ตอนที่ 172 ฉันมีวิธีมากมายที่จะทำให้แกพูด

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ถังซีมองหยางจิ้งเสียน ยิ้มและตอบว่า “เป็นไปได้ค่ะ”

 

 

ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีความสำคัญต่อเธอมาก ก่อนหน้านี้ถ้าเธอต้องเลือกระหว่างคุณปู่กับเฉียวเหลียง เธอจะเลือกฝ่ายแรกโดยไม่ลังเล เพราะตั้งแต่วัยเด็กมาแล้วคุณปู่คือผู้ที่ปฏิบัติต่อเธออย่างดีที่สุด แต่ตอนนี้ ถ้าเธอต้องเลือกระหว่างตระกูลเซียว ตระกูลถัง และเฉียวเหลียง เธอจะไม่ยอมเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะเธอรักพวกเขาทุกคน

 

 

เพราะเธอเคยผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอจึงไม่ต้องการทอดทิ้งใคร หรือสิ่งใดก็ตามที่สำคัญต่อเธอ

 

 

 

 

เซียวจิ่งพาหลินเจียวไปที่โกดังในเขตชานเมือง เป็นสถานที่ซึ่งเซียวกรุปเคยใช้เป็นคลังสินค้า ที่นี่ถูกทิ้งร้างหลังจากที่พวกเขามีคลังสินค้าแห่งใหม่อีกแห่งในย่านใจกลางเมือง เซียวหงอี้ต้องการขายโกดังหลังนี้ ในขณะที่เซียวหงลี่บอกว่าที่ดินอาจมีราคาสูงขึ้นในอนาคต ที่นี่จึงถูกทิ้งร้างไว้

 

 

เมื่อเห็นโกดังร้างหลินเจียวก็หันมองไปรอบๆ ความหวาดกลัวฉายชัดทั่วดวงตาเธอ เซียวจิ่งและเซียวส่าไม่ได้ให้บอดีการ์ดปิดปากเธอ แต่ใบหน้าและปากเธอบวมเป่งจนพูดไม่ได้ เธอเอ่ยออกมาตะกุกตะกัก “พวกแก…พา… ฉันมา…ที่ไหน”

 

 

บอดีการ์ดสองคนที่คอยเฝ้าเธอคนหนึ่งหลับอยู่ ส่วนอีกคนกำลังขับรถ ไม่มีใครตอบเธอ เซียวจิ่งกับเซียวส่าก็งีบหลับอยู่หลังรถ

 

 

เมื่อทั้งหมดมาถึงตัวโกดังร้าง หลินเจียวมองดูประตูโกดังอย่างตื่นตระหนก แล้วมองกลับไปที่เซียวจิ่งกับคนอื่นๆ ถามว่า “ทำไม…พวกแก…พา…ฉัน…มาที่นี่”

 

 

“เพื่อทรมานแกให้สารภาพไง” เซียวจิ่งตอบอย่างเยือกเย็น “คิดว่าเราจะทำอะไรเหรอ”

 

 

หลินเจียวซึ่งจ้องมองอยู่ถึงกับผงะ เธอกรีดร้องโดยไม่สนใจความเจ็บปวดบนใบหน้า “แกไม่รู้หรือว่ามันผิดกฎหมาย”

 

 

“รู้สิ แน่นอน แต่ตำรวจไม่รู้ไง โอเคไหม” เซียวจิ่งตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะมองหลินเจียวอย่างเหลืออด “แล้วอีกอย่าง เธอทำผิดกฎหมายมากกว่าเราอีก เธอยังไม่กลัวเลย เราจะกลัวทำไม”

 

 

หลินเจียวตวัดสายตาจ้องมองพวกเขาอย่างรวดเร็ว ก้าวถอยหลังทีละก้าว แล้วทันใดนั้นเท้าเธอก็สะดุดบนพื้นหญ้าและเกือบจะล้มลง เซียวจิ่งไม่อยากพูดกับเธอจึงบอกให้คนของเขาพาเธอเข้าไปในโกดัง หลังจากนั้นเขากับเซียวส่าก็เดินไปด้านข้างอาคาร โทรศัพท์หาถังซี บอกเธอว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน

 

 

 

 

ถังซีกับหยางจิ้งเสียนมาถึงเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หลินเจียวทั้งหิวทั้งหวาดกลัว เธอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดในชีวิต เมื่อเห็นผู้หญิงสองคนมองมาที่เธอ เธอก็ชะงัก และมองถังซีด้วยท่าทางลังเลถามว่า “แกคือเซียวโหรวหรือ”

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว ขณะเดินเข้าไปหาและมองแก้มหลินเจียวที่แดงช้ำ เธอตอบว่า “ฉันมานี่เพื่อจะถามแกสองคำถาม ถ้าคำตอบของแกเป็นที่พอใจ ฉันจะปล่อยแกไป แต่ถ้าฉันไม่พอใจ แกจะถูกขังไว้ที่นี่ตลอดไป”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดเปิดประเด็นอย่างก้าวร้าวของถังซี หยางจิ้งเสียนก็มีท่าทางประหลาดใจมาก หลินเจียวพยายามลุกขึ้น แต่เธอถูกมัดไว้และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เธอถามว่า” แกทำอะไรจิ้นหนิง ทำอะไรแม่ฉัน”

 

 

เมื่อถังซีได้ยินคำถามสองข้อติดกัน ประกายวาววับก็ปรากฏในดวงตาเธอ ขณะนั่งลงตรงหน้าหลินเจียวด้วยรอยยิ้มบางๆ เธอมองตาหลินเจียวและกล่าวเบาๆ “ฉันพาแกมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อตอบคำถามแก แต่เพื่อให้แกตอบคำถามฉัน ไม่เข้าใจหรือไง”

 

 

หลินเจียวมองหน้าถังซีอย่างไม่อยากเชื่อ แล้วหรี่ตาลง “แกคิดว่าฉันจะตอบคำถามแก เพียงเพราะแกลักพาตัวฉันมาที่นี่น่ะหรือ แกอยากได้คำตอบใช่ไหม แต่ฉันจะไม่ตอบแก! ขอร้องฉันสิ!”

