ตอนที่ 440

Black Tech Internet Cafe System

ตอนที่ 440 : ตกใจอะไร!?

 

“ดาบนั่น.. ผีทาสดาบตายหรอ?”

 

ผู้ฝึกฝนหลายคนที่เคยรุมล้อมจ้องจะฉกสมบัติทางจิตวิญญาณของฟางฉีเริ่มถอยห่างจากเขาด้วยความหวาดกลัว หลายคนทําหน้าไม่สู้ดีเพนสะก่อนหน้านี้ดูถูกเขาไว้ซะเยอะตอนนี้จึงต้องถอยหนีเพราะได้เห็นถึงความน่ากลัวที่ฟางฉีมี

 

หลายคนที่นี่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากดาบได้แม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากเทคนิคของทาสดสบนั้นล้ําหน้าไปกว่าเทคนิคของพวกเขามาก

 

สําหรับพวกเขาแล้วมันคือเครื่องจักรสงครามดีๆ นี่เอง

 

พวกเขาจินตนาการไม่ออกจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากฝันร้ายอันน่าสยดสยองแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวพวกเขา พวกเขาต้องไม่มีทางจัดการกับมันได้แน่ๆ

 

แต่เมื่อครู่นี้สิ่งที่เขาได้เห็นคือทาสดาบสองตัวคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มและฆ่าตัวตายตามคําสั่งของเขา!

 

เหตุการณ์พลิกผันนี้เกิดขึ้นเกินจิตนาการ พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเทพเจ้า อคติและคําดูถูกที่เคยอยู่ในใจของพวกเขาถูกลบเลื่อนหายไป

 

หรือบางทีนี่อาจจะมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทําแบบนี้ได้

 

“เป็นไปไม่ได้! เบี้ยไปไม่ได้!” สมาชิกในตระกูลหนานกงที่อยู่ตรงนั้นโวยวายอย่างสติแตกทาสดาบของตระกูลหนานกงนั้นไม่มีใครเทียบเทียมได้ แต่พวกเขาเพิ่งคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มนิรนามที่มาจากแห่งหนใดไม่มีใครรู้

 

ภาพตรงหน้าที่แสนหน้ากลัวของทาสดสบตอนนี้มันพังทลายลงเป็นที่เรียบร้อย

 

“นั่นอะไร!? เทคนิคที่เขาใช้มันเรียกว่าอะไร?” สมาชิกในครอบครัวหนานกงถามด้วยเสียงตกใจ

 

“มันคือดาบพระเจ้า” ฟางฉียังคงกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อหาถังขนะ เขาไม่อยากสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เขากว่าวต่อว่า “มันเป็นดาบของพระเจ้าที่อยู่ในอาณาจักรดาบสวรรค์”

 

หลังจากที่โดนโจมตีจนหมดความอดทนเขาจึงจุดบุหรีเพื่อกระตุ้นศักยภาพร่างกายและเรียกสกิลที่เขาได้เรียรู้จากอาณาจักรสวรรค์ออกมาใช้ การรวมอาณาจักรดาบสวรรค์เข้ากับดาบภูเขาชูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เมื่อรวมแล้วก็จะมีผลเป็นดาบที่ทรงพลังที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจว่าทําไมเขาถึงควบคุมทาสผีสองตัวได้

 

“ดาบสวรรค์? ดาบพระเจ้า?” เหล่าผู้ฝึกฝนทวนคํา วันนี้พวกเขาได้เห็นเทคนิคดา บทรงพลังและไม่ได้เคยยินชื่อจากที่ไหนมาก่อนมันน่าทิ้งที่ทําให้ทาสดาบจอมจํานนได้

 

ฟางฉีไล่ตบไหล่สมาชิกครอบครัวหนานกง กลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยออกมา ชายหนุ่มคนนี้นี่ราดขาเขาทรุดลงด้วยความกลัว

 

ฟางฉียืนนิ่ง นี่เขาน่ากลัวมากเลยหรอ?

 

ผู้บังคับบัญชาชงผู้จับตามองและเคยดูแคลนเขาก่อนหน้านี้เดินเข้ามาและเอ่ยถามด้วยควา เคารพ “ข้าแปลกใจกับสิ่งที่ได้เห็นทักษาะของท่านไม่มีใครเทียบเทียมได้ ช่วยบอกเราหน่อยได้มั้ว่าใครเป็นอาจารย์ของท่าน”

 

“อาจารย์?” ฟางฉีขมวดคิ้ว “คนที่สอนทักษาะดาบสวรรค์ให้ข้าน่ะหรอ เขาไม่ มรชื่อหรอกส่วนดาบพระเจ้า .. ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้”

 

“.” ซงวูนิ่งไป เขากําลังประมวลผลกับเขาว่าทุกคนสามารถเรียนรู้ได้!?

 

ฟางเอ่ย “นี่”

 

ซงวดูผิดหวังเล็กน้อย “เป็นไปได้มั้ยว่าท่านผู้อาวุโสที่สอนทักษะไม่อยากพบเรา”

 

“ หรือว่าพวกเราไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพบเขา” ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมเอ่ย

 

“พวกท่านสามารถเห็นพวกมันได้แต่จะต้องมีของแลกเปลี่ยนอย่างคริสตัลสองเม็ดต่อชั่วโมงฟางฉีกล่าว

 

“หืม?”

