ตอนที่ 553 มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 553 มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน
เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของซูฉิงมาก ตอนแรกคิดว่าตนกับคนที่ดูแปลกอย่างเฟิงรั่วเหยียนจะไม่เจอกันอีก แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้

ซูฉิงไม่ได้รีบตอบกลับคนปลายสาย แต่หันไปอ่านข้อมูลที่ผู้ช่วยยื่นมาให้ และก็มีแผนอยู่ในใจแล้ว

ถ้าหาดตนเดาไม่ผิดละก็ อีกไม่กี่วันตระกูลเฟิงจะต้องประกาศเปิดตัวคุณชายรองและเขาอยากจะทำอะไร………..

เริ่มสืบจากห้าวฮ่าวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ก็สืบได้เรื่องขนาดนี้แล้ว

ซูฉิงเดาว่าเฟิงรั่วเหยียนคนนี้คงจะมาแก้แค้นเธอกับฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่ธรรมดาแน่

“ทำไมหรอ ผมทำให้เซอร์ไพรส์จนพูดไม่ออกเลยหรอ” ซูฉิงที่นิ่งเงียบไม่พูดจนทำให้คนที่อยู่ปลายสายพูดเสียดสีเหน็บแนม

ซูฉิงยิ้มออกมาพร้อมกับพูด:”เซอร์ไพรส์จริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงคุณเฟิงเร็วขนาดนี้”

“หรือว่าพอได้ยินเสียงก็จบเรื่องแล้ว คุณซูไม่อยากจะเจอผมสักหน่อยหรอ “เฟิงรั่วเหยียนพูดเสียงเศร้า แต่ซูฉิงพอจะนึกออกว่าตอนนี้เขาแสดงสีหน้ายังไง

จะต้องเต็มไปด้วยสีหน้าเหน็บแนมแน่

ซูฉิงที่พอได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเบาๆ ออกมา:”เรื่องธุรกิจฉันคุยกับประธานเฉิน ถ้าหากไปพบคุณเฟิงละก็ ฉันคิดว่าไม่เจอเป็นหรอก”

ซูฉิงที่พอพูดแล้วหยุดเว้นว่าง “ช่วยฝากบอกประธานเฉินหน่อยนะว่า ถ้าหากเขายอมจะร่วมมือกับต่อ ฉันยินดี…….”

แต่ทว่าซูฉิงยังพูดไม่ทันตบเฟิงรั่วเหยียนที่อยู่ปลายสายก็พูดแทรกขึ้น

“คุณซู มีเรื่องอะไรก็มาคุยกันต่อหน้าสิ ผมไม่มีอารมณ์ที่จะมาคุยกับพวกคุณผ่านโทรศัพท์หรอกนะ แต่คุณซู ผมเคยบอกแล้วว่าที่ดินผืนนั้นจะต้องเป็นของผม ถ้าหากสตาร์เอ็นเตอร์เทนไม่มีปัญญาละก็ถอยออกมาซะ”

เฟิงรั่วเหยียนที่พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ และไม่รอให้ซูฉิงตั้งสติได้ก็ชิงตัดสายไปก่อน เลขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นอย่างนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจ

เธอทำงานกับซูฉิงมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นซูฉิงถูกกระทำอย่างนี้เลย

ส่วนซูฉิงนั้นกลับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เธอก้มมองโทรศัพท์แล้วก็ได้ยินเสียงเตือนติ๊ดดังขึ้นมา

ประธานเฉินส่งเวลาและสถานที่นัดเจอกันมาให้ ซูฉิงแววตาไหวระริกเล็กน้อย แล้วหันไปสั่งคนขับรถ”ไปตามที่อยู่นี้ค่ะ”

สถานที่นัดหมายคือร้านอาหารญี่ปุ่น ดูท่าแล้วน่าจะถูกเหมาทั้งร้านแล้ว ซูฉิงที่พอเดินมาถึงประตูก็ถูกพนักงานหน้าร้านเชิญเข้าไปในห้องส่วนตัว

“เชิญค่ะ”

พนักงานโค้งคำนับเปิดประตูให้ ไอเย็นจากข้างในก็แผ่ออกมา ซูฉิงมองไปก็เห็นว่าทั้งห้องถูกประดับด้วยน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งที่กระจายอยู่เต็มห้อง

ภายในห้องมีประธานเฉินและยังมีเฟิงรั่วเหยียนนั่งอยู่ภายในห้อง

เฟิงรั่วเหยียนที่ถือมีดอยู่ ค่อยๆ หั่นปลายแซลมอนอย่างระมัดระวัง เหมือนกับกำลังทำผลงานศิลปะก็ไม่ปาน เนื้อปลาที่ใสราวกับคริสตอลวางคลี่อยู่บนก้อนน้ำแข็ง

ประธานเฉินที่นั่งก้มหน้าตัวเกร็งอยู่ข้างๆ ทำให้ซูฉิงไม่เห็นสีหน้าของเขา

“คุณมาแล้ว” เฟิงรั่วเหยียนลุกขึ้นต้อนรับพร้อมกับยิ้มให้ แต่ก็ไม่สามารถบดบังความร้ายกาจในตัวของเขาได้

ซูฉิงที่มีท่าทีนิ่งขรึมมาก มองหาที่นั่งให้กับตัวเองแล้วไปนั่งลงตรงข้ามเฟิงรั่วเหยียน

เธาไม่รู้ว่าดึงเอาก้างปลาออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่เนื้อปลา

“สวยมั้ย”

เฟิงรั่วเหยียนหันไปทางประธานเฉินแล้วถามเสียงเบา

ประธานเฉินที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับสั่น ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ซูฉิงถึงได้สังเกตว่าหน้าเขาเต็มไปด้วยน้ำ

แม้ภายในห้องนี้จะเป็นห้องเย็น

“สวยครับ สวย ฝีมือการใช้มีดของคุณชายดีมากเลยครับ”ประธานเฉินพูด แต่ทว่าพอเขาพูดจบ เฟิงรั่วเหยียนที่ยิ้มอยู่ก็หุบยิ้มลง

เขาโยนก้างปลาที่อยู่ในมือไปตรงหน้าประธานเฉิน แล้วพูดเสียงเย็นชา”ในเมื่อสวย งั้นคุณก็กินสิ”

ประธานเฉินถึงกับตัวแข็งทื่อ เหงื่อไหลลงมาจนถึงม่านตาแล้วก็ไม่กล้าขยับตัว

ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็คิ้วขมวด แต่ก็ไม่แสดงท่าทีอะไร

เฟิงรั่วเหยียนหันหน้ามาทางซูฉิง”เธอคิดว่าสวยมั้ย”

“ฉันมาคุยเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่มาดูการแสดง”ซูฉิงเอ่ยเสียงเรียบ เหมือนกับว่าบรรยากาศแปลกๆ ภายในห้องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอแต่อย่างไร เธอมองไปทางประธานเฉินแล้วพูดไปตามตรง

“ประธานเฉิน ตอนที่เราคุณกันเรื่องเงื่อนไขครั้งที่แล้ว ถ้าหากคุณยินดีขายสวนเทคโนโลยีให้กับฉัน พวกเราก็จะเซ็นสัญญาความร่วมมือทันที”

ประธานเฉินตาลอย เขาเหมือนจะรู้ตัวหันไปทางเฟิงรั่วเหยียน:”เพียงแต่ว่า……..”

“เพียงแต่ว่าที่ดินผืนนั้นเป็นของผม ถ้าหากคุณซูฉิงต้องการ จะต้องมาคุยกับผม”เฟิงรั่วเหยียนยิ้มพูด

ซูฉิงเลิกคิ้วไปเป็นปม เรื่องนี้ไม่ง่ายซะแล้ว ตอนแรกซูฉิงคิดว่าเฟิงรั่งเหยียน อยากจะมาทำธุรกิจแข่งกับตน คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นอย่างนี้ไปได้

ซูฉิงคิดว่าตนถูกล้อเล่นกัดริมฝีปากแล้วลุกขึ้น:

“ยุ่งยากเกินไปแล้ว ที่ดินผืนนั้นฉันไม่ต้องการแล้ว”

ซูฉิงที่พูดเสร็จก็หันหลังจะเดินออกไปแต่ก็ได้ยินเสียงเฟิงรั่วเหยียนดังมาตามหลัง:”คุณซู คุณคิดดีแล้วหรอ”

ซูฉิงหยุนเฉิง ที่ดินผืนนั้นเป็นทำเลที่ดี เธอลงทุนลงแรงไปเยอะกว่าจะคุยตกลงกันได้ บอกว่าไม่เอาเลยก็อาจจะเป็นไปไม่ได้

เพียงแต่ว่าซูฉิงไม่ชอบถูกคนชักจูง

และตอนนี้ซูฉิงก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าเฟิงรั่วเหยียน อยากเจอตน อยากจะบอกกับตนว่าเขากลับมาแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ

“ก็แค่ที่ดินผืนเดียว ไม่เอาจะมีผลกระทบอะไรหรอ”

ซูฉิงหันไปยิ้ม”คุณชายเฟิงอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันจะคอยดูนะ”

ซูฉิงที่พอพูดจบก็เดินออกไปจากห้องและก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเฟิงรั่วเหยียนมาตามหลัง

ตอนที่ซูฉิงเดินออกมาจากร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วก็โมโหจนตัวสั่น เธอก้มมองดูเวลา ตอนแรกวางแผนมาดีแล้วว่าหลังจากคุยตกลงความร่วมมือกับประธานเฉินเสร็จแล้วจะไปกินข้าวกับฮ่อหยุนเฉิงแต่ตอนนี้เสียเวลาไปตั้งหลายชั่วโมงโดยไม่ได้อะไรเลย

ซูฉิงที่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจกลับไปที่บริษัทสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์

เพราะถ้ามาคิดดีๆ แล้วอีกไม่นานเธอจะมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน

และสิ่งที่ทำให้ซูฉิงคิดไม่ถึงก็คือก็ไม่ใช่มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว

“แจ้งผู้จัดการทุกแผนก ทำรายงานสรุปแผนการทำงานไตรมาสมาให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ประชุมรายงาน

ซูฉิงมองดูทีเซอร์ละครที่ผู้กำกับส่งมาให้ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันก็รับเอกสารข้อมูลที่เลขาส่งมาให้

เลขาตอบรับทราบแล้วเดินออกไป แต่เพียงไม่นานก็เดินกลับเข้ามาใหม่

“ประธานซูครับ นี่กาแฟที่คุณสั่งครับ”

เสียงผู้ชายที่ดังอยู่บนหัว มือของซูฉิงก็หยุดชะงัก ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นใบหน้าหล่อเหล่าอยู่ตรงหน้าของตน