 

 

ถังซีก้มหน้าด้วยท่าทางระอาใจ แล้วทันใดนั้นรอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏบนใบหน้าเธอ เธอตบแก้มหลินเจียวเบาๆ ขณะเอ่ยพึมพำ “แกคิดว่าฉันจะหาความจริงด้วยตัวเองไม่ได้หรือไง แกรู้อะไรไหม สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการไม่ยอมให้ความร่วมมือ และฉันกำลังโกรธที่แกบังอาจมาขู่ฉัน” จากนั้นเธอก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วกล่าวต่อไป “แล้วแกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันโกรธ ฉันจะเดาเอาเอง และไม่ว่าสิ่งที่ฉันเดาจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ฉันจะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมา และทรมานไอ้อีทุกคนที่ฉันต้องการจะจัดการกับมัน”

 

 

เมื่อเห็นใบหน้าหลินเจียวค่อยๆ ซีดขึ้นเรื่อยๆ ถังซีก็ยิ้มขณะหดมือกลับ แล้วหันไปขอให้เซียวจิ่งกับเซียวส่าพาหยางจิ้งเสียนออกไปข้างนอก หลังจากที่พวกเขาทำตามที่เธอขอ เธอก็เอ่ยขึ้นอีกอย่างเย็นชา “แกก็รู้ว่าคนอย่างฉันอยากทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเซียวกรุป ที่จะทำรายงานผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ปลอม ถ้าเซียวจิ้นหนิงกลายเป็นเด็กที่เกิดจากคู่สามีภรรยาบ้านนอกที่ยากจน แฟนๆ เธออาจเห็นอกเห็นใจ แต่ถ้าแม่ของเธอเป็นโสเภณีที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตา และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเธอคือใคร แฟนๆ จะเห็นอกเห็นใจหรือเปล่า หรือจะยังชอบเธอไหม ฉันเกรงว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะยากสักหน่อย!”

 

 

เมื่อหลินเจียวได้ยินคำพูดของถังซี ใบหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นดำคล้ำในทันที เธอจ้องถังซีด้วยความโกรธและคำราม “แกไม่กล้าหรอก!”

 

 

ถังซียิ้ม “เราจะได้เห็นกัน” เมื่อจบคำพูดใบหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “แกสับเปลี่ยนลูกสาวแกกับฉัน แล้วโยนฉันทิ้งไว้ที่หมู่บ้านที่ยากจนนั่น แกยังทำได้ ทำไมฉันจะเปลี่ยนลูกสาวแกให้กลายเป็นหนูข้างถนนไม่ได้ล่ะ โอ…ใช่ ฉันจะบอกสิ่งที่แกทำทั้งหมดให้โลกรู้ แล้วหลังจากนั้นแม้แต่เดินถนน แกก็จะโดนทุกคนขว้างด้วยไข่เน่า!”

 

 

ถังซีหยุด แล้วกล่าวว่า “แน่นอน ถ้าแกบอกฉันทุกอย่างที่แกทำ ฉันอาจให้อภัยแก คิดดูให้ดีนะ ก่อนจะพูด”

 

 

“แกจะปล่อยเราใช่ไหม ถ้าฉันสารภาพ” หลินเจียวถามขณะจ้องมองถังซี

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว “ขึ้นอยู่กับอารมณ์ฉัน”

 

 

หลินเจียวอึ้ง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พยักหน้า “ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรทำอย่างนั้น ฉันท้อง แต่ฉันไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใคร ฉันอยากทำแท้ง แต่ยายเธอขอให้ฉันเก็บเด็กไว้ ยายเธอบอกว่าแม่เธอก็ท้องเหมือนกัน เราขอให้แม่เธอเอาลูกฉันไปเลี้ยงด้วยก็ได้ ฉันคิดว่าเป็นความคิดที่ดี ลูกสาวฉันก็ควรได้มีชีวิตที่ดีด้วยเหมือนกัน ฉันจึงซ่อนตัวอยู่ เมื่อแม่เธอคลอดเธอที่เมือง W ฉันก็รีบไปที่เมือง W ในคืนนั้น เพื่อไปผ่าตัดคลอดจิ้นหนิงที่นั่น และเพราะยายเธอเป็นแม่ของแม่เธอ จึงสามารถพาเธอออกจากโรงพยาบาลได้ง่ายๆ ตอนนั้นเธอยังเป็นทารกแรกเกิดไม่มีใครจำเธอได้ เมื่อเราสับเปลี่ยนป้ายชื่อเธอ เธอกับจิ้นหนิงก็สามารถสลับตัวกันได้”

 

 

หลินเจียวมองหน้าถังซี แล้วกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉันอยากเลี้ยงดูเธอด้วยตัวเอง แต่ฉันไม่มีปัญญา! ฉันเลยต้องส่งเธอไปอยู่ที่อื่น”