บทที่ 207 ลิฟต์ที่ร่วงหล่น

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ขามัน ไม่มีแรง……”

สีพยางค์ที่เฉินหวั่นชิงพูดออกมามันทำให้เย่เทียนต้องทำหน้าจนใจออกมา

แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์กำลังคับขัน ลิฟต์มันสามารถร่วงหล่นได้ทุกเมื่อ จึงไม่มีเวลาให้ลังเลแม้แต่นิดเดียว

เย่เทียนเงยหน้าขึ้นมามองสายสลิงที่เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียว หัวใจที่กำลังร้อนรนก็ได้รู้สึกสบายใจไปบ้าง

แต็กแต็ก!

ทันทีที่เย่เทียนรู้สึกดีใจนั้น สายสลิงเส้นเล็กหลายเส้นก็ไปขาดออกเหมือนประชด ทำให้ลิฟต์เลื่อนลงอย่างกะทันหันอีกครั้ง ทำให้เฉินหวั่นชิงที่ตกใจจนน้ำตานองหน้ากรีดร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง

ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่า สายสลิงส่วนใหญ่เกิดจากการเอาสายสลิงเล็กๆ มากมายมาพันเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อสายสลิงเส้นเล็กหลายเส้นขาดออก มันก็ทำให้สายสลิงนั้นอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม

เย่เทียนในตอนนี้จะกล้าเสียเวลาได้ยังไง เขาได้มุดเข้าไปในลิฟต์อีกครั้งโดยไม่ลังเลเลย

เขาไม่กล้ากระโดดลงไปตรงๆ กลัวแรงกระแทกจากการลงพื้นจะทำให้สายสลิงรับน้ำหนักไม่ไหว เขาทำได้แค่ใช้สองมือจับช่องลมที่อยู่ด้านบนไว้แน่นๆ แล้วทิ้งตัวลงไป

แต่ทว่า ทันทีที่ขาของเย่เทียนลงพื้น เสียงสลิงขาด “แต็กแต็ก” สองครั้งขึ้นสองครั้งจากทางด้านบนก็ทำให้เขาเหงื่อท่วมไปทั้งตัว

พอคิดได้แบบนั้น เย่เทียนก็ไม่กล้าเสียเวลาแม้แต่นิดเดียว ค่อยๆ เดินไปดึงตัวเฉินหวั่นชิงที่ขาอ่อนขึ้นมาแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “หวั่นชิง ไม่ต้องกลัว ผมจะส่งคุณออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

พูดจบ ไม่รอให้เฉินหวั่นชิงตอบ เย่เทียนก็ยกเด็กสาวขึ้นมาไว้เหนือบ่า แล้วพูดเตือนสติว่า “คุณยื่นมือไปจับขอบของทางออกเอาไว้ แล้วเหยียบผมขึ้นไป”

นี่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ช่องลมมันไม่ได้กว้างนัก มันกว้างพอแค่ผ่านได้คนเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเย่เทียนก็คงไม่ต้องปีนลงมาอีกรอบทำไม แค่โอบเอวของเด็กสาวแล้วปีนออกไปก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?

ถึงแม้ในใจจะหวาดกลัว แต่ยังไงเฉินหวั่นชิงก็เป็นประธานคนหนึ่งในวงการ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เธอได้สติกลับคืนมาบ้างบางส่วน คว้าขอบทางออกเอาไว้ตามคำแนะนำของเย่เทียน

แต็ก!

เสียงสลิงขาดดังขึ้นอีกครั้ง เย่เทียนร้อนรนยิ่งกว่าเดิม

จากการเช็กสายสลิงเมื่อก่อนหน้านี้ ถ้าขืนเส้นลวดยังขาดอีกแค่สองเส้น เกรงว่าสายสลิงก็คงจะรับน้ำหนักไม่ไหว ลิฟต์ก็น่าจะตกลงไปแน่นอน

“ปีนออกไป!”

เย่เทียนคำรามออกมาเบาๆ ออกแรงยกเฉินหวั่นชิงขึ้น แล้วโยนเธอออกไปเบาๆ

วินาทีต่อมา เย่เทียนก็ถีบตัวขึ้นและพุ่งออกไปนอกลิฟต์อย่างรวดเร็ว

แต็ก!

