DC บทที่ 250: พบกับฟางซีหลาน

 

หลังจากใช้เวลาหลายนาทีในการพูดคุยกับหลานลี่ชิง โหลวหลานจีก็ตระหนักได้ว่าหลานลี่ชิงรักซูหยางมากมายเพียงไหน ยิ่งไปกว่านั้นปรากฏว่าซูหยางได้สืบข่าวไปทั่วทุกที่มากกว่าที่เธอได้คาดไว้ บ้าไปแล้ว คววมจริงที่ว่าเขาได้หลอกคนแบบหลานลี่ชิงในขณะที่เป็นเพียงแค่ศิษย์นอกไม่มีอะไรได้นอกจากคำว่ามหัศจรรย์

 

“ข้าคิดว่าข้าได้ยินมามากพอแล้วตอนนี้…” โหลวหลานจีกล่าวหลังจากที่ฟังเรื่องราวของอีกฝ่ายทั้งหมด

 

“อย่างไรก็ตามจงจำไว้ว่าจนกว่าซูหยางจะกลายเป็นศิษย์หลัก เจ้าจะยังต้องระมัดระวังเวลาไปพบกับเขา”

 

“เจ้าค่ะ ท่านผู้นำนิกาย” หลานลี่ชิงพยักหน้า รู้สึกเหมือนกับว่าภูเขาได้ยกออกจากอก หลังจากที่เปิดเผยทุกสิ่งให้กับโหลวหลานจี

 

โหลวหลานจีปล่อยหลานลี่ชิงไว้ตามลำพังหลังจากนั้นไม่นาน กลับคืนสู่ศาลาหยินหยาง

 

หลานลี่ชิงถอนหายใจลึกอย่างผ่อนคลายหลังจากที่โหลวหลานจีจากไปแล้ว เธอเกือบจะหัวใจวายในตอนแรกเนื่องมาจากโหลวหลานจีล้อเธอเล่น และยังคงรู้สึกว่าใจเธอเต้นระทึกราวกับกลองมาจนถึงตอนนี้

 

“ซูหยางอย่างน้อยควรจะเตือนข้าก่อนนี้ ข้าเกือบตายด้วยความตระหนกมาจนป่านนี้”

 

แม้ว่าเธอจะบ่น เธอก็ยังซาบซึ้งซูหยางที่เปิดเผยความจริงให้กับโหลวหลานจี อีกทั้งหว่านล้อมเธอให้ยินยอม เขาจัดการสร้างปาฏิหาริย์นี้ได้อย่างไร เธอไม่อาจจะจินตนาการได้ แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในบรรดาเสน่ห์ทั้งหมดของซูหยาง

 

ในเวลานั้น ซูหยางเพิ่งเสร็จสิ้นการร่วมฝึกคู่กับคู่ฝึกคนที่ยี่สิบในวันนั้น

 

“อาาา…ศิษย์พี่ชาย ท่านสามารถร่วมฝึกคู่กับหญิงสาวมากมายเช่นนี้ได้อย่างไรโดยที่ไม่หมดแรงจากความเหนื่อยล้า ต่อให้ปราณหยางของท่านมีมากมาย แต่การที่ท่านยังคงแข็งแม้ว่าจะร่วมฝึกต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักนี้ปกติแล้วเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ…”

 

ศิษย์คนนั้นถามเขาในขณะที่เธอนอนเปลือยอยู่บนเตียงของเขา

 

“ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ถ้าเจ้าใส่ใจ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

หลังจากที่ศิษย์หญิงจากไปแล้ว ซูหยางก็ออกไปข้างนอกและกล่าวกับศิษย์คนอื่นที่รออยู่ด้านนอก “ข้าต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าที่ประกาศข่าวกระทันหัน ข้าจะขอพักการร่วมฝึกคู่สักหลายวัน”

 

แม้ว่าบรรดาหญิงสาวจะไม่พอใจกับข่าวที่ประกาศออกมา พวกเธอก็ไม่ได้กล่าวโทษซูหยางที่ต้องการพัก ในเมื่อเขาได้ร่วมฝึกคู่มาเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ได้พัก

 

“ท่านมิต้องขออภัยในเรื่องนั้น ศิษย์พี่ชาย ถ้าจะมีอะไร พวกเราควรจะเป็นคนที่ขออภัยท่านที่มาใช้เวลาส่วนใหญ่ของท่าน…”

 

“เพื่อนศิษย์พูดถูก พักผ่อนเท่าที่ท่านต้องการและพวกเราจะรอคอยท่านกลับมาอย่างอดทน”

 

“ขอบคุณที่เข้าใจ” ซูหยางกล่าว

 

ครั้นเมื่อศิษย์หญิงกระจัดกระจายไปจากที่พักของเขาแล้ว ซูหยางก็ขังตัวเองอยู่ในที่พักเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ก้าวออกไปข้างนอกแม้สักก้าว

 

“นายท่าน ท่านกำลังทำอะไร” เซียวลี่กลับมาจากการเที่ยวเล่นในวันหนึ่งและได้ถามเขา

 

“ข้ากำลังปลูกต้นไม้” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ

 

ที่วางอยู่ตรงหน้าซูหยางเป็นกระถางเปล่าบรรจุดิน และสำหรับสองสามวันที่ผ่านมา เขาได้เลี้ยงดูบางสิ่งที่ฝังอยู่ภายในดินด้วยปราณไร้ลักษณ์โดยการใช้วิชาเฉพาะ

 

“หืมมมม…”

 

