ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 449

“นี่คือลูกเขยพวกเขาใช่ไหม? ดูซิว่าพวกซิมเมอร์ปฏิบัติกับเขายังไง! เหมือนเขาไม่มีค่าอะไรเลย!”

“เสื้อผ้าของเขาก็เก่า ๆ โทรม ๆ ฉันพนันได้เลยว่าเขาไม่มีเงินใช้”

“สำหรับคนไม่มีอันจะกินแบบเขา หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ก็ช่วยให้เขาใช้ชีวิตอยู่ได้นาน ฉันมั่นใจเลยว่าเขาจะยอบรับเงินนั่น”

“แต่ตระกูลซิมเมอร์นั้นน่าสนใจจริง ๆ คิดจัดงานแบบนี้ขึ้นมาเพื่อเอาใจทุกคน ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ฮาร์วีย์ถึงกับพูดไม่ออก

ทุกคนกำลังพูดคุยกันและมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน

ทุกคนต่างรอคอยดูว่าลูกเขยอย่างเขาจะคุกเข่าหรือไม่

แซ็คตะโกนออกมาอย่างดุเดือดอีกครั้ง “คุกเข่าแล้วขอร้องฉันสิ!”

ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

ตอนนี้แซ็คมีคนเก่ง ๆ หลายคนคอยสนับสนุนเขา

แซ็คคิดว่าฮาร์วีย์คงจะไม่กล้าทำอะไรเขา

ฮาร์วีย์จ้องไปที่แซ็คแต่ไม่พูดอะไร ในแววตาของเขามีเพียงความเย็นชาออกมาให้เห็น

“คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”

แซ็คกดไหล่ฮาร์วีย์ด้วยมือข้างเดียว บังคับให้ฮาร์วีย์คุกเข่า

แต่ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหวเลย

“คุกเข่า!”

แซ็คใช้กำลังทั้งหมดผลักฮาร์วีย์ลงไปที่พื้น

“เพียะ!”

ฮาร์วีย์ยกมือขึ้นตบไปที่แซ็คอย่างแรง

จนแซ็คเซถอยออกไปเกือบเจ็ดถึงแปดเมตร

เกิดความเงียบเข้าครอบคลุม

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน

ในบรรดาคนของซิมเมอร์ต่างก็ไม่มีใครที่จะตกใจกับเหตุการณ์นี้

เพราะฮาร์วีย์เอาชนะแซ็คมาหลายครั้งแล้ว พวกเขาไม่แปลกใจอีกต่อไป

ลูกเขยคนนี้จะเป็นบ้าแบบนี้เป็นครั้งเป็นคราว

แต่แขกคนอื่น ๆ ต่างสับสน

ลูกเขยนี่ทำบ้าอะไร?

เขาตบหน้าแซ็คจนกระเด็นกเซถอยไปแบบนั้นได้ยังไง?

นั่นคือทายาทของตระกูลซิมเมอร์เชียวนะ!

แกร๊ก…

ขณะที่แซ็คพยายามจะลุกขึ้น ฮาร์วีย์ก็เหยียบหน้าเขาและเดินเลยผ่านไป

ฮาร์วีย์เดินไปหาผู้อาวุโสซิมเมอร์ จากนั้นเขาก็พูด “หลังจากนี้อย่าลืมรายงานผลประกอบการธุรกิจของตระกูลซิมเมอร์ให้ผมทราบโดยเร็วที่สุด”

“ผมไม่อยากเห็นตระกูลซิมเมอร์ถูกคนอื่นเอาเปรียบหลังจากมาที่บัควู้ดได้เพียงไม่กี่วัน”

นี่คือความปรารถนาดีที่เหลือน้อยลงแล้วของฮาร์วีย์

ความเมตตาของเขานั้นก็เพื่อแมนดี้เท่านั้น

เขารู้ว่าแมนดี้ไม่สามารถเมินเฉยต่อตระกูลซิมเมอร์ได้

นั่นเพราะบัตรเชิญที่เชิญเขามา เขาเลยเสนออยากจะช่วยตระกูลซิมเมอร์อีกครั้ง

หลังจากฮาร์วีย์พูดจบ ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์ดูแย่ลง

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

จากนั้นทุกคนก็พากันหัวเราะ

“ลูกเขยนี่บ้าไปแล้วรึเปล่า? เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?”

“เขาสั่งให้นายใหญ่ซิมเมอร์รายงานให้เขาทราบงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ไอ้โง่นี่มันบ้าไปแล้วหรือไง?!”

“ตลกสิ้นดี ผู้ชายคนนี้ตลกเกินไปแล้ว! เขาไม่ต้องใช้ทักษะการแสดงใด ๆ เพื่อที่จะเล่นเป็นคนงี่เง่าแบบนี้เลย!”

ฮาร์วีย์ยังคงเงียบ

ฮาร์วีย์เมินเฉยการเยาะเย้ยของผู้คน แต่เขามองผู้อาวุโสซิมเมอร์อย่างเฉยชาและพูดว่า “ผมไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์กับหลาย ๆ เรื่องในบัควู้ด”

“จำคำพูดของผมให้ดี ไม่อย่างนั้นตระกูลซิมเมอร์จะถูกใครบางคนกลืนกินชุบมือเปิบไป ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้อีก”

ฮาร์วีย์หันกลับจะเดินจากไป ท่ามกลางทุกคนที่เยาะเย้ยเขา

“หยุดนะ! ฉันอนุญาตให้แกออกไปงั้นเหรอ?”

ไซม่อนเดินเข้ามาขวางและหยุดฮาร์วีย์ไว้

เขาต้องการเอาชนะลูกเขยบ้านี่ ในความคิดของเขาฮาร์วีย์โง่เง่าที่สุด

ไอ้โง่นี่คิดจะทำอะไรกันแน่?

สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์บูดเบี้ยวด้วยความโกรธ “ไซม่อน ปล่อยเขาไป!”

“วันนี้เป็นวันที่ดีของเรา คนสำคัญกำลังมา! ตัดปัญหาเรื่องนี้ออกไปก่อน!”

“ใช่! ยังมีโอกาสที่เราจะจัดการเขา!”

“คนสำคัญใกล้จะถึงแล้ว ไม่ดีแน่ที่จะปล่อยให้ไอ้งี่เง่าคนนี้เข้ามาวุ่นวาย!”

“เขาโชคดีไป!”

ฮาร์วีย์ออกจากที่นั้นท่ามกลางสายตาของใครหลายคน

หลังจากที่ฮาร์วีย์จากไป ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็พูดอย่างเป็นกังวลว่า “ฌอน คนสำคัญคนนั้นอยู่ที่ไหนแล้ว? ทำไมเขายังไม่มา?”