ตอนที่ 446 ผู้เสเพลอันดับหนึ่ง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หอหมอปีศาจเพิ่งจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปไม่นาน มาวันนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่มีคนกินยาเม็ดเข้าไปแล้วกระอักเลือด  นี่จึงทำให้ผู้คนสงสัยในหอหมอปีศาจที่เพิ่งจะเปิดกิจการขึ้นใหม่

“ท่านผู้นำหอหมอปีศาจ เกิดเรื่องขึ้นแล้ว” มู่หรงรุ่ยมารายงานกับ ‘มู่ซี’

มู่เฉียนซี “ข้าขอไปดูหน่อย”

เมื่อเด็กหนุ่มที่ดูราวกับปีศาจปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา พวกเขาล้วนตะลึงงันกันไปหมด

องค์ชายเทพบุตรที่เหมือนดั่งปีศาจหิมะเพียงองค์เดียวของทวีปเซี่ยโจว พวกเขานั้นเคยพบเห็นมาก่อน หากกล่าวถึงกันแต่เรื่องของความงดงามเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นทั้งทวีปเซี่ยโจวก็ไม่สามารถมีใครเทียบเขาได้

แต่เจ้าหนุ่มน้อยผู้ที่มีดวงตาสีเขียวสุกใสผู้นี้ กลับไม่ได้ด้อยไปกว่าองค์รัชทายาทเซี่ยเลยแม้แต่น้อย

เชียนอ้าวเซี่ยบ่นพึมพำขึ้น “เจ้าปีศาจบ้า ทันทีที่ออกมาเจ้าก็เกี่ยวดึงเอาจิตวิญญาณของทุกคนไปหมด”

มู่เฉียนซีเดินมาถึงที่ด้านข้างของผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้ป่วย นางเปิดปากกล่าวขึ้น “นายน้อย ข้านั้นเป็นผู้นำหอหมอปีศาจมีนามว่ามู่ซี ได้ยินมาว่ามีคนที่กินยาเม็ดของหอหมอปีศาจของข้าแล้วโดนพิษเข้ารึ ?”

ชายหนุ่มผู้นั้นจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างโกรธแค้นแล้วกล่าวขึ้น “เจ้าคือหมอปีศาจ จงชดใช้ชีวิตของพ่อข้าซะ  หอหมอปีศาจของพวกเจ้าขายยาเม็ดปลอม ขายยาเม็ดมีพิษ มิแปลกที่มันถึงได้ราคาถูกเช่นนั้น”

หอยาแห่งอื่นนั้นเชิญนักปรุงยาปรุงยาให้ ต้นทุนจึงสูง แน่นอนว่าราคาของยาเม็ดก็ต้องสูงตาม แต่หอหมอปีศาจนั้นไม่เหมือนกัน นักปรุงยาที่เข้ามาในหอหมอปีศาจล้วนแต่เป็นคนกันเอง จึงไม่กล้าตั้งราคาที่สูงเสียดฟ้า นั่นทำให้ยาธรรมดาทั่วไปราคาถูกลงไม่น้อย

แต่เพราะว่าราคาของมันนั้นถูกเกินไป จึงทำให้ผู้คนก่อเกิดความสงสัย

“ที่กล่าวมาก็จริง แต่ไหนแต่ไรมาข้านั้นยังไม่เคยเห็นยาที่ราคาถูกเช่นนี้มาก่อน หรือว่าจะเป็นยาปลอมจริง ๆ”

“เป็นไปได้อย่างไร ?  ยาที่องค์รัชทายาทเซี่ยเลือกจะเป็นยาปลอมได้อย่างไร ?”

“องค์รัชทายาทเซี่ยมีรูปลักษณ์งดงามมาก แต่ว่าเขานั้นไม่มีพลังวิญญาณ ไม่อาจที่จะแยกยาจริงกับยาปลอมได้เลย”

ทว่าก็ยังมีคนที่ยืนอยู่ข้างมู่เฉียนซี “ข้าไม่เชื่อว่าผู้นำหอหมอปีศาจจะขายยาปลอม ผู้นำหอหมอปีศาจมีรูปลักษณ์ที่งดงามเช่นนั้น อีกทั้งยังดูแล้วบริสุทธิ์ขนาดนี้ เขาไม่ใช่คนเช่นนั้นแน่นอน”

จากนั้นก็มีเสียงที่ลึกลับเสียงหนึ่งดังลอยมา “รู้คน รู้หน้า ไม่รู้ใจ…”

มู่เฉียนซีก้มหน้ามองคนรุ่นราวคราวลุงผู้ที่นอนอยู่นั้น พลันปรากฏเข็มยาไถลออกมาจากมือเข็มหนึ่ง

ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวเตือนขึ้นอย่างตื่นตัว “เจ้า… เจ้าคงไม่คิดที่จะฆ่าคนปิดปากหรอกกระมัง ?”

