งเหอพูด“มันน่าอึดอัดแล้วตอนนี้ใครเขาก็ไม่เรียกกันแบบนั้นแล้วด้วย”

“เรียกผมว่า เจิ้งเหอก็พอแล้วครับ”

“เฮ้อ” เสวี่ยซินหยวนพยักหน้าแต่ก็ไม่ได้รับปาก

“นั่งก่อนสิครับ”

“ผมเพิ่งไปที่คลินิกในหมู่บ้านมา”กั๋วเจิ้งเหอพูด“คนของเราไปที่นั่นแล้ว แล้วคนจากหุบเขาพันโอสถก็ไปที่นั่นด้วยตอนนี้เขาถูกตํารวจพาตัวไปแล้ว”

“จริงเหรอครับ?”เสวี่ยซินหยวนถาม“พวกเขาลงมือเร็วจริงๆ”“หวังเย้ากําลังหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น”กั๋วเจิ้งเหอจิบชาและพูด

“หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”เสวี่ยซินหยวนถาม

“ถึงตัวเขาจะอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆนั้นแทบจะตลอดเวลาแต่เขาก็สามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้

ถ้าเขาต้องการผมรู้ว่ามีอย่างน้อยสามตระกูลใหญ่ในปักกิ่งที่ติดหนี้บุญคุณเขาอยู่แค่เขาเอ่ย

ปากขอในเรื่องที่สมเหตุสมผลออกไปคนพวกนั้นก็ยิ่งกว่ายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเขา”

“ดื่มชาสิครับ”

“อ้อ ขอบคุณครับ” เสวี่ยซินหยวนพูด“เรามาเริ่มแผนขั้นที่สองกัน” กั๋วเจิ้งเหอพูด

“ได้ครับ แต่เรื่องทางคุณไปถึงไหนแล้ว?”เสวี่ยซินหยวนถาม

“ดีครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด“นอกจากพิษที่ยังกําจัดออกไปไม่หมดแล้ว ที่เหลือผมก็จัดการไว้แล้วผมจะย้ายตัวเองไปที่ไหนสักที่ในปักกิ่ง ถือว่าเป็นการหยุดพักและพักผ่อนไปในตัว”

“ก็ดีครับ” เสวี่ยซินหยวนพูด“ออกมาจากที่นั่นเป็นการดีที่สุดแล้ว”

เขารู้สึกอยู่ตลอดว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้อยู่เหนือใครอีกหลายๆคนเมื่อรวมเข้ากับอํานาจจากตระกูลของเขาเข้าไปด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งมีอนาคตที่สว่างสดใสดังนั้นวี่ยซินหยวนจึงคิดว่า การที่กั๋วเจิ้งเหออยู่ที่เขตเหอในยูนนานใต้ทําให้พรสวรรค์ของอีกฝ่ายนั้นถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า

“อืม” ถั่วเจิ้งเหอพยักหน้า

คลินิกในหมู่บ้าน…

หวังเจ๋อเชิงและหวังยี่หลงไปที่คลินิกผู้เป็นลูกชายมาส่งพ่อของเขาตรวจร่างกาย หวังยี่หลงไม่ได้คิดอะไรมากเขาคิดว่าอาการป่วยของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากกลับเป็นหวังเจ๋อเชิงที่กังวลเรื่องนี้แทนเขารู้เรื่องอาการป่วยของพ่อเขาดีถึงร่างกายของพ่อเขาจะแข็งแรงขึ้นและมีแรงมากขึ้นแต่เขาก็รู้ถึงความร้ายแรงของโรคที่พ่อเขาเป็นอยู่ดีเขาจึงไม่มั่นใจว่าพ่อของเขาดีขึ้นแล้วจริงๆหรือไม่

“เขาหายดีแล้ว” หวังเย้ามองหวังยี่หลงเล็กน้อย

“เขาหายดีแล้ว? นายแน่ใจนะ?” หวังเจ๋อเชิงตกตะลึง

“แน่ใจครับ เขาหายแล้วจริงๆ” หวังเย้ายิ้มพูด“ทําไมผมต้องโกหกด้วยล่ะครับ?”

“ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมเลย! ขอบคุณ! ขอบคุณ! ขอบคุณมาก!”หวังเจ๋อเชิงมีความสุขจนทําหน้าไม่ถูกเขารู้สึกว่าความลําบากที่ผ่านมาของเขานั้นคุ้มค่าแล้ว

“ใช่ เราต้องกลับไปฉลองกันที่บ้านแล้วล่ะ”เขาพูด

“ใช่ๆ”

หวังเจ๋อเชิงมีความสุขมากแต่หวังยี่หลงกลับหงุดหงิดมากกว่า

“ไปกันได้แล้ว”

“อ๋อๆ”

หลังออกมาจากคลินิกแล้วหวังยี่หลงก็ถามลูกชายของเขาว่า “ทําไมถึงได้ดีใจขนาดนั้นล่ะ?”“พ่อหายแล้ว!”

“ฉันรู้”หวังยี่หลงพูด“ช่วงนี้ร่างกายของฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ได้เป็นอะไรมากน่ะ?”

“ถึงพ่อจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ก็ถือว่าป่วยอยู่ดี”หวังเจ๋อเชิงพูด“ในเมื่อหายดีแล้วก็ได้เวลาที่เราต้องฉลองเราเพิ่มของกินกับเหล้าให้เยอะกว่าทุกทีดีไหม?”

“ดีสิดี” หวังยี่หลงปรบมือ

ลูกชายของเขาเปลี่ยนไปและได้งานใหม่ทําหลายชายของเขาก็สอบได้คะแนนเต็มถึงสองวิชาไปเมื่อไม่กี่วันก่อนครอบครัวของเขามีแต่ข่าวดีเข้ามาเรื่อยๆ

หวังเย้าบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเขาในตอนที่เขากลับไปที่บ้าน

“ดีจริงๆ!ในที่สุดหวังยี่หลงก็หายได้สักที!”จางซิวหยิงโล่งใจเมื่อได้ยินข่าว

“นั่นสิ” หวังเฟิงฮวาพูดแล้วจุดบุหรี่ด้วยท่าทางพอใจ

คืนนั้น ภายในแปลงสมุนไพรบนเนินเขาหนานชาน

หวังเย้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

“พรุ่งนี้ฝนจะตกล่ะ ซานเซียน”

โฮ่ง! โฮ่ง!

“รับไป” หวังเย้าส่งเถาของสมุนไพรให้กับซานเซียน

มันเป็นเถาที่เก็บมาจากสมุนไพรวิเศษเขาพบว่าซานเซียนชอบกินมันมากสําหรับสุนัขแล้วมันเป็นเหมือนกับกระดูกที่เอาไว้เคี้ยวเล่น หวังเย้าเห็นซานเซียนน้ำลายไหลเมื่อได้เห็นเถาสมุนไพรเขาจึงดึงออกมาเส้นหนึ่งซานเซียนรับมาเคี้ยวดังกร๊วมๆจากนั้นก็กลืนลงไปจนหมดแล้วทาสีหน้าว่ามันต้องการเพิ่มอีก

แต่มันก็ไม่กินหากไม่ได้รับอนุญาตจากหวังเย้าก่อนมันเป็นสุนัขที่ฉลาดมาก

“เส้นเดียวก็พอให้หายอยากแล้ว นี่มันสมุนไพรวิเศษนะฉันให้นายกินเท่าที่อยากไม่ได้หรอก”หวังเย้าลูบหัวโตๆของซานเซียน สมุนไพรวิเศษชนิดนี้ใช้เวลาในการเติบโตค่อนข้างนานมันใช้

เวลานานมากว่าที่จะมีความยาวเท่ากับหนึ่งฝ่ามือของมนุษย์และมันยังโตได้ก็ต่อเมื่อได้อยู่ในบริเวณของค่ายกลรวมวิญญาณเท่านั้น หากมันไปอยู่ที่อื่นการเจริญเติบโตของมันก็จะหยุดชะงักในทันที

“เอาล่ะ เข้านอนได้แล้ว”หวังเย้าพูด

เขาเดินกลับเข้าไปในกระท่อมส่วนซานเซียนก็เข้าไปนอนในบ้านสุนัขของมัน

ไม่นานก็มีเสียงท่องคัมภีร์ดังออกมาจากกระท่อม

แสงไปส่องสว่างไปจนกระทั่งถึงกลางดึก

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกอย่างช้าๆ

สองแม่ลูกพากันมาที่คลินิกตั้งแต่เช้าพวกเขาก็คือคนตระกูลเหอจากปักกิ่งครอบครัวของเด็กหนุ่มมนุษย์แก้ว

“สวัสดีค่ะ หมอหวังเรามารบกวนคุณหมออีกแล้ว”เธอยิ้มพูด

“ไม่เลยครับ”หวังเย้าพูด“เชิญนั่งก่อนครับ”

“เป็นยังไงบ้าง?”

