เสียงลมพัดดังขึ้นเรื่อยๆ และเสียงฝนตกก็รุนแรงขึ้นด้วยเช่นกัน ฝนเม็ดใหญ่ตกกระทบใบไม้สีเขียว นำความชุ่มฉ่ำมาสู่ค่ำคืนในฤดูร้อน
ภายในห้องนอนชั้นล่างของบ้านที่บรรยากาศเต็มไปด้วยสีแดง และเปี่ยมไปด้วยความสุข..
“อ๊ะ..!”
เสียงร้องเจ็บปวดปะปนไปด้วยความสุขมหันต์ดังขึ้นไปทั่วทั้งห้อง และเหยาลู่ก็ได้มอบครั้งแรกของเธอให้กับเหลิงหยุนไปแล้ว..
ระหว่างที่หลิงหยุนใช้การบ่มเพาะเคียงคู่ส่งเหยาลู่ไปสู่จุดสุดยอดครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ตัวเขาเองก็ได้ดูดซับเอาพลังบริสุทธิ์จากร่างกายของเธอไปอย่างไม่ยั้งเช่นกัน
หลิงหยุนเดินวิชาพลังลับหยินหยาง และได้ถ่ายเทพลังหยินจากร่างกายของเขาเข้าสู่เส้นลมปราณทั่วร่างกายของเหยาลู่!
หลิงหยุนใช้การบ่มเพาะเคียงคู่ทำให้หลินเมิ่งหานสามารถเข้าสู่ระดับเริ่มต้นของขั้นโฮ่วเทียน-9 มาแล้ว และเขาก็กำลังทำเช่นเดียวกันนั้นกับเหยาลู่!
พลังหยินจำนวนมากไหลจากร่างของหลิงหยุนเข้าสู่ร่างของเหยาลู่ ระหว่างที่ถ่ายเทพลังหยินให้กับเหยาลู่นั้น หลิงหยุนเองก็ระมัดระวังอย่างมาก..
ขั้นโฮ่วเทียน-1..
ขั้นโฮ่วเทียน-2..
ขั้นโฮ่วเทียน-3..
ลมปราณในร่างกายของหลิงหยุนถูกถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของเหยาลู่ จนเธอสามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-6 ได้!
และทุกครั้งที่เข้าสู่แต่ละขั้น ศรีษะของเหยาลู่ก็จะสะบัดไปมาจนผมยาวนั้นปลิวไสว และแม้แต่ตัวเธอเองก็แทบจะเวียนหัว!
ร่างของทั้งคู่เชื่อมต่อกัน และกำลังถ่ายเทพลังหยิน-หยางหมุนเวียนไปมา มัจฉาหยิน และมัจฉาหยางภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุน เริ่มหมุนด้วยความเร็ว ส่งผลให้พลังหยินในร่างกายของหลิงหยุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มัจฉาหยิน และมัจฉาหยางเริ่มหมุนเร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆ กำลังภายในในร่างกายของหลิงหยุนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ..
‘สามารถเข้าถึงขั้นหกได้ นับว่าพรสวรรค์ของเหยาลู่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมิ่งหานมากนัก..’
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนบ่มเพาะเคียงคู่กับหลินเมิ่งหาน แม้ในครั้งนั้นหลินเมิ่งหานจะเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-6 ได้ก่อนที่หลิงหยุนจะดื่มน้ำลายมังกรช่วย แต่ในครั้งนั้นหลิงหยุนเองก็เพิ่งจะอยู่ในขั้นปรับร่างกาย-5 เท่านั้นเอง
ตอนนี้หลิงหยุนอยู่ในขั้นปรับร่างกาย-7 ซึ่งนับว่าเป็นด่านสุดท้ายของขั้นปรับร่างกาย และพลังหยินหยางในร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งกว่าครั้งนั้นหลายเท่า
หลังจากที่หยิน-หยางของคนทั้งคู่รวมเป็นหนึ่งเดียว หลิงหยุนก็เริ่มเดินพลังลับหยินหยางขั้นสูงสุด แต่ก็สามารถทำให้เหยาลู่เข้าสู่เพียงแค่ระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-6 ได้เท่านั้น
และนี่คือช่องว่างทางกายภาพของหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่!
