DC บทที่ 256: นิกายล้านอสรพิษ

 

ขณะที่โหลวหลานจีพูดจาว่าร้ายป้ายสีซูหยางให้ฟางซีหลานฟังราวกับว่าเป็นคนรักเก่าของเขาอยู่นั้น ที่แห่งหนึ่งในนิกายล้านอสรพิษ หนึ่งในนิกายระดับสูงภายในทวีปตะวันออก ก็มีการประชุมเกิดขึ้น

 

“ตามข่าว เจ้ามั่นใจหรือว่าสุดท้ายเราก็พบตำแหน่งของวิญญาณพิทักษ์”

 

เจ้านิกายของนิกายล้านอสรพิษกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดขณะที่เขากวาดสายตาไปยังผู้อาวุโสนิกายที่นั่งรอบตัวเขา

 

“นั่นถูกต้องแล้ว พวกเราได้รับรายงานเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจากคนของเราที่ตั้งสถานีอยู่ภาคตะวันออก และรายงานระบุว่าเขารู้สึกถึงปราณไร้ลักษณ์ของวิญญาณพิทักษ์อยู่ใกล้แถวเมืองกุสุมาลย์” หนึ่งในผู้อาวุโสนิกายกล่าว

 

“เมืองกุสุมาลย์ หือ ทุกคนได้รวมตัวกันบริเวณนั้นและเริ่มค้นหาวิญญาณพิทักษ์จากที่นั่นหรือยัง ข้าต้องการค้นหาทุกซอกทุกมุม ไม่มีข้อยกเว้น”

 

ผู้นำนิกายสั่ง

 

“ได้ขอรับ”

 

ผู้อาวุโสนิกายคนนั้นคารวะก่อนที่จะจากไปเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ

 

ยามเมื่อผู้อาวุโสนิกายจากไป ผู้นำนิกายก็พูดต่อว่า “สุดท้ายหลังจากที่ค้นหามาหลายเดือน เราก็พบเจ้าตัวบ้านั่น”

 

นิกายล้านอสรพิษพบเจอวิญญาณพิทักษ์นี้โดยบังเอิญเมื่อสองสามเดือนก่อน และพวกเขาก็พยายามค้นหาเบาะแสของมันนับแต่นั้น อย่างไรก็ตามเพราะว่าธรรมชาติของวิญญาณพิทักษ์จะหลบหลีกจากเทคนิคการค้นหาและติดตามทุกอย่าง นิกายล้านอสรพิษจึงวิ่งวุ่นเหมือนคนตาบอดมาจนถึงวันนี้

 

“ถ้าพูดถึงเมืองกุสุมาลย์ นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็ถือว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่นั้นอยู่ และข้าก็ต้องการให้ใครสักคนจากห้องนี้ไปเยี่ยมพวกเขาสักครั้ง บางทีพวกเขาอาจจะซ่อนวิญญาณพิทักษ์ไว้” เจ้านิกายกล่าว

 

“จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขามีวิญญาณพิทักษ์จริงๆ”

 

บางคนถาม

 

“นั่นยังมิชัดเจนอีกหรือที่ว่าเราต้องทำอะไร ถึงแม้ว่าเราจักต้องใช้กำลัง เราก็จักให้พวกเขายื่นส่งมันมาให้เราให้ได้”

 

ผู้คนในห้องต่างเริ่มหัวเราะฉีกยิ้มโหดเหี้ยมบนใบหน้า

 

“นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยอาจจะมีชื่อเสียงในพลังการฝึกปรือโดยรวมที่สูง แต่วิชาที่พวกเขารู้ก็เพียงวิชาร่วมรักสำหรับใช้บนเตียง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอันตรายคุกคามใดๆกับพวกเรา”

 

นิกายล้านอสรพิษยินดีทำสงครามกับนิกายกุสุมายล์พ้นพิสัยถ้านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมีวิญญาณพิทักษ์ที่พวกเขากำลังมองหา

 

“ข้าจักเป็นคนไปพบนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเอง”

 

หนึ่งในผู้อาวุโสนิกายยืนขึ้นและกล่าว และที่รายล้อมรอบร่างสูงใหญ่นี้เป็นรัศมีของคนที่อยู่ในเขตอัมพรวิญญาณ

 

“ผู้อาวุโสวัน เฮอะ ดีมาก ข้ายจักปล่อยเรื่องนี้ให้กับเจ้า”

 

เจ้านิกายพยักหน้า

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที การประชุมก็จบลง

 

 

 

 

หลังจากนั้นสี่วัน ผู้กล้ากว่าโหลก็มารวมตัวกันที่เมืองกุสุมาลย์ ซึ่งอยู่ห่างจากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเพียงครึ่งชั่วโมง

 

“วิญญาณพิทักษ์อยู่บริเวณแถวนี้เมื่อสี่วันก่อน และพวกเราก็ค้นหาเบาะแสบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์หลักที่แท้จริงในวันนี้ก็คือการรอสัญญาณจากผู้อาวุโสวัน ครั้นเมื่อเขารู้ว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมีวิญญาณพิทักษ์หรือไม่ เขาก็จะแจ้งให้พวกเราและพวกเราก็จะหนุนเขา ดังนั้นให้เตรียมตัวทำสงคราม”