เซียวลี่ยืนอยู่ตรงนั้นและมองดูเขาทำงาน อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขากำลังทำแม้แต่น้อย กลับกันเธอจ้องมองดูใบหน้าหล่อเหลาของซูหยางขณะที่เขากำลังทำงาน

 

“นายท่านกลิ่นประหลาดที่มาจากตัวท่านนั่นคืออะไร กลิ่นมันคล้ายกับมนุษย์ผู้หญิง”

 

“นั่นคือปราณหยิน” เขาตอบกลับอย่างใจเย็น

 

“ปราณหยิน นั่นคืออะไร”

 

“ผู้หญิงปลดปล่อยปราณชนิดนี้เมื่อพวกเธอมีความสุขถึงสุดยอด”

 

“เซียวลี่ยังคงไม่เข้าใจ…”

 

“ไม่เป็นไรถ้าเจ้ายังไม่เข้าใจในตอนนี้”

 

ซูหยางไม่รู้สึกว่าต้องอธิบายความหมายของ “กำหนัด” ให้กับจอมแมวภูติ ยิ่งกับผู้ที่ยังมีสภาพจิตใจเป็นเด็ก

 

“อย่างไรก็ตามเจ้าเล่นเสร็จแล้วรึ ข้าจักต้องอยู่ที่นี่อีกหลายเดือน ดังนั้นเจ้าสามารถเล่นต่อได้อีกเล็กน้อยถ้าเจ้าต้องการ”

 

เซียวลี่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “เซียวลี่เล่นพอแล้ว”

 

ซูหยางเลิกคิ้ว

 

“หรือว่าเธอได้เดินทางรอบโลกแล้ว” เขาสงสัย

 

เนื่องจากรู้ว่าความเร็วระดับเทพของจอมแมวภูติยังทำให้เทพกลัว นั่นไม่เป็นเรื่องแปลกถ้าเธอได้เห็นทุกเมืองในโลกในเวลาไม่กี่วันนี้เรียบร้อยแล้ว และไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียวแต่สองครั้ง

 

“เซียวลี่จะอยู่ที่นี่กับนายท่าน” เธอกล่าวหลังจากนั้นไม่นาน

 

“นั่นจักน่าเบื่อมากถ้าเจ้าอยู่ที่นี่กับข้า เจ้ารู้ไหม”

 

“เซียวลี่ไม่เป็นไร” เธอกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ

 

หลังจากที่ใช้เวลาหลายร้อยปีอย่างโดดเดี่ยวในพื้นที่รกร้างดังเช่นสุสานเซียนที่มีเธอเพียงคนเดียวที่เป็นสิ่งมีชีวิต เซียวลี่ได้มีภูมิต้านทานต่อความเบื่อ ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์อสูรไม่สนใจหากต้องเบื่อตามธรรมชาติอยู่แล้ว ตามจริงเพียงแค่อยู่ข้างซูหยางก็ยิ่งกว่าพอเพียงสำหรับเธอสำหรับความรื่นเริง

 

“ถ้าเจ้าพูดอย่างนั้น”

 

ดังนั้นในเวลาสองสามวันหลังจากนั้น ซูหยางก็มุ่งเน้นไปกับการปลูกพืชประหลาดในขณะที่เซียวลี่ได้มองเขาดูจากด้านข้างราวกับตุ๊กตา

 

ในเวลานั้น ฟางซีหลานได้อยู่แต่ในบ้านของเธอในเวลาช่วงนี้ อดทนรอซูหยางให้มาพบเธอ

 

“ศิษย์คนนั้นไปไหนแล้ว ข้าได้รอเขามาเป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้” ฟางซีหลานบ่นขณะที่เธอสางขนให้กับเซียวไป่

 

ก๊อกก๊อก

 

ทันใดนั้นเองประตูที่พักของเธอก็มีเสียงเคาะ

 

“หรือว่าจะเป็นเขา สุดท้ายเขาก็มา” ฟางซีหลานรีบไปเปิดประตู

 

อย่างไรก็ตามคนที่เธอพบที่ประตูไม่ใช่ซูหยาง แต่เป็นศิษย์หลักคนอื่นที่ชื่อ ยวินหนานเตียน

 

“ศิษย์พี่ชายยวิน ท่านมาทำอะไรที่นี่” เธอถามเขาด้วยสีหน้าไม่ยินดี

 

“ข้ามาที่นี่เพื่อดูว่าศิษย์น้องหญิงสนใจร่วมฝึกกับข้าหรือไม่” ยวินหนานเตียนถามด้วยรอยยิ้มน่าหลงไหลบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา

 

“เสียใจ ตอนนี้ข้ายุ่ง” ฟางซีหลานปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตามยวินหนานเตียนไม่ได้จากไปในทันทีและยังคงเตร่อยู่ กระทั่งเสนอให้ความช่วยเหลือเธอ

 

“เจ้ากำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่ ในเมื่อข้ามิมีอะไรทำในวันนี้ ข้าสามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้นะ”

 

“มิมีอะไรที่ท่านสามารถ—”

 

“เจ้าคือฟางซีหลานใช่ไหม”

 

ทันใดนั้น เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้นมาด้านหลังยวินหนานเตียน

 

“ใคร” ยวินหนานเตียนเกือบฉี่ราดกางเกงในเมื่อซูหยางพลันปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังของเขาราวกับภูติผี เขารีบกระโดดหนีราวกับแมวที่ถูกเหยียบหางโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ทำไมเขาถึงไม่ทันสังเกตเห็นอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

 

ฟางซีหลานเพ่งสายตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของซูหยาง “นี่คือซูหยางรึ” เธอพูดในใจ