หลิงหยุนเรียกน้ำลายมังกรออกมา และด้วยปริมาณของน้ำลายมังกรที่ดื่มเข้าไปนั้น พลังชีวิตจากน้ำลายมังกรก็พุ่งเข้าสู่เส้นลมปราณทั่วร่างกายของหลิงหยุน และตรงเข้าสู่จุดตันเถียนของเขาทันที!
ตอนนี้.. พลังชีวิตภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุนเต็มเปี่ยม และเส้นโค้งรูปมังกรที่แบ่งจุดตันเถียนออกเป็นสองฝั่งนั้น ก็ได้เปล่งประกายสีทองจางๆขึ้นอีกครั้ง
พลังชีวิตจากน้ำลายมังกรเคลื่อนไปตามร่างกายส่วนล่างของหลิงหยุน และเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายของเหยาลู่ที่เชื่อมต่อกัน พลังชีวิตที่เคลื่อนเข้าสู่ร่างของเหยาลู่อย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลนั้น ไม่เพียงช่วยให้สดชื่น แต่ยังดีต่อร่างกายของเธออีกด้วย!
ระหว่างการหมุนเวียนและถ่ายเทนั้น พลังชีวิตจากน้ำลายมังกร และพลังหยินก็เคลื่อนไปด้วยกันคล้ายเส้นคู่ขนาน จากนั้นเส้นลมปราณของทั้งสองร่างก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ และช่วยเพิ่มกำลังภายในให้กับทั้งสองคนอย่างมาก..
ตูม!!
หลิงหยุนเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-8 ในทันที! และกำลังภายในของเหยาลู่ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน!
‘ในที่สุดข้าก็เข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-8 แล้ว และกำลังของข้าก็เพิ่มมากขึ้นถึงสองเท่า! ช่างยอดเยี่ยมนัก!’
หลิงหยุนยังคงรักษาท่าทางให้อยู่ในท่วงท่าเดิม และปล่อยให้ร่างของทั้งสองคนได้ถ่ายเทหมุนเวียนพลังหยินหยางครั้งใหญ่อย่างช้าๆ และรอคอยให้ทุกอย่างสิ้นสุดด้วยตัวมันเอง
“สามี.. นี่เรียกว่าบ่มเพาะเคียงคู่ที่คุณเคยบอกใช่มั๊ย? มหัศจรรย์มากจริงๆ!”เหยาลู่ร้องบอกอย่างตื่นเต้น..
“เหยาลู่.. คุณช่างเฉลียวฉลาดนัก! ใช่แล้ว.. นี่เรียกว่าการบ่มเพาะเคียงคู่ และตอนนี้คุณก็ได้เข้าสู่ระดับกลางของขั้นโฮ่วเทียน-8 แล้ว”
ไม่เลวเลย..! นับว่าต้องขอบคุณระดับขั้นกำลังของหลิหยุน จึงทำให้เหยาลู่สามารถเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียน-8 ได้ หลิงหยุนเองก็พึงพอใจอย่างมาก
ใบหน้าสวยงามของเหยาลู่แดงก่ำเมื่อได้รับคำชม!
ในบรรดาธาตุทั้งห้านั้น.. ร่างกายของเหยาลู่นับว่ามีธาตุดินเด่นที่สุด เธอจึงมีความอดทนที่สูงกว่าคนปกติ และนับว่าสูงกว่าหลินเมิ่งหาน
และด้วยการบ่มเพาะเคียงคู่นี้ ขั้นของหลิงหยุนก็สามารถเข้าสู่เพียงแค่ระดับเริ่มต้นของขั้นปรับร่างกาย-8 ได้ แต่ประโยชน์ที่ได้รับนั้นกลับมีมากมาย!
นี่เป็นอีกครั้งที่จุดตันเถียนของหลิงหยุนขยาย และเส้นลมปราณก็แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งพลังหยินหยางภายในร่างกายก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
เวลานี้มัจฉาหยินและมัจฉาหยางค่อยๆ หมุนขึ้นเองอย่างช้าๆ และเปลี่ยนเป็นวงกลมไท่จี๋ พลังหยิน-หยางถูกสร้างขึ้นมาอย่างมากมาย และไหลเวียนอย่างรวดเร็วไปตามเส้นลมปราณขนาดใหญ่ภายในร่างกายของหลิงหยุนราวกับสายน้ำที่ไม่มีวันสิ้นสุด!