 

“นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยรึ ไม่ใช่ว่าที่นั่นเป็นที่สำหรับพวกลามก”

 

หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญถาม และทั้งบริเวณนั้นต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

ในเวลานั้นที่นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ผู้อาวุโสอูวิ่งตรงไปยังศาลาหยินหยาง

 

“ผ-ผู้นำนิกาย มีเรื่องด่วน” ผู้อาวุโสอูกรีดร้องขณะที่เธอวิ่งเข้าไปในศาลา

 

“มีเรื่องอะไร ผู้อาวุโสอู ยังเช้าเกินไปที่จะร่ำร้องแบบนั้น”

 

โหลวหลานจีปรากฏตัวจากห้องของเธอ

 

“นิ-นิกายล้านอสรพิษ ผู้อาวุโสวันจากนิกายล้านอสรพิษมาที่นี่เพื่อพบกันท่าน” ผู้อาวุโสอูกล่าวกับเธอ

 

“อะไรที่ท่านพูดถึงรึ นิกายล้านอสรพิษจากภูมิภาคตะวันตกนะรึ ทำไมพวกเขาจึงมาที่นี่”

 

โหลวหลานจีขมวดคิ้วกับสถานการณ์

 

จากเท่าที่เธอรู้ นิกายล้านอสรพิษไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่นี่ ดังนั้นทำไมพวกเขาจึงมาที่นี่ พวกเขาเดินทางมาแสนไกลเพื่อที่จะส่งผู้อาวุโสระดับสูงของเขาคนหนึ่ง ผู้อาวุโสวัน มาพบกับเธอโดยเฉพาะ

 

“อะไรที่นิกายล้านอสรพิษต้องการจากพวกเรา พวกเขาถึงกับส่งผู้อาวุโสวันมาด้วยตัวเอง นั่นต้องมีเรื่องสำคัญพอสมควร อย่างนั้นก็ดี ข้าจักไปพบกับเขา”

 

โหลวหลานจีออกจากศาลาหยินหยางอย่างรวดเร็วและตามมาด้วยผู้อาวุโสอู

 

สองสามนาทีหลังจากนั้น โหลวหลานจีก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่มีรัศมีล้ำลึกรายล้อมตัวเขายืนอยู่ตรงทางเข้า

 

“ขออภัยที่ต้องให้รอ ผู้อาวุโสวัน”

 

โหลวหลานจีทักทายเขาด้วยความนอบน้อม

 

แม้ว่าจะเป็นเจ้านิกาย แต่พลังการฝึกปรือของโหลวหลานจีด้อยกว่าผู้อาวุโสวันซึ่งเป็นเพียงผู้อาวุโสนิกาย ยิ่งไปกว่านั้นนิกายล้านอสรพิษเป็นที่ที่พวกเธอไม่อาจล่วงเกิน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอที่จะทักทายผู้อาวุโสวันด้วยท่าทางแบบนั้น

 

“ข้าเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราพบกัน สหายเต๋าโหลว” ผู้อาวุโสวันกล่าวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร และกล่าวต่อว่า “ข้าต้องขออภัยที่มาเยี่ยมอย่างกระทันหัน แต่นิกายล้านอสรพิษได้ประสบปัญหาหนึ่ง และในเมื่อพวกเรามาอยู่ใกล้สถานที่นี้ ข้าจึงมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้า…”

 

โหลวหลานจีเลิกคิ้ว นิกายล้านอสรพิษมีปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้งั้นรึ นั่นเป็นเรื่องคาดคิดไม่ถึงสำหรับเธอ

 

“ถ้านั่นเป็นปัญหากระทั่งนิกายล้านอสรพิษที่ทรงอำนาจพร้อมด้วยชื่อเสียงมิอาจแก้ไขได้ นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยคงมิอาจให้ความช่วยเหลือใดได้อย่างแน่นอน ตามจริงพวกเราคงได้แต่ทำให้พวกท่านเสียเวลา..”

 

โหลวหลานจีไม่ได้ถ่อมตัวแม้แต่น้อย ในเมื่อนั่นเป็นสิ่งที่เธอเชื่อเช่นนั้นจริงๆ

 

“โอ นั่นมิใช่ปัญหาแบบนั้น”

 

ผู้อาวุโสวันหัวเราะหึ หรี่ตาและพูดอย่างเรียบง่าย “เป็นแค่เรื่อง..เจ้าเคยเห็นลูกเสือขาวแถวนี้บ้างไหม มันเป็นวิญญาณพิทักษ์”

 

ได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิดของผู้อาวุโสวัน ใบหน้าโหลวหลานจีมีท่าทางตกใจไปในทันที แต่เธอก็รีบเปลี่ยนแปลง

 

“เขามาที่นี่ตามหาเซียวไป่”

 

โหลวหลานจีสุดท้ายก็รู้ว่าทำไมนิกายล้านอสรพิษจึงแสดงตัวที่หน้านิกาย แต่นั่นเพียงทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจถึงที่สุด