ตอนที่ 1544 ครูที่รักเหล้ายิ่งชีพ (1)
เหตุผลที่เยี่ยนปู้กุยไปจากอาณาจักรกลางนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพูดถึงมาก่อน ตอนที่จวินอู๋เสียรักษาเยี่ยนปู้กุย นางพบว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บภายในค่อนข้างมากและต้องใช้เวลาพอสมควรในการรักษาให้กลับมาแข็งแรง ก่อนจากมา นางได้ให้มู่เฉินดูแลอาการของเยี่ยนปู้กุย
ความจริง เยี่ยนปู้กุยไม่ได้สอนอะไรจวินอู๋เสียมากนัก แต่ในใจจวินอู๋เสียยอมรับว่าเขาเป็นอาจารย์ และนั่นจะไม่เปลี่ยนแปลง
อาการบาดเจ็บของเยี่ยนปู้กุยทำให้จวินอู๋เสียรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา ทำให้เขาต้องออกจากอาณาจักรกลาง ดังนั้นจวินอู๋เสียจะไม่พูดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเยี่ยนปู้กุยให้คนนอกฟัง
ผู้หญิงคนนี้จำกระเป๋ามิติได้ นางอาจจะรู้จักเยี่ยนปู้กุยด้วย
“ข้าซื้อมาจากการประมูล” จวินอู๋เสียตอบ
“เจ้าซื้อมาจากการประมูล?” ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าตกตะลึงและเหลือเชื่อ นางพลิกกระเป๋ามิติไปมาอยู่หลายครั้ง จากนั้นมุมปากของนางก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันเย็นชา “ซื้อจากการประมูล……ดี! ดี! ดีมาก! ฮ่าๆๆๆ!”
นางโยนกระเป๋ามิติกลับไปให้จวินอู๋เสีย รอยยิ้มหยันยังคงอยู่บนริมฝีปากนาง
“เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”
จวินอู๋เสียถือกระเป๋ามิติไว้ในมือ คำพูดของผู้หญิงคนนั้นทำให้นางประหลาดใจ แต่ก่อนที่นางจะแน่ใจในความสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนั้นกับเยี่ยนปู้กุย นางไม่สามารถเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับเขาได้ นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของเยี่ยนปู้กุย
“ข้าทำต่อเลยไหม?” จวินอู๋เสียแสร้งทำเป็นนิ่งมองผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นกระดกเหล้าอีกอึก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อเลย!”
จวินอู๋เสียดึงขวดน้ำออกมาจากกระเป๋ามิติ หลังจากทำให้พู่กันเปียกแล้ว นางก็ลงนั่งยองๆบนพื้นและเขียนอักษรเสริมวิญญาณก่อนจะเรียกแมวดำตัวน้อยออกมา
ผู้หญิงคนนั้นเอนหลังพิงโซฟามองอย่างเฉยเมย และไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าจวินอู๋เสียกำลังทำอะไรอยู่ ดูเหมือนใจของนางกำลังล่องลอยไปอยู่ที่อื่น
แต่ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังใจลอยอยู่นั้นเอง เปลวไฟร้อนแรงก็ลุกพรึ่บขึ้นตรงหน้านาง แสงสว่างจ้าได้ดึงความสนใจของผู้หญิงคนนั้นกลับมา!
นางเห็นแมวดำตัวน้อยเดินเหยียบเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ ลูกไฟห่อหุ้มอยู่ที่ขาของมัน แต่ไม่ได้เผาไหม้ขนของมันแม้แต่น้อย
ผู้หญิงที่ไม่ได้สนใจเลยในตอนแรก บัดนี้จ้องมองภาพอัศจรรย์ตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง
หลังจากนั้นไม่นาน เปลวไฟรอบอุ้งเท้าของเจ้าแมวดำก็สลายไป จากนั้นมันก็กระโจนเบาๆขึ้นไปบนไหล่ของจวินอู๋เสีย และลงนั่งแกว่งหางไปมา
“นี่คือพลังของเผ่าจ้าววิญญาณหรือ?” ผู้หญิงคนนั้นมองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ ท่าทีเฉื่อยชาหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย สายตาจ้องเขม็งอยู่ที่ร่างของจวินอู๋เสีย
“ใช่” จวินอู๋เสียพยักหน้า
“บอกรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถของเผ่าจ้าววิญญาณมาซิ” ผู้หญิงคนนั้นทำสีหน้าจริงจัง
จวินอู๋เสียเอาคำที่นางบอกซูจิ่งเหยียนในวันนั้นมาพูดให้ผู้หญิงคนนั้นฟังอย่างไม่มีตกหล่นสักคำ ผู้หญิงคนนั้นฟังอย่างตั้งใจ และเมื่อจวินอู๋เสียพูดจบ ความประหลาดใจในดวงตาของนางก็ยังไม่จางหายไป
“โลกนี้มีเผ่าจ้าววิญญาณอยู่จริงๆ……” ผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าครุ่นคิดพร้อมกับลูบคาง ดวงตาคู่งามตวัดมามองจวินอู๋เสียอีกครั้งด้วยสายตาตรวจสอบค้นหา
“ข้าพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าโง่เทียนเจ๋อถึงส่งเจ้ามาที่นี่”
ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาหาจวินอู๋เสีย นางเป็นคนตัวสูง เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย นางก็สูงกว่าเกินครึ่งหัว มือข้างที่ถือเหยือกเหล้าเท้าเอวขณะที่ก้มลงมาเล็กน้อยเพื่อให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับจวินอู๋เสีย จากนั้นมืออีกข้างก็วางลงบนหัวของจวินอู๋เสีย
“เจ้าหนู จำไว้ ข้าชื่อซูหย่า ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าคือครูของเจ้า”