เวลานี้จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็คมชัดขึ้น และขยายกว้างออกไปจากเดิมอีกสิบเมตร จิตหยั่งรู้ของเขาในตอนนี้ครอบคลุมบริเวณพื้นที่สามสิบเมตรโดยรอบ และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีนี้ ก็จะถูกจิตหยั่งรู้ของเขาสังเกตเห็นได้หมด
แทบไม่ต้องพูดถึงประสาทสัมผัสทั้งห้าที่พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน และตอนนี้เนตรหยินหยางของเขาก็สามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางที่หนาสองเซ็นติเมตรได้แล้ว
และนั่นหมายความว่า เงินปึกหนึ่งที่สอดไส้เงินปลอมไว้นั้น หลิงหยุนจะสามารถสังเกตุเห็นได้ในทันที!
และด้วยน้ำลายมังกรที่หลิงหยุนดื่มเข้าไป ทำให้เส้นโค้งรูปมังกรภายในจุดตันเถียนที่อัศจรรย์ของเขานั้น ได้เริ่มเป็นประกายสีทองที่เข้มขึ้น และศรีษะของมังกรก็ได้เคลื่อนขึ้นมาอยู่ที่กระดูกสันหลังข้อที่สองนับจากส่วนปลายขึ้นมา อีกทั้งกระดูกสันหลังของเขาก็เริ่มเป็นสีทองจางๆอีกด้วย
ภายในจุดตันเถียน.. ระหว่างพลังหยางบริสุทธิ์ที่เข้มข้นจนมีสีขาวข้นคล้ายครีม และพลังหยินที่มีสีดำมันนั้น มีเส้นโค้งรูปมังกรซึ่งเปล่งประกายสีทองคั่นอยู่ และนับวันเส้นโค้งรูปมังกรสีทองนี้ก็ยิ่งดูราวกับมีชีวิต..
………
เวลาตีสี่ครึ่ง ด้านนอกยังคงมีฝนตกหนัก..
หลังจากที่พูดคุยกับหลิงหยุนอยู่ครู่หนึ่ง เหยาลู่ก็เคลิ้มหลับไปในที่สุด..
หลิงหยุนห่มผ้านวมบางเบาให้กับเหยาลู่อย่างอ่อนโยน และเริ่มนั่งขัดสมาธิเดินลมปราณเพื่อให้ขั้นกำลังของตนเองมั่นคง
ผ่านไปราวชั่วโมงกว่า.. หลังจากมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร หลิงหยุนจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
“การฝึกฝนก้าวหน้าไปค่อนข้างช้า! พลังชีวิตในโลกใบนี้มีเบาบางเกินไป นี่ข้าเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-8 แล้ว แต่กลับไม่สามารถดูดซับพลังชีวิตได้อย่างที่คิดไว้..”
อากาศภายในโลกใบนี้แทบจะไม่มีพลังชีวิตอยู่เลย หลิงหยุนจึงไม่สามารถดูดซับมาใช้เพื่อช่วยเร่งการฝึกให้รุดหน้าเร็วขึ้นได้
และด้วยพลังชีวิตในอากาศที่บางเบานี้ ทำให้การฝึกฝนของหลิงหยุนนั้นช้ากว่าที่ควรจเป็นมาก หากอยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องใช้การบ่มเพาะเคียงคู่กับหญิงสาวคนใดเลย เพราะเพียงแค่พลังชีวิตที่หายใจเข้าไปก็มีมากมายแล้ว
หากตอนนี้หลิงหยุนฝึกฝนอยู่ในโลกบ่มเพาะ เขาคงเข้าสู่ระดับกลางของขั้นพลังชี่ไปแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นพลังชี่แล้วก็เป็นได้!
