แดนนิรมิตเทพ บทที่ 575
โจนส์ที่กำลังลอยตัวพุ่งเข้าใส่ชายวัยกลางคน ส่งเสียงร้องโอดครวญออกมา แล้วกระเด็นลอยออกไป

แต่แสงสีทองดวงนั้นเหมือนมีดวงตาอยู่ ยังคอยบินลอยไปทางโจนส์

“ให้ตายเถอะ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!”

โจนส์ลอยตัวหนีไปด้วยและกรีดร้องไปด้วย

ชาร์ลที่อยู่ด้านข้างใช้น้ำเสียงแหบแห้งหัวเราะออกมาอย่างแปลกประหลาด “โอ๊ะ เอ็ดเวิร์ด โจนส์ที่รัก หากว่านายต้องการความช่วยเหลือ กรุณาเรียกชื่อฉันออกมาดังๆ! ใช่สิ รบกวนนายเรียกชื่อเต็มของฉันละ แม็กซ์ ชาร์ล!”

โจนส์ด่าว่าอย่างโมโห “ชาร์ล นายควรจะได้ไปเจอพระเจ้าจริงๆ!”

ชาร์ลเองก็เลียนแบบท่าทางของโจนส์เมื่อกี้นี้ กอดอกมองดูอย่างสนุกสนาน “โอ๊ะ ขอโทษด้วย ไอ้แก่นั่นมันเป็นความศรัทธาของเจ้าพวกในศาลพวกนั้น พ่อมดแห่งความชั่วร้ายอย่างพวกเราไม่ศรัทธามัน!”

ความเร็วของแวมไพร์รวดเร็วมาก แต่ก็ไม่เร็วเท่ากระบี่ของเฉินโม่

ชาร์ลเห็นว่าสถานการณ์ของโจนส์ไม่ดีนัก จึงรีบท่องคาถาทันที เกราะกำบังสีดำมากมายปรากฏตัวออกมาขวางกระบี่สับสวรรค์ไว้

แต่ว่ากระบี่สับสวรรค์ทำลายทิ้งอย่างง่ายดายเหมือนผ่าไม้ไผ่ ทะลุผ่านเกราะกำบังที่ชาร์ลเสกออกมา แล้วพุ่งไปทางโจนส์

โจนส์สีหน้าหวาดกลัว กรีดร้องเสียงดังว่า “ไม่นะ ใครบอกฉันได้บ้างว่านี่มันคือบ้าอะไรกัน!ขีปนาวุธนำวิถีงั้นหรอ?”

กระบี่สับสวรรค์มีแสงสีทองอยู่ท้ายหาง พุ่งฟันไปที่โจนส์

“ให้ตายเถอะ ฉันจะทำลายแกทิ้งซะ!”

โจนส์รู้ตัวดีว่าหนีไม่พ้น จึงทำได้แค่ปะทะ ปล่อยหมัดเข้าใส่กระบี่สับสวรรค์

“โจนส์ เจ้าโง่ แกหนีไม่เป็นหรือไง? ทำไมฉันถึงได้มีเพื่อนร่วมทีมโง่ๆอย่างแก!” เห็นว่าโจนส์คิดจะปะทะกับกระบี่สับสวรรค์ ชาร์ลโมโหจนต่อต่อว่าออกมา

“อ๊าก!”

โจนส์ส่งเสียงโอดครวญอย่างน่าสะพรึงกลัวออกมา แขนครึ่งท่อนที่มีเลือดอาบตกหล่นลงสู่พื้น

แล้วกระบี่สับสวรรค์ก็บินลอยกลับไปทางชายวัยกลางคนที