 

งั้นหรอ?

 

ไม่ใช่แค่ผู้บังคับบัญชาชงที่อึ้ง คนอื่นก็เช่นกันพวกเขาสับสนเมื่อได้ยินเช่นนี้

 

ซงวูเงียบไปครู่หนี้ “เช่นนั้น โปรดพาพวกเราไปหาเขาที่”

 

ในไม่ช้าหลายสิบคนก็เดินตามกันเข้าไปในคาเฟอินเตอร์เน็ตด้วยความตื่นเต้นอย่างใจจดใจจ่อ

 

ณ คาเฟ่ แม้ว่าพวกเขาจะตื่นเต้นแต่อีกใจหนึ่งพวกเขาก็ประหลาดใจไม่น้อย เพราะบางอย่างที่นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนไหนจะคอมพิวเตอร์ บะหมีในมือที่คนในร้านถือและรวมไปถึงเจ้ากวางที่พยายามทําตัวที่จะเป็นมนุษย์

 

กวางสีขาวตัวใหญ่นั่งอยู่หน้าคอมใกล้ทางเข้า มันตะโกนใส่หน้าจอพร้อมกับกระดูกโค้กในมือโดยใช้สองกีบจับขวด

 

กระดานดําเล็กๆ เขียนกฏข้อบังคับและการใช้งาน 2 คริสตัล/ชม

 

ซงวชี้ไปที่กระดานด้วยความสงสัย “เซียนกระบี่พิชิตมาร3 นั่นอะไร?”

 

ไหนละปรมาจารย์!?

 

เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่เห็นวี่แววหรือผู้อาวุโสคนใด

 

หลินเอ๋อดูงุนงงและสงสัยว่าหัวหน้าทํายังไงถึงได้กลับมาพร้อมลูกค้ามากมาย เธอเดินไปถามลูกค้าทันที “ท่านต้องการให้ช่วยอะไรมั้ย?”

 

“เกมหลักของร้านเราคือเซียนกระบี่พิชิตมารสาม พวกท่านต้องสัมผัสกับความน่ามหัศ จรรย์ในครั้งนี้”หลี่ว์หยาแสดงท่าทีที่ตื่นเต้นชวนให้พวกเขาร่วมเล่น

 

ซงวพูดด้วยใบหน้าตั้งใจว่า “ข้าต้องการพบปรมาจารย์ที่สอนเทคนิคดาบพระเจ้า”

 

“ท่านต้องเล่นเกมเซียนกรับี่พิชิตมารสามก่อนในนั้นไม่ได้มีแค่เทคนิคดาบพระเจ้าเท่านั้นแต่ยังมรคลื่นพลัง เกราะป้องกันพิเศษ ”

 

ด้วยความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นลูกค้าจํานวนมากจึงตั้งหน้าตั้งตาฟังอย่างตั้งใจ หลี่ปูหยาจึงเริ่มอธิบายเรื่องราวของเกมอย่างละเอียด

 

ผู้ที่นั่งฟังทําหน้างงไปตามๆ กัน

 

ซึ่งวชะงักไปครู่หนึ่งและมองไปที่ชายวัยกลางคน “ท่านผู้อาวุโสยู่ ”

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นผู้อาวุโสของสํานักสวรรค์เขาเป็นผู้รับผิดชอบที่พักในไต้หวัง

 

เขาพยักหน้า 

 

พวกเขานั่งฟังสักพักก็ได้ทยอยกันไปจับจองที่นั่งและเข้าเกมตามคําแนะนําของฟางฉี

 

หลายคนที่ยังไม่แน่นอนว่าจะเอายังไงก็ยืนเฝ้ามองเกาะขอบเก้าอี้ด้านหลัง

 

“นี่อะไร!?” ผู้อาวุโสยู่กระโดดจากที่นั่งและร้องโวยวาย

 

“นี่คืออาณาจักรอมตะหรอ?” ซงวตื่นเต้น

 

“เหล่าผู้เป็นอมตะกําลังต่อสู้! วิ่งเร็ว!”

 

ด้วยความกลัวทั้งคู่ทําชุดหูฟังอาตก!

 

“มันน่ากลัวมาก” พวกเขาแสดงที่ท่าอาการหวาดกลัว

 

“มันมี อะไรในนั้น”

 

ผู้อาวุโสยู่เหนือกตก “โชคดีนะที่ข้าวิ่งเร็วมาก มันน่ากลัวมาก!”

 

“ข้าภูมิใจที่วิ่งออกมาจากที่นั่นได้”

 

“ข้าเห็นปีศาจ โชคดีที่มันไม่เห็นข้า” ผู้อาวุโสยู่พูดด้วยเสียงหวาดกลัว

 

พวกเขาหันกลับมาเจอคนข้างหลังที่กําลังตกตะลึงเช่นกัน

 

“ข้าบอกแล้วไงว่ามันคือเกม! พวกท่านทุกคนเป็นแบบนี้กันหมดเลยหรอเวลาเล่นเกม?” ฟางฉีตะโกนถาม