“ไม่! ข้ากำลังช่วยเขาอยู่”

เข็มยาเข็มนั้นกรีดเปิดผิวหนังของลุงผู้นั้น  แต่ทว่าลุงผู้นั้นก็ไม่ตื่นขึ้นมา

“ท่านพ่อของข้าไม่มีอาการตอบสนองใดเลย เจ้า… เจ้า…”

มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาอีกเข็มหนึ่งออกมาแล้วกล่าวขึ้น “ท่านลุง เลิกแสดงได้แล้ว ข้านั้นได้ให้โอกาสท่านไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อครู่นี้เข็มไม่มีพิษ แต่คราวนี้มันเป็นเข็มที่มีพิษร้ายแรง แค่เพียงมันไปถูกตัวท่านเพียงเบา ๆ โลหิตท่านจะไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดเป็นเวลาสามวันจนกระทั่งสิ้นใจ”

มู่เฉียนซีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของลุงผู้นี้สั่นเทิ้ม  เหอะ! คิดที่จะมาแสร้งป่วยต่อหน้าหมอปีศาจอย่างนาง ต่อให้ความสามารถในการแสดงของลุงผู้นี้จะดีไปกว่าที่แสดงอยู่ ก็ไม่มีประโยชน์อันใด

เห็นได้ชัดว่าลุงผู้นี้แพ้พนันแล้ว เขาไม่พนันว่ามู่เฉียนซีนั้นไม่กล้าจิ้มเข็มลงมา

“หยุด!”

ในครั้งนี้ ชายหนุ่มผู้นั้นที่อ้างตนว่าเป็นบุตรชายลงมือเข้าแล้ว

— ปัง! —

ทว่าสุดท้ายกลับโดนมู่เฉียนซีตบกระเด็นออกไป

ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวอย่างโกรธเคือง “ทำร้ายคนเข้าแล้ว เขากล้าทำร้ายข้า เห็นได้ชัดเลยว่าเขานั้นเป็นโจรใจร้อน”

“ใช่แล้ว! คิดไม่ถึงเลยว่าหมอปีศาจจะทำร้ายคน หรือว่าหอหมอปีศาจมีปัญหาจริง ๆ  ข้าต้องการคืนยา!” บางคนกล่าวขึ้นอย่างตระหนกตกใจ

“พวกเราก็ต้องการคืนยาด้วยเช่นกัน!”

คิ้วที่งดงามของเชียนอ้าวเซี่ยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เจ้าเด็กผู้นี้บ้าระห่ำเกินไปหน่อยหรือเปล่า

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ท่านลุง ในเมื่อข้ากล้ามาเปิดร้านยาของข้าในที่เช่นนี้ของทวีปเซี่ยโจว เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว และข้าจะบอกให้ว่าสิ่งที่ข้าถนัดที่สุดนั้นคือการปรุงพิษ ไม่ใช่การปรุงยา ท่านสามารถลองพนันครั้งใหญ่ดูได้”

เมื่อตอนที่เข็มยาของมู่เฉียนซีเข้าไปใกล้ร่างของเขานั้น ผู้เฒ่าผู้นี้กลับรู้สึกว่าแกล้งแสดงต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว  เขาจึงรีบกระโดดออกมาพร้อมร้องขึ้นเสียงแหลมว่า “เจ้าอย่าเข้าใกล้ข้า!”

“ยะ… อย่าฆ่าข้า!”

เดิมทีผู้เฒ่าผู้นี้มีลมหายใจที่แผ่วบางนัก แต่ในตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา

เหล่าบรรดาผู้คนต่างพบแล้วว่าตนเองนั้นถูกสองพ่อลูกคู่นี้หลอก เสียงหนึ่งกล่าว “เขาเสแสร้งแกล้งทำ”

“ใช่! เสแสร้งอย่างแน่นอน”

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กลับตาลปัตร มู่เฉียนซีก็ออกคำสั่งในทันใด “จับตัวพวกเขาสองคนเอาไว้ แล้วสอบสวนให้ดี ข้าอยากจะรู้นักว่าแท้จริงแล้วเป็นใครที่กล้ามาก่อกวนในวันเปิดกิจการวันแรกของหอหมอปีศาจ”

“ขอรับ!”

— พรึ่บ! —

องครักษ์เงาของตระกูลมู่ปรากฏตัวขึ้น ร่างของพวกเขานั้นดูคล่องแคล่วแผ่วเบาราวกับสายลมโชย ทว่าแรงกดดันของระดับจักรพรรดิที่แผ่ออกมาอย่างไร้รูปร่างนั้น ทำให้ผู้คนตะลึงตาค้าง

ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเป็นผู้คุ้มครองหอหมอปีศาจ  หอหมอปีศาจแห่งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่

เวลานี้ลุงและชายผู้นั้นถูกทำให้กลัวเสียจนอ้าปากค้าง เดิมทีพวกเขาเพียงแค่รับเงินมาจากคนที่ให้มาแสดงละครเพื่อโจมตีหอหมอปีศาจที่เปิดตัวอย่างโอ่อ่านี้ แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะมีเบื้องหลังที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้