แต่ทว่า ทันทีที่เย่เทียนขึ้นไปถึงบนลิฟต์ เสียงสลิงขาดก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เย่เทียนเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วเห็นสายสลิงที่ใหญ่เท่านิ้วเด็กในตอนแรก ตอนนี้มันเหลือลวดแค่สามเส้นเท่านั้นที่ยึดตัวลิฟต์เอาไว้ การที่ลิฟต์จะหล่นลงไปเมื่อไหร่มันก็อยู่ที่เวลาเท่านั้น!

ไม่เพียงเท่านั้น ไม่รู้ว่าช่างซ่อมบำรุงวัยกลางคนที่ถูกเย่เทียนทุบสลบไปในตอนแรกได้ฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขากำลังปีนขึ้นไปบนคานที่อยู่ในปล่องลิฟต์ เหมือนกำลังจะหนีออกจากสถานที่ที่อันตรายนี้

เย่เทียนอยากจับตัวชายวัยกลางคนไว้ แต่เวลามันบีบบังคับ จึงไม่มีสามารถไปสนใจชายวัยกลางคนเลย

“หวั่นชิง จับคานเอาไว้แน่นๆ!”

สมองแล่นไปอย่างรวดเร็ว เย่เทียนใช้สองมือประคองเฉินหวั่นชิงที่เพิ่งทรงตัวได้เอาไว้ ระหว่างที่ตะโกนเขาก็เหวี่ยงเฉินหวั่นชิงไปยังคานที่อยู่อีกฟากของลิฟต์

แต็ก!

เฉินหวั่นชิงใช้โอกาสนั้นเกาะคานเอาไว้แน่นๆ ถึงร่างกายจะมีการเซไปบ้าง แต่อย่างน้อยเธอก็ทรงตัวได้และเกาะอยู่ที่คานได้สำเร็จ

แต่ว่า แทบจะทันทีที่เย่เทียนเหวี่ยงเด็กสาวออกไป สายสลิงก็ทนต่อไปอีกไม่ไหวจนเกิดเสียงดังและขาดกระจุยไป!

ภาพเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก เย่เทียนที่เพิ่งเหวี่ยงเฉินหวั่นชิงออกไป ด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้น เย่เทียนจึงไม่สามารถกระโดดขึ้นไปได้

ทันใดนั้น ลิฟต์ก็ได้ร่วงหล่นลงไปข้างล่าง เวลาเดียวกันเย่เทียนก็หล่นตามลงไปด้วยเหมือนกัน

“ไม่ ไม่นะ!”

หลังจากที่เฉินหวั่นชิงทรงตัวได้อย่างมั่นคง ลิฟต์ก็ได้ร่วงลงไปเกินสามเมตรแล้ว เธอทำได้แค่มองดูเย่เทียนร่วงหล่นไปยังชั้นล่างเท่านั้น

น้ำตาใสๆ เป็นประกายได้เอ่อล้นออกมาที่เบ้าตา เสียงร้องไห้ฟูมฟายที่เจ็บปวดดังก้องอยู่ในปล่องลิฟต์เหมือนหัวใจทั้งดวงของเด็กสาวได้หล่นตามลิฟต์ลงไป และสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ตูม!

เสียงกระแทกอันดังสนั่นกังวานอยู่นาน ลิฟต์ที่ตกลงไปกระแทกพื้นจากความสูงสามสิบกว่าเมตร แรงกระแทกอันมหาศาลทำให้ตึกทั้งตึกสั่นสะเทือนไปนิดหน่อย

บริษัทแซ่เฉินเกิดความโกลาหลขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดได้ทำลายความสงบที่มีอยู่ก่อนหน้า พวกคนที่อยู่ตรงห้องโถงต่างพากันมารวมตัวอยู่ตรงหน้าลิฟต์ที่เกิดเรื่อง พูดคุยถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ทุกคนก็ได้รู้ว่าคนที่อยู่ในลิฟต์ก็คือประธานกรรมการของบริษัทแซ่เฉินกับสามีที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมาของเธอ!

