ตอนที่ 1005 จับปลา

Elixir Supplier

1005 จับปลา

“ผมไม่อยากฟังเรื่องของเขาผมแค่อยากรู้ว่าจะรักษาอาการของผมได้ยังไงเท่านั้น”กั๋วเจิ้งเหอโบกมือตัดบทเดี่ยวจ้าวชิ่ง

“ร่างกายของคุณมันเกินเยียวยาแล้ว”เมี่ยวจ้าวชิ่งพูด“ขอโทษด้วย ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ”ถั่วเจิ้งเหอเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมาว่า“ที่บ้านของคุณยังมีครอบครัวและลูกหลานอยู่ใช่ไหม?”

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”เมี่ยวจ้าวชิ่งรีบเงยหน้าขึ้นมองเขา คําพูดเหล่านั้นทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

“รักษาผมซะหรือพวกคุณคนใดคนหนึ่งก็ลงหลุมไปพร้อมกับผม คุณมีเวลาแค่หนึ่งวันลงมือได้แล้ว”

ถั่วเจิ้งเหอไอรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่สนใจชายชราที่ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ชายชรา

ไม่ต้องการอะไรนอกจากอยากซัดชายหนุ่มที่กล้าข่มขู่เขาแบบนี้ เขารีบเรียกเดี่ยวชิงเฟิงมาและบอกเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“อะไรนะ? ผู้นําถูกฆ่า?” เขาตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดในความคิดของเขาผู้นําเป็นคนที่เก่งกาจมากเขาสงสัยว่ายอดฝีมือที่ไหนที่สามารถจัดการกับผู้นําของพวกเขาได้

“แล้วถั่วเจิ้งเหอเป็นใครกันแน่” ชายชราถาม

“เขาเป็นคนที่มีภูมิหลังใหญ่โตเป็นสมาชิกของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ลุงก็น่าจะรู้ว่าสถานการณ์ข้างนอกนั้นต่างจากที่นี่มาก”

“แล้วที่เขาขู่เป็นเรื่องจริงรึเปล่า?” ชายชราถาม “ผมกลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง”

“เฮ้อ แล้วเราจะทํายังไงกันดีล่ะ?” ชายชรารู้สึกกระวนกระวาย เขาตรวจร่างกายของกั๋วเจิ้งเหอดูแล้วและรู้ว่ามันร้ายแรงมาก มันเกินกว่าที่จะรักษาได้แล้ว

“ตอนนี้ เขาป่วยหนักมากและมันเกินกําลังของฉัน ถ้าเมี่ยวซีเหอยังอยู่ เขาก็อาจจะพอทําอะไรได้บ้าง” ชายชราเอ่ยชื่อของเมี่ยวซีเหอขึ้นมา หากเมี้ยวซีเหอยังคงมีชีวิตอยู่เขาไม่มีทางกล้าพูดแบบนี้เด็ดขาด

“ลุงแน่ใจแล้วเหรอ ว่าผู้นําตายแล้วจริงๆ?”เมี่ยวชิงเฟิงถาม

“ฉันแน่ใจ” ชายชราพูด “นอกจากรูปถ่ายที่ฉันเห็นแล้ว ที่กั๋วเจิ้งเหอป่วยหนักก็เป็นเพราะเขาดื่มเลือดของเมี่ยวซีเหอเข้าไป”
“เขาท่าอะไรนะ?” เคี่ยวชิงเฟิงตกตะลึง

“เขาดื่มเลือดของผู้นําเข้าไปอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่เขาน่าจะถูกพิษกู่เข้าและหาหนทางรักษาไม่ได้เขาก็เลยทําแบบนั้นลงไป”ชายชราพูดด้วยความกังวล“แต่เลือดของเมี่ยวซีเหอมีทั้งส่วนที่เป็นยาและพิษตอนนี้ร่างกายของเขาคงแทบจะรับไม่ไหวแล้ว”

“จริงสิ กล้วยไม้สีเลือดยังไงล่ะ!”ชายชราดวงตาเป็นประกาย

“มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลก็ได้”เมี่ยวชิงเฟิงพูด เขารู้ว่าเมี่ยวซีเหอกําลังค้นคว้าเกี่ยวกับกล้วยไม้สีเลือดอยู่