ชายหนุ่มและชายรุ่นลุงตกใจกลัวจนแข้งขาอ่อน และแทบไม่ต้องให้เหล่าองครักษ์เงาสอบสวนเลย สองพ่อลูกกล่าวขึ้น “เป็นหอหลิงเมี่ยวทางฝั่งตรงข้ามที่จ้างวานให้พวกข้าทำเช่นนี้ พวกข้าเพียงแค่รับเงินมาแล้วมาทำงานให้พวกเขา ท่านผู้นำหอหมอปีศาจโปรดไว้ชีวิตด้วยเถอะ”

“โปรดไว้ชีวิตพวกข้าด้วยเถอะ…”

“หอหลิงเมี่ยวฝั่งตรงข้าม” มู่เฉียนซีพึมพำด้วยเสียงต่ำ นางยังไม่ทันโกรธ  องค์รัชทายาทเซี่ยกลับกริ้วขึ้นมาเสียก่อน

“ช่างกล้าดีจริง ๆ!  ในเมื่อกล้าที่จะมาแตะต้องหอหมอปีศาจ ก็แสดงว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่กันแล้ว วันนี้ข้าจะพังหอหลิงเมี่ยวเสียให้ราบ”

องค์รัชทายาเซี่ยนำคนเข้าไปพังหอหลิงเมี่ยวอย่างดุดัน เมื่อกล่าวจบเขาก็ลงมือทำเลย

หอหมอปีศาจนั้นก็ถือว่าเป็นของซีเอ๋อร์น้อยด้วยเช่นกัน ถึงแม้เขาจะไม่ชอบหน้าเจ้าเด็กปีศาจมู่ซีนั่นก็เถอะ แต่เชียนอ้าวเซี่ยจะไม่ยอมให้ผู้ใดแตะต้องหอหมอปีศาจแม้เพียงปลายเล็บ

เชียนอ้าวเซี่ยมิเพียงแค่ถูกขนานว่าเป็นเทพบุตรอันดับหนึ่งแห่งทวีปเซี่ยโจว และองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถอันดับหนึ่งแห่งทวีปเซี่ยโจว แต่เขายังได้กลายเป็นผู้เสเพลอันดับหนึ่งของทวีปเซี่ยโจวอีกด้วย

เมื่อพบเจอสตรีที่ตนเองชอบนั้นก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้นางกลับไปวังตะวันออกด้วยก็ยังไม่เท่าไร แต่หากมีใครไปทำให้เขารู้สึกขัดใจ ผู้นั้นก็จะได้พบเจอกับความซวยถึงขีดสุด เหมือนดั่งเช่นหอหลิงเมี่ยวในวันนี้

มู่หรงรุ่ยถามขึ้น “ท่านผู้นำหอหมอปีศาจ พวกเราจะไม่ไปห้ามปรามองค์รัชทายาทหรอกหรือ ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “วันนี้เขาทำให้ข้ารำคาญแทบตาย ปล่อยให้เขาไปสร้างปัญหาเถอะ”

นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจัดการกับภัยซ่อนเร้นฝั่งตรงข้ามเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดกั้นตัวต่อเชียนอ้าวเซี่ยอีกด้วย

องค์รัชทายาทเซี่ยปกป้องหอหมอปีศาจเสียขนาดนั้น แน่นอนว่าก็ไม่มีใครกล้าสงสัยในหอหมอปีศาจอีกต่อไป

หอหมอปีศาจเปิดกิจการได้อย่างราบรื่น  กิจการนั้นดีวันดีคืน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ส่วนมู่หรงรุ่ยที่เป็นเถ้าแก่ใหญ่ก็นับวันยิ่งทำงานได้คุ้นชินมือมากขึ้น

น่าหลานอวี้กับเชียนอ้าวเซี่ยมาเยี่ยมเยียนอีกครั้งหนึ่ง น่าหลานอวี้นั้นมาเพื่อเยี่ยมมู่ซี ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยมาเพื่อติดตามถามว่ามู่เฉียนซีนั้นอยู่หนใด

นางนั้นยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองชัด ๆ แต่ทว่าพวกเขากลับจำไม่ได้ ต้องบอกเลยว่าการใช้ใบหน้าของผู้ที่นางได้ทำพันธสัญญาด้วยนั้น ช่างทำให้ผู้อื่นยากที่จะแยกแยะได้จริง ๆ

นี่คือรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

“มู่ซี  เมื่อไรเจ้าจะยอมให้ซีเอ๋อร์น้อยออกมาเสียที ซีเอ๋อร์น้อยนั้นอยู่ในเมืองเซี่ยตู ข้ามั่นใจและแน่ใจมาก”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเฉยเมย “ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าข่าวสารจากหอเชียนอินของเจ้านั้นจะรวดเร็วเป็นอย่างมาก ในเมื่อรวดเร็วเจ้าก็หาต่อไป ไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะหาเจอก็ได้”

“ฮือ ๆ ๆ ซีเอ๋อร์น้อยกลับเอาความลับที่สำคัญเช่นนี้ไปบอกกับเจ้าหมดแล้ว ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว”

ในตอนนั้น เชียนอ้าวเซี่ยมองมู่เฉียนซีอย่างโศกเศร้าเป็นที่สุด ความขมขื่นแผ่ออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง

.