น่าหลานอวี้เองก็ตกใจเช่นเดียวกัน เขากล่าวขึ้น “เซี่ย เจ้า… เจ้าเอาสถานะตัวตนในขั้นนั้นไปบอกกับมู่เฉียนซีหมดแล้ว เจ้า…”
ต้องเข้าใจว่าเซี่ยที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นมีชื่อเสียงในด้านความเสเพลเป็นอย่างมาก สถานะตัวตนในขั้นนั้นหากแพร่กระจายออกไป เกรงว่าจะเกิดความโกลาหลขึ้นไม่น้อยเลย
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องธรรมดา ข้านั้นไม่มีความลับอันใดกับซีเอ๋อร์”
น่าหลานอวี้งุนงงเล็กน้อย อารมณ์ความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ครานี้สหายรักของเขา ตกลงไปทั้งตัวจริง ๆ แล้ว
ผู้ที่เล่นอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้มาโดยตลอด เขาที่คอยเล่นอยู่ท่ามกลางสาวงามก็เสร็จเข้าเสียแล้ว เสร็จด้วยมือของมู่เฉียนซีผู้นั้น
มู่เฉียนซี…
จิตใจของน่าหลานอวี้นั้นสับสนเป็นอย่างมาก สติปัญญาคอยบอกตนเองว่าตนเป็นของมู่ซี ถึงแม้ว่ามู่ซีจะเป็นบุรุษผู้หนึ่งก็ตาม ส่วนมู่เฉียนซี นางเป็นเพียงผู้เดียวที่เซี่ยชอบพอ ดังนั้นแล้วตนจะไปแข่งขันกับเขาได้อย่างไรกัน
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “พวกเจ้าเองก็ดื่มชาจนหมดแล้ว ควรไปได้แล้วกระมัง”
น่าหลานอวี้กล่าวขึ้นอย่างจนปัญญา “เซี่ย มู่ซีมักจะไล่แขกไปอย่างไม่เกรงใจมาแต่ไหนแต่ไร เจ้าไปเถอะ ข้าจะนั่งต่ออีกสักหน่อย”
เชียนอ้าวเซี่ย “หากวันนี้ข้าไม่ไป แล้วเจ้าทำอะไรข้าได้ ? ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าหากเจ้ายังไม่ให้ซีเอ๋อร์มาพบข้า วันนี้ข้าจะพาเจ้าเข้าวังไปพบเสด็จพ่อ ข้าจะบอกกับพระองค์ว่าเจ้าจะเป็นสะใภ้หลวงของพระองค์ ให้พระองค์เตรียมจัดการงานแต่งงาน”
องค์รัชทายาทเซี่ยสมแล้วที่เป็นชายเสเพลอันดับหนึ่งของทวีปเซี่ยโจว เมื่อทำเรื่องงี่เง่าขึ้นมา ไม่ว่าวิธีการบัดซบอันใด เขาก็ล้วนแต่ทำได้หมด
“เซี่ย!” น่าหลานอวี้ขมวดคิ้วแน่น
องค์รัชทายาทเซี่ยส่งสายตาไปทางเขาหนึ่งครา นี่เป็นการขู่เจ้าเด็กนี่มิใช่หรือ ? เขานั้นไม่แย่งคนของอวี้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อวี้ชอบ
มู่เฉียนซีรู้สึกปวดหัว นางอยากที่จะถีบเจ้าสวะเซี่ยให้ตาย ๆ ไปเสียจริง ๆ
เขานั้นมั่นใจเป็นอย่างมากแล้วว่านางจะไม่ทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อราชวงศ์ ถึงได้ใช้อุบายการแต่งงานเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “หลังจากนี้สามวัน ที่การประชุมการปรุงยาของทวีปเซี่ยโจว มู่เฉียนซีจะไปเข้าร่วมงาน”
“เป็นจริงรึ ? ซีเอ๋อร์จะไปร่วมงานจริง ๆ รึ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยตื่นเต้นเสียจนดีดตัวกระโดดขึ้น จากนั้นจึงกล่าวว่า “ข้าจะต้องไปเตรียมตัวเสียหน่อย เพื่อให้ซีเอ๋อร์น้อยเห็นข้าในสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด”
“เฮ้อ… ช่วงนี้ข้านั้นคิดถึงซีเอ๋อร์น้อยเสียจนผิวหนังดำคล้ำหมดแล้ว เจ้าปีศาจมู่ซีบ้า ที่นี่มียาเม็ดอะไรที่บำรุงผิวหนังหรือเปล่าเล่า ?!”
“แล้วก็…”
เมื่อเห็นเชียนอ้าวเซี่ยพึมพำไม่หยุดหย่อน มู่เฉียนซีและน่าหลานอวี้ก็รู้สึกสับสน
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า… “เจ้าไสหัวออกไปซะ!”