“ถึงยังไงก็ต้องลองดู” ชายชราพูด

เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสที่มีตําแหน่งสูงสุดในหุบเขา เพราะความอาวุโสและเมี่ยวซีเหอไม่อยู่แล้วทําให้คําพูดของเขามีอํานาจมากขึ้น
กล้วยไม้สีเลือดถูกนําออกมาใช้ในทันที

“นี่คืออะไร?” กั๊วเจิ้งเหอได้รับรู้ข้อมูลวิธีการรักษาที่อาจเป็นไปได้ และต้องตกใจเมื่อเห็นสีของดอกกล้วยไม้

“กล้วยไม้สีเลือดเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษในตํานานของเขตเดี่ยว” ชายชราพูด “มันสามารถรักษาได้หลายโรคช่วยยืดอายุขัยและไม่แก่เฒ่า”
ไป

“มันวิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม “แล้วจะใช้งานมันได้ยังไง?”

“แค่กินเข้าไปก็พอ”

“ดี ดีมาก” กั๋วเจิ้งเหอหยิบขึ้นมาหนึ่งดอกและใส่เข้าไปในปาก เขาเคี้ยวเล็กน้อยและกลืนลงมันมีกลิ่นและรสชาติที่หอมหวาน หลังจากกินไปได้ครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกอุ่นในท้องและทําให้เขารู้สึกสบายตัวขึ้น

“ดี” เขาหยิบมากินอีก 10 ดอก ร่างกายของเขารู้สึกอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของมันจะให้ผลดี

“ดูเหมือนว่ามันจะได้ผล แต่ก็ต้องรอดูอีกที” เขาพูด

ภายในบ้านไม้ไผ่หลังหนึ่งในหุบเขา

“อะไรนะ? พี่จะบอกว่าเขาฆ่าผู้นําอย่างนั้นเหรอ?”จ้าวหยิงหาวรู้สึกโมโหมากเมื่อเดี่ยวชิงเฟิงมาบอกกับเขาว่าเมี่ยวซีเหอตายแล้ว ยิ่งได้รู้ว่ากั๋วเจิ้งเหอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของผู้นําเขา

ก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม

“ผมจะแก้แค้นแทนผู้นํา”เขาพูด

“นายอย่าเพิ่งใจร้อนสิ!”เมี่ยวชิงเฟิงดึงตัวเขาเอาไว้

“ถ้านายไปฆ่าเขาแล้วมันได้อะไรขึ้นมา?นายอยากกลายเป็นผู้ต้องหาที่ต้องคอยหลบหนีการ

ตามล่าเหรอ?นายรู้รึเปล่าว่าเขาเป็นใครหรืออํานาจที่อยู่เบื้องหลังเขายิ่งใหญ่แค่ไหน?”

“แล้วเราจะทํายังไง?หรือทําได้แค่ลืมเรื่องนี้ไปซะ?”จ้าวหยิงหาวถามกลับ

“เราต้องทําอะไรสักอย่างอยู่แล้ว”เมี่ยวชิงเฟิงใช้ความคิด

“ฉันคิดออกแล้ว เราจะยืมมือคนอื่นแทน”

“คนอื่น? ใครที่จะช่วยได้กัน?”จ้าวหยิงหาวถามด้วยความงุนงง

“นายไม่รู้จักหรอกเรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่งจ๋าเอาไว้ว่าอย่าเพิ่งทําอะไรหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด”เมี่ยวชิงเฟิงหยิบของบางอย่างและไปหาเมี่ยวจ้าวชิ่ง

“ลุง นี่เป็นของที่ผู้นําวางใจให้ผมเก็บรักษาเอาไว้ก่อนที่เขาไป ตอนนี้ผู้นําไม่อยู่แล้วผมคิดว่าให้ลุงเก็บไว้น่าจะดีที่สุด”เมี่ยวชิงเฟิงส่งหนังสือเล่มหนึ่งให้กับชายชรา

“นี่คือตําราแพทย์ของเมี่ยวซีเหอเหรอ?”

