ตอนที่ 1543 หอจันทร์แรม (3)
“เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร?” ผู้หญิงคนนั้นถาม
“จวินอู๋” จวินอู๋เสียตอบ
“จวินอู๋……” ผู้หญิงคนนั้นลูบคาง ลุกขึ้นนั่ง แล้วจิบเหล้าอีกอึก “เจ้าเพิ่งเข้ามาปีนี้หรือ?” ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูมึนเมาเล็กน้อย
“ใช่”
“สาขาไหน?”
“พรสวรรค์แต่กำเนิด”
ผู้หญิงคนนั้นเบะปากมองบน “เวร จะโยนเจ้าเด็กสาขาพรสวรรค์แต่กำเนิดมาให้ข้าทำบ้าอะไร สติไม่ดีเรอะ ข้าไม่ได้มาจากเผ่าพิเศษพวกนั้นซะหน่อย”
จวินอู๋เสียนิ่งฟังผู้หญิงคนนั้น “บ่น” แบบไม่ออมเสียงเลยสักนิด
“เจ้ามาจากเผ่าไหน? ผู้ใช้กระดูก? แม่มดหมอผี? หรือเผ่าวายุ?” ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าหงุดหงิด นางแทบจะสลักคำว่า “ข้าไม่ได้อยากสอนเจ้าสักนิด เจ้าไสหัวไปจะได้ไหม” เอาไว้บนหน้าผากนางอยู่แล้ว
จวินอู๋เสียทำเหมือนนางไม่ได้สังเกตเห็นความหงุดหงิดของผู้หญิงคนนั้น และตอบกลับไปว่า “เผ่าจ้าววิญญาณ”
“ห๊ะ?” ผู้หญิงคนนั้นชะงัก มือที่ถือเหยือกเหล้าแกว่งเล็กน้อย “เผ่าจ้าววิญญาณ? ไม่เคยได้ยิน” พูดแล้วก็กระดกเหล้าอีกอึก
“เจ้าหนู อย่าหลอกข้า”
“เป็นเผ่าจ้าววิญญาณจริงๆ” จวินอู๋เสียพูดอย่างใจเย็น สำนักธาราเมฆเป็นสำนักที่สามที่นางเคยเข้าเรียน แต่ครูอย่างผู้หญิงคนนี้ จวินอู๋เสียเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ครูที่เชื่อถือไม่ได้มากที่สุดที่จวินอู๋เสียเจอมาก็น่าจะเป็นอาจารย์เยี่ยนปู้กุย และเหล้าก็ไม่เคยห่างจากปากเขาเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนนี้ เยี่ยนปู้กุยดูกระจอกไปเลย
“หือ? เผ่าจ้าววิญญาณ? เอาล่ะ งั้นบอกข้ามา ลักษณะพิเศษของเผ่าจ้าววิญญาณคืออะไร? ถ้าบอกไม่ได้ ข้าจะโยนเจ้าออกไป” ผู้หญิงพ่นลมออกมาพร้อมกลิ่นเหล้า
จวินอู๋เสียเหลือบมองนางและไม่ได้พูดอะไรมาก นางเอากระเป๋ามิติออกมา ตั้งใจจะหยิบของบางอย่างจากในนั้น
ในอาณาจักรล่าง ไม่มีของอย่างกระเป๋ามิตินี้ แต่ในอาณาจักรกลางนี่ ถึงแม้กระเป๋ามิติจะหายาก แต่ก็ไม่ได้หายากขนาดที่จะประหลาดใจเมื่อได้เห็น ดังนั้นจวินอู๋เสียจึงเอามันออกมาโดยไม่ได้คิดมาก
แต่พอจวินอู๋เสียเอากระเป๋ามิติออกมา ผู้หญิงที่มีสีหน้าหงุดหงิดก็ชะงักค้างไปทันที นางจ้องกระเป๋ามิติที่มีลายปักดอกไม้ในมือของจวินอู๋เสีย ความมึนเมาในดวงตาของผู้หญิงคนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
ทันใดนั้น แสงสีเงินก็พุ่งผ่านหน้าจวินอู๋เสีย และกระเป๋ามิติที่นางถืออยู่ก็หายไปทันที เมื่อจวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมา กระเป๋ามิติก็อยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นแล้ว
นางเอาไปเมื่อไร?
จวินอู๋เสียประหลาดใจ เมื่อนึกถึงแสงสีเงินแวบหนึ่งก่อนหน้านี้ นางก็ใจหายวาบ
เย่ฉาเคยบอกนางว่า เหนือพลังวิญญาณสีม่วงก็คือพลังวิญญาณสีเงิน แต่จวินอู๋เสียไม่เคยเห็นมาก่อน นางสงสัยมาตลอดว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงิน แต่นางก็ไม่เคยเห็นเขาใช้พลัง ตอนที่จวินอู๋เสียเพิ่งเจอกับผู้หญิงขี้เมาคนนี้ นางก็ไม่สามารถระบุพลังวิญญาณของผู้หญิงคนนี้ได้ นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าผู้หญิงคนนี้มีพลังที่สูงกว่านาง แต่จวินอู๋เสียคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีพลังระดับเดียวกับประมุขของสิบสองวิหาร พลังวิญญาณสีเงิน!
จวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่สนว่าจวินอู๋เสียจะรู้สึกยังไง นางจ้องมองกระเป๋ามิติในมือด้วยสายตาตกตะลึงอย่างที่สุด
“เจ้าหนู! เจ้าได้กระเป๋ามิตินี้มาจากไหน!?” ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้น ความมึนเมาหายไปจากดวงตาคู่งามนั้นจนหมดสิ้น แทนที่ด้วยสายตาคมกริบ น้ำเสียงดุดัน
จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว กระเป๋ามิติใบนี้ เยี่ยนปู้กุยเป็นคนมอบให้นาง ดูจากปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้น เห็นได้ชัดว่านางจำกระเป๋ามิติใบนี้ได้!