หลังจากที่เชียนอ้าวเซี่ยจากไป ในที่สุดก็สงบลงเสียที
มู่เฉียนซีมองน่าหลานอวี้แล้วกล่าวขึ้น “น่าหลานอวี้ ช่วงนี้กิจการที่หอหมอปีศาจดีเหลือเหลือเกิน จำนวนยาที่เรามีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นแล้วจากนี้ไปข้าคงจะต้องเดินทางไปที่อื่นสักระยะหนึ่ง”
น่าหลานอวี้นั้นรู้สึกเสียดายนัก “เจ้า… เจ้าจะต้องออกเดินทางอีกแล้วหรือ ?”
“อืม”
งานประลองปรุงยาร้อยปีของทวีปเซี่ยโจวกำลังจะเริ่มขึ้น ในตอนที่ผู้นำกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรและเหล่าผู้คนในที่นั้นได้เห็นสถานที่จัดงานแล้ว ต่างรู้สึกสงสัยว่าพวกเขามาผิดสถานที่หรือไม่ เพราะสถานที่จัดงานประลองปรุงยาร้อยปีของทวีปเซี่ยโจวนั้น ถูกโรยด้วยดอกสมุนไพรสีขาว ดอกสมุนไพรที่อยู่บนพื้นทั้งหมดเป็นสีขาวราวหิมะ จึงทำให้ทั้งโลกนั้นกลายเป็นสีขาวขึ้นมา
จากนั้น ที่รอบด้านมีการชักป้ายที่เป็นแนวตรงยาวจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้น บนป้ายนั้นเขียนเอาไว้ว่า ‘ซีเอ๋อร์น้อย สู้เขา!’
“อันดับที่หนึ่งจะต้องเป็นของซีเอ๋อร์แน่ ๆ”
“ซีเอ๋อร์ผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้า!”
สีหน้าของผู้นำกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรหม่นลง เขากล่าวถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น ?”
“ท่านผู้นำกลุ่มพันธมิตร นั่นเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเซี่ย เหมือนกับว่าองค์รัชทายาทเซี่ยไปชอบพอสตรีงามนักปรุงยาผู้หนึ่งที่จะเข้าร่วมประลองในงานประลองปรุงยาร้อยปีในครั้งนี้เข้า ดังนั้นแล้วองค์รัชทายาทเซี่ยจึงมาเพื่อให้กำลังใจนาง นั่นไม่…”
“การกระทำขององค์รัชทายาทนั้น ทำการแต่ละสิ่งอย่างเกินเหตุมาโดยตลอด ขอให้ท่านผู้นำกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรโปรดอย่าถือสาเลยขอรับ”
มังกรที่แข็งแกร่งไม่สามารถกดขี่งูดินเจ้าถิ่นได้ ในเมืองเซี่ยตูแห่งนี้ ฮ่องเต้แห่งแคว้นเฉียนเซี่ยเป็นใหญ่ที่สุด และองค์รัชทายาทนั้นก็เป็นองค์รัชทายาทที่เป็นที่รักของพระองค์อย่างที่สุด แน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะไปล่วงเกิน
มันเป็นเพียงการโอ้อวดต่อสาธารณะไปหน่อย แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อการประลองในครั้งนี้
ผู้เข้าร่วมประลองมาถึงสนามประลองกันอย่างไม่ขาดสาย พวกเขาเองก็ได้เห็นสถานที่ประลองที่สวยงามเช่นนี้เป็นครั้งแรก ทว่าซีเอ๋อร์น้อยผู้นั้นคือเทพธิดาจากไหนกัน จึงสามารถทำให้องค์รัชทายาทหลงรักจนทำเรื่องที่นอกกรอบถึงเพียงนี้ได้
องค์รัชทายาทเซี่ยจัดเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อย แต่นางกลับไม่โผล่ออกมา
ในขณะนี้เอง หญิงสาวในชุดสีขาวผู้ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้ชมที่สูงศักดิ์หรูหรา ดวงตาที่งดงามของนางนั้นกวาดมองไปทั่วทุกทิศทางก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเกรี้ยวโกรธ “ซีเอ๋อร์… ซีเอ๋อร์… ข้าอยากจะเห็นนักว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกตัวใดที่กล้ามาล่อลวงพี่เซี่ยของข้า”
“ใช่แล้ว และยังเขียนว่าที่หนึ่งอีกด้วย องค์รัชทายาทเซี่ยนั้นยกย่องแม่ปีศาจจิ้งจอกนั่นเสียจริง”