“ใช่ เขาเขียนข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องยาและพิษลงไปในนี้ทั้งหมด” เมี่ยวชิงเฟิงพูด

“ดี ดี ชิงเฟิง ฉันมองนายไม่ผิดจริงๆ!”ชายชราเปิดดูแต่ละหน้าด้วยความพอใจ

“ทําไมถึงมีแค่ครึ่งเดียวล่ะ?”

“เรื่องนั้นผมไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผู้นําทิ้งไว้ที่ผม”

“ช่างเถอะ” ชายชราพูด

“นายไปทํางานของนายเถอะ”

“ครับ” เดี่ยวชิงเฟิงยิ้มและจากไป

ชายชราเปิดหนังสือและเริ่มอ่านแต่ละหน้า เขารู้ว่ามันคือสมบัติล้ําค่า ถึงเมี่ยวซีเหอจะใช้วิธีการที่รุนแรงเกินเหตุ ทําให้หลายๆคนไม่กล้ามีปากเสียงและทําได้แค่เก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต่างก็ยอมรับผู้นําคนนี้ของพวกเขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงมากเมื่อเป็นเรื่องของยาและพิษแล้วเดี๋ยวซีเหอนั้นมีพรสวรรค์จนเหมือนกับเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะเขา

สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างได้อย่างง่ายดายและการค้นคว้าของเขายังมีรายละเอียดและเจาะลึก

ได้ดีกว่าคนรุ่นเดียวกันเขาแทบไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องการบริหารจัดการภายในหุบเขาเลยเขาใช้

เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้นคว้ามากกว่าและทั้งหมดนั้นก็อยู่ในหนังสือที่ชายชราถืออยู่ในตอนนี้เขาเปิดไปสองสามหน้าแล้วก็ต้องหยุดมือด้วยความตกตะลึงเขาอ่านเนื้อหาที่ถูกเขียนลงไปในหน้านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เขาช่างกล้า!” ชายชราอุทาน

กั๋วเจิ้งเหอมาอยู่ที่หุบเขาได้สามวันแล้ว แต่หลังจากผ่านมาได้สักพักเขาก็พบว่ากล้วยไม้สีเลือดมีประสิทธิภาพในการรักษาลดน้อยลง ดอกกล้วยไม้ทําได้เพียงกดอาการป่วยของเขาไว้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นเขายังคงไออย่างต่อเนื่องในเวลานี้เขายังไอออกมาเป็นเลือดด้วยเขาจึงเรียกหาเมี่ยวจ้าวชิ่งอีกครั้ง

“กล้วยไม้สีเลือดไม่ได้ผลอย่างนั้นเหรอ?” ชายชราตกใจที่ได้ยินแบบนั้น

กล้วยไม้สีเลือดเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษของเขตเดี่ยว แต่มันก็ยังห่างไกลจากสมุนไพรวิเศษชนิดอื่นอยู่มากมันเป็นสมุนไพรวิเศษชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์ก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล

“คุณต้องคิดหาวิธีอื่น” กั๋วเจิ้งเหอพูด“รีบหน่อยล่ะ ผมคงจะอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้

“อาจมีอีกทางหนึ่ง มันเป็นข้อมูลที่ฉันได้อ่านมาจากในตําราแพทย์ของเมี่ยวซีเหอ”
“จริงเหรอ? พูดมาสิ”

“เรามีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ข้างหุบเขาที่มีชื่อว่า ทะเลสาบอันเชินและข้างในนั้นก็มีปลาเทพอยู่”

“ปลาเทพ?”

“ใช่ จากบันทึกของหุบเขาปลาตัวนั้นมีอายุมากกว่า 300 ปี” “ปลาที่มีอายุมากกว่า 300 ปีคิดจะจับมันขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ อดีตผู้นําเคยศึกษาเกี่ยวกับปลาตัวนี้เดี๋ยวซีเหอก็เหมือนกัน ความจริงแล้วก่อนหน้านั้นก็เคยมีคนที่ศึกษาเกี่ยวกับปลาตัวนี้ปลาใช้ชีวิตอยู่ภายในทะเลสาบและในอดีตบรรพบุรุษของพวกเราก็ได้พยายามที่จะจับมันขึ้นมาพวกเขาใช้พิษเท่าที่จะหามาได้แต่ความพยายามของพวกเขา

กลับสูญเปล่าพวกเขาจึงทําได้เพียงคาดเดาว่าร่างกายของปลาตัวนี้อาจสามารถต้านทานพิษได้พูดกันว่ามันเป็นสัตว์กึ่งเทพที่มีอายุมากกว่า 300 ปี” “ถ้าอย่างนั้นก็จับมันขึ้นมาซะ”กั๋วเจิ้งเหอพูด “เราก็อยากทําเหมือนกันแต่เราไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้เลย”
“ผมจะให้คนมาช่วย

“ถ้าให้ดีก็อย่าให้คนอื่นเห็นปลาตัวนั้นจะดีกว่านะ”

“ไม่มีปัญหา”

ถั่วเจิ้งเหอลงมือจัดการอย่างรวดเร็วและไล่คนนอกออกไปจากหุบเขาจนหมด ข้ออ้างที่เขาใช้ก็คือมีการค้นพบพิษร้ายในสถานที่แห่งนี้เขาจึงกังวลว่าอาจจะมีคนได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้

ผู้เชี่ยวชาญในด้านการตกปลาปรากฏตัวขึ้นที่หุบเขาพวกเขามาพร้อมกับอุปกรณ์ครบมือคนเหล่านี้ถูกรวบรวมมาโดยเสวี่ยซินหยวนเมี่ยวจ้าวชิ่งจึงได้รู้ว่าที่เมี่ยวชิงเฟิงเคยบอกเอาไว้เป็นเรื่องจริงชายหนุ่มมีอํานาจอยู่ในมือในหุบเขามีเรืออยู่หลายลําแต่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรือพายขนาดเล็กมันจึงนํามาใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้การจับปลาจึงเริ่มต้นขึ้น

พวกเขาพยายามใช้สิ่งมีชีวิตอย่างหมูกับแพะโดยปล่อยให้พวกมันลอยคออยู่ในทะเลสาบ

และมันก็เป็นวิธีการเดียวกับที่ชาวบ้านในหุบเขาใช้ในการบูชาปลาในทะเลสาบมาหลายชั่วอายุคน

“มันจะโผล่ออกมารึเปล่า?”

“ต้องมาสิ”

เงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏออกมาให้เห็นอยู่ภายในทะเลสาบและมันกําลังเคลื่อนที่ไปทางจุดที่หมูกับแพะลอยอยู่

“อยู่ตรงนั้น” กั๋วเจิ้งเหอตกตะลึงกับขนาดของเงาร่างที่เห็นภายในทะเลสาบ

คนในหุบเขาไม่ได้โกหก มันเป็นปลาใหญ่ยักษ์ที่มีความยาวกว่า 10 เมตร มันเป็นเรื่องเหนือจินตนาการกับการที่มีสัตว์น้ําขนาดใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้

ในหมู่บ้านทางเหนือที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์…

“อะไรนะ? ตอนนี้เขาอยู่ที่หุบเขาอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ครับแล้วดูเหมือนว่าพวกเขาจะไล่คนนอกออกไปจากหุบเขาจนหมดตอนนี้มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปในหุบเขาด้วยครับ”

“จุ๊ๆๆ คุณชายกั่วของพวกเราช่างรู้จักสรรหาเรื่องสนุกท่าจริงๆ” หวังเย้าพูดเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับเรื่องที่ได้ยิน

“ผมให้คนคอยจับตาดูเอาไว้แล้ว” เจี๋ยจื้อจายพูด“อีกไม่นานก็น่าจะได้ข่าวตอนนี้เมี่ยวซีเหอก็ตายไปแล้วคนในหุบเขาก็ดูเหมือนจะยอมรับคนนอกได้มากขึ้นการหาข้อมูลข้างในนั้นเลยง่ายขึ้น”