“ดีครับ” เด็กหนุ่มพูดร่างกายของเขาดีขึ้นมากเขารู้สึกเหมือนกลายเป็นคนใหม่และสดใสร่าเริงมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ที่พวกเขากลับไปปักกิ่งพวกเขาได้เดินทางไปตรวจในหลายโรงพยาบาลที่เรียกว่าดีที่สุดในปักกิ่งร่างกายของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงพวกเขาทําให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เคยรักษาเด็กหนุ่มต้องตกตะลึงการเปลี่ยนแปลงของเด็กหนุ่มนั้นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและพวกเขายังถามไม่หยุดเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาได้ไปรักษาที่ไหนมาสําหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผลที่ออกมานั้นมันน่าตื่นเต้นมากผลการตรวจร่างกายแสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มยังไม่หายขาดแต่เขาก็สามารถออกไปเที่ยวเล่นเหมือนคนทั่วไปได้แล้วร่างกายของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่กระดูกไปจนถึงทุกส่วนของร่างกายพวกมันได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมทําให้สามารถออกกําลังกายได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ยังต้องคอยระวังไม่ให้ได้รับบาดเจ็บและหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะทําให้กระดูกหัก

เพื่อให้การฟื้นตัวของเขาเป็นไปด้วยดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ผลลัพธ์เหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมของหวังเย้าทําให้สองแม่ลูกต้องการรักษากับเขาต่อ

“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย” หวังเย้าพูด

เด็กหนุ่มได้รับยามากินต่อด้วยการฝังเข็มและจากนั้นก็แช่อยู่ในน้ำยา

หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น มันก็เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว

เด็กหนุ่มเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่เขาก็ยังคงกระปรี้กระเปร่าดี

“ดีจริงๆ!” เขาพูด

“อืม ร่างกายของเธอเปลี่ยนไปแล้ว”หวังเย้าพูด“นี่จะเป็นการแช่น้ำยาครั้งสุดท้ายของเธอการแช่ครั้งนี้จะเป็นการเสริมความแข็งแรงและสร้างสมดุลในร่างกายของเธอ”

“ค่ะๆ” เธอฟังแล้วพยักหน้า

“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ”

อาการป่วยของลูกชายที่ผ่านมานานหลายปีที่ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่วิตกกังวลแต่รวมไปถึง

ทุกคนในครอบครัวด้วยทุกคนในครอบครัวต่างตื่นเต้นยินดีเมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงของเขาเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือของขวัญปีใหม่ที่ดีที่
สําหรับทุกคนในครอบครัว

“ไม่เป็นไรครับ” หวังเย้าพูด

หลังจากผ่านช่วงเที่ยงไปก็มีคนไข้หลายคนที่เข้ามาในคลินิก

กว่าที่เขาจะกลับไปที่บ้านได้ก็เย็นมากแล้ว

เงาร่างสองสายปรากฏขึ้นบนเนินเขาซีชาน

“ที่นี่เหรอ?”

“ใช่ ที่นี่แหละ”

ทั้งสองมาจากหุบเขาพันโอสถในยูนนานใต้จ้าวหยิงหาวคือหนึ่งในสองคนนั้นเขาเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่งดังนั้นความทรงจําของที่นี่ยังถือว่าสดใหม่สําหรับเขา

“ที่ตรงนี้ใช่ไหมที่อยู่ในภาพถ่ายน่ะ?”

“เราแค่ต้องขึ้นไปดูบนเขาลูกนั้น”

ทั้งสองเดินตรงไป และพบว่าแสงอาทิตย์ส่องลงไปบนเนินเขาหนานชานที่เต็มไปด้วยต้นไม้

เขียวขจี เขาลูกนั้นเต็มไปด้วยก้อนเมฆล้อมรอบเอาไว้

“เป็นที่นั่น” ชายวัยกลางคนพูด

“ฉันไม่คิดเลยว่าจะมาเจอสรวงสวรรค์ที่นี่”เขาพูดอย่างชื่นชม

“ระวังตัวด้วย มีผู้ชายที่เก่งกาจเหมือนเทพเจ้าอยู่ที่นี่ด้วย”จ้าวหยิงหาวพูด

“เทพเจ้า?” ชายวัยกลางคนถาม “ตอนนั้นนายคงจะกลัวมากเลยสินะ” “เขายังอายุไม่ถึง 30 ด้วยซ้ำถึงเขาจะฝึกตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่แต่เขาจะเก่งได้สักแค่ไหนกันเชียว?”