เมื่อมู่เฉียนซีมองไปเห็นทะเลดอกไม้ และยังมีป้ายแนวตรงยาวที่เห็นได้เด่นชัด ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อขึ้นมา นางนั้นทำผิดพลาดไปแล้วจริง ๆ ในวันนั้นเพียงเพื่อที่จะไล่เชียนอ้าวเซี่ยไป จึงได้บอกแก่เขาว่านางจะมาร่วมงานประลองปรุงยาร้อยปี แต่ปรากฏว่าเจ้าบ้าผู้นี้กลับทำเรื่องเสียใหญ่โตเข้า
เมื่อมู่เฉียนซีมาถึง ก็ทำให้สตรีผู้ที่กวาดตามมองหญิงสาวคนอื่น ๆ ทั้งสนามประลองลุกยืนขึ้น
“ปีศาจจิ้งจอก ข้านั้นหาเจ้าพบเสียที”
รสนิยมของพี่เซี่ยนั้นสูงมาก สตรีที่เขาชอบนั้นต้องเป็นสตรีงามที่งดงามอย่างแท้จริง ผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ตรงตามมาตรฐาน และมีคุณสมบัติพอที่จะทำให้พี่เซี่ยจิตล้มวิญญาณละลาย
ใบหน้าของนางดูละเอียดอ่อน ผิวขาวเนียนไร้ที่ติราวกับหิมะบนยอดเขา ถึงไม่ถูกแสงแดดกระทบก็ยังดูสว่างสดใส จมูกของนางโค้งมนอย่างงดงาม ริมฝีปากสีซากุระราวกับกลีบดอกไม้ที่งดงามที่สุด ดวงตาคู่นั้นราวกับดวงดาราในความมืดมิด ทำให้ผู้ที่ได้มองไม่เป็นตัวของตัวเองแล้วจมลึกลงไปในนั้น
หญิงสาวชุดขาวพุ่งเข้าไปหามู่เฉียนซีอย่างดุดันพลันตะโกนใส่นาง “นางปีศาจบ้า เจ้าหยุดประเดี๋ยวนี้!”
บรรดาผู้คนล้วนตกใจ ปากก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านหญิงอวี้ ท่านหญิงอวี้ก็มาร่วมงานประลองปรุงยาร้อยปีของทวีปเซี่ยโจวครั้งนี้ด้วย”
“ท่านหญิงอวี้โกรธสตรีชุดม่วงเสียขนาดนั้น หรือว่านางคือซีเอ๋อร์น้อยขององค์รัชทายาทเซี่ย”
“โอ้! สตรีงามระดับนั้น มีความเป็นไปได้จริง ๆ”
เมื่อถูกเชียนอ้าวเซี่ยทำเช่นนี้ มู่เฉียนซีรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก มาวันนี้มีคนชี้ด่านางว่าเป็นปีศาจจิ้งจอก ปีศาจจิ้งจอกต้องเป็นเจ้าเชียนอ้าวเซี่ยนั่นสิ มิใช่นาง!
หญิงสาวตรงนั้นแต่งกายด้วยชุดสีขาวเหมือนกับเชียนอ้าวเซี่ย ทว่าไม่ได้มีใบหน้าเหมือนดั่งเชียนอ้าวเซี่ย การแต่งตัวเลียนแบบจึงมีความรู้สึกว่าไม่เข้ากันอยู่บ้าง
การประลองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว มู่เฉียนซีไม่อยากจะเสียเวลา จัดการนางคนนี้ตามสบายก็จบแล้ว
ในตอนนี้เอง เงาร่างสีขาวของเชียนอ้าวเซี่ยพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศและกำลังมุ่งลงมา “ซีเอ๋อร์น้อย ข้ามาแล้ว เจ้าจะต้องเตรียมจับตัวข้าเอาไว้…”
ที่กลางอากาศนั้นมีเพียงนกอินทรีสีขาวตัวเดียวเท่านั้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เชียนอ้าวเซี่ยได้วางแผนเอาไว้แล้ว
เขาจะดิ่งลงมาจากกลางอากาศ จากนั้นก็พบกันกับซีเอ๋อร์น้อยอย่างหวานชื่น แล้วท้ายที่สุดเขาก็จะสามารถกอดซีเอ๋อร์น้อยเอาไว้ในอ้อมกอดของเขาได้
จินตนาการนั้นช่างอุดมสมบูรณ์มากมาย แต่ทว่าความจริงกลับแห้งแล้งเสียยิ่งกว่ากระดูกแห้ง
เมื่อตอนที่เขาดิ่งลงมา มู่เฉียนซีก็หลบไปในทันที ผู้ที่เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขาจึงเป็นท่านหญิงอวี้ผู้ที่ไม่ได้หลบไป
อย่างไรเสียนางไม่มีความรวดเร็วเหมือนดั่งมู่เฉียนซี เชียนอ้าวเซี่ยที่เดิมทีกางปีกเตรียมโอบนั้น เมื่อได้เห็นหน้าที่ทำให้รำคาญเข้า ก็พลันเอาสองมือนั้นดันออกจากอกของตนอย่างไม่เกรงใจ
.