ข่าวด่วนที่ร้อนแรงนี้ทำให้พวกนักข่าวที่เฉินหวั่นชิงเชิญมาเกิดตื่นเต้นขึ้นมาอย่างมาก ถึงแม้ลิฟต์ที่เกิดเหตุจะถูกทางตำรวจได้กั้นไปนานแล้ว แต่พวกนักข่าวก็ยังยกอาวุธน้อยใหญ่ของตนเล็งไปยังลิฟต์ที่ถูกปิดตายและกดชัตเตอร์อย่างบ้าคลั่ง

บริษัทแซ่เฉินในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเกลียวคลื่นที่อยู่กลางพายุ ต่อให้คนที่ติดอยู่ในลิฟต์จะเป็นแค่พนักงานทั่วไปก็มากพอที่จะเอาไปขึ้นหน้าหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉินหวั่นชิงกับสามีลึกลับของเธอที่อาจจะตายหรือบาดเจ็บเลย!

และนักข่าวบางคนที่กลัวจะถูกแย่งข่าวถึงขั้นแต่งเนื้อหาของข่าวขึ้นมาตรงนั้นเลย และมันก็ถูกแชร์ว่อนเน็ตไปอย่างรวดเร็ว

แค่คิดก็รู้ เนื่องจากการแถลงข่าวของตำรวจเมื่อกี้ทำให้หุ้นของบริษัทแซ่เฉินได้ปรับตัวขึ้นตามคาด ราคาที่ปรับตัวขึ้นได้หยุดลงอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับตัวลง

หลังจากที่กินเวลาไปอีกประมาณสิบนาที หน่วยกู้ภัยที่เดินทางมาอย่างเร่งรีบ ได้งัดประตูลิฟต์ที่ปิดมิดจนเกิดเป็นรอยแยกออกมา

ภาพที่เกิดขึ้นได้ทำให้ห้องโถงที่วุ่นวายได้สงบลงอย่างน่าประหลาด ทุกคนต่างหากันกลั้นหายใจแล้วมองไปทางลิฟต์ รอคอยผลที่จะถูกประกาศออกมา

ในตอนนี้มันได้แสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นของคนในประเทศจีนได้อย่างชัดเจนมาก ถึงจะมีความเป็นไปได้สูงที่ในนั้นอาจมีศพเละอยู่สองศพก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนได้

แน่นอนว่าพวกหญิงสาวที่ไม่กล้าดูต่างก็พากันยกมือขึ้นมาปิดตา แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเปิดปลายนิ้วออกเล็กน้อย แล้วแอบมองจากช่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้น

ส่วนพวกนักข่าวพวกนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ท่าทางที่แสดงออกมาไม่ต่างอะไรกับคนที่ถูกหวยห้าล้าน พากันเบิกตาด้วยความตื่นเต้น กล้องที่อยู่ในมือก็ชี้ตรงไปที่ประตูลิฟต์

ขอแค่ประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาก็จะระดมกันกดชัตเตอร์อย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ส่งรูปกลับไปที่บริษัททันที

มันจะต้องเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งอย่างแน่นอน ต้องรีบออกข่าวให้เร็วที่สุด แบบนั้นจึงจะสามารถเรียกความสนใจ และได้รับคำชมจากเบื้องบน!

ท่ามกลางสายตาของคนมากมายที่กำลังจับจ้อง ภายใต้ความทุ่มเทของหน่วยกู้ภัยประตูลิฟต์ก็ถูกงัดให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ

แชะแชะ!

แทบจะทันใดนั้น แสงแฟลชจากของกล้องก็สว่างขึ้นอย่างบ้าคลั่ง กลัวจะพลาดช็อตสำคัญอะไรไป

เพียงแต่ หลังจากที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดอกอย่างสมบูรณ์แล้ว ภาพที่เกิดขึ้นด้านในก็ทำให้ทุกคนแทบช็อก

สถานการณ์โดยรอบที่เพิ่งครึกครื้นขึ้นมาก็ได้เงียบลงอีกครั้ง ทุกคนต่างเบิกตาโต สีหน้าสงสัยและตกใจและมีบางคนที่ถึงกับผิดหวังด้วยซ้ำ…..