ยิ่งไปกว่านั้น.. หากพลังชีวิตบนโลกไม่บางเบาเช่นนี้ หลิงหยุนก็คงไม่เลือกที่จะฝึกวิชาพลังลับหยินหยาง แต่คงเลือกที่จะฝึกวิชาที่ทรงพลังกว่านี้อย่างวิชาพลังหยางพิสุทธิ์มากกว่า
วิชาพลังหยางพิสุทธิ์นั้น ไม่เพียงเป็นวิชาที่ใช้สำหรับฝึกบ่มเพาะ แต่ยังเป็นวิชาที่ช่วยให้วรยุทธของผู้ฝึกวิชานี้แข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย และสามารถนำมาใช้ในการโจมตีคู่ต่อสู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่งได้ หากใช้ควบคู่กับวิชาดาราคุ้มกาย ไม่เพียงจะทำให้ผู้ฝึกมีเกราะคุ้มกายที่แข็งแกร่ง แต่ยังช่วยให้การฝึกฝนรุดหน้ารวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์!
แต่สำหรับวิชาพลังลับหยินหยางนั้น ผู้ที่ฝึกวิชานี้จะมีจุดตันเถียนที่สามารถสร้างพลังหยินและหยางขึ้นได้เอง ทำให้หลิงหยุนไม่ต้องพึ่งพาแค่เพียงพลังชีวิตที่มีจำกัด
และสำหรับบนโลกใบนี้.. ยิ่งมีหญิงสาวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะหลิงหยุนจะสามารถใช้การบ่มเพาะเคียงคู่ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในเรื่องความสมดุลของพลังหยินและพลังหยางในจุดตันเถียน
หรืออาจพูดให้เข้าใจได้ง่ายว่า.. ทั้งวิชาพลังลับหยินหยาง และวิชาพลังหยางพิสุทธิ์นั้น ล้วนเป็นวิชาบ่มเพาะพลังที่ทรงอานุภาพและอัศจรรย์อย่างมาก แต่ละวิชาต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่หากอยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ การฝึกวิชาพลังหยางพิสุทธิ์ย่อมได้ประโยชน์มากกว่า
ส่วนบนโลกที่ค่อนข้างขาดแคลนพลังชีวิตนี้ หลิงหยุนสามารถฝึกได้เพียงวิชาพลังลับหยิน-หยางเท่านั้น
‘ด้วยขั้นของข้าเวลานี้ พลังชีวิตในบ้านเลขที่-1 คงเพียงพอสำหรับการดูดซับแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น หลังสอบเอนทรานซ์เสร็จ ข้าคงต้องไปค้นหาพลังชีวิตตามถ้ำต่างๆบนโลกใบนี้!’ หลิงหยุนได้คิดวางแผนอยู่ในใจเงียบๆ
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงของเหยาลู่ที่เพิ่งตื่นนอน และระหว่างที่พลิกตัวนั้น ผ้าห่มบางเบาคลุมตัวก็เคลื่อนหลุด..
“สามี.. ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่ปลุกฉันล่ะ..”
เหยาลู่มองหลิงหยุนที่นั่งอยู่บนเตียงเงียบๆ และเมื่อเห็นท้องฟ้าที่เริ่มสว่างไหว เธอก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ “นี่.. ทำไมฉันถึงได้รู้สึกตัวเบา..”
เหยาลู่สังเกตุเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองได้ในทันที เธอจึงร้องถามออกมาอย่างประหลาดใจ
หลิงหยุนยิ้มอ่อนโยน “คุณไม่ต้องแปลกใจไป.. ผมจะสอนวรยุทธให้กับคุณเอง และหลังจากนั้นจะไม่มีใครกล้ารังแกคุณอีก!”
“ค่ะ.. ฉันจะตั้งใจเรียน และฝึกฝนให้หนัก จะได้ไม่เป็นภาระของคุณ!”
ริมฝีปากแดงของเหยาลู่เอื้อนเอ่ย และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หลิงหยุนได้แต่แอบคิดในใจว่า แม้พรสวรรค์ของเหยาลู่จะไม่ดีเท่าคนอื่น แต่ความอุตสาหะพากเพียรของนางนั้น เป็นเรื่องที่จะหาใครเทียบได้ยาก!
สำหรับการบ่มเพาะพลังนั้น มีวิธีการหลากหลายที่จะแก้ไขพรสวรรค์โดยธรรมชาติ แต่จิตใจนั้นเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นในการฝึกฝนของแต่ละคน
คนที่มีความอุตสาหะเช่นเหยาลู่นั้น นับว่าหาได้ยากนัก..
“เหยาลู่.. คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์ดีมาก หากตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก คุณจะต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากในวันข้างหน้า!”
หลิงหยุนให้กำลังใจ และชื่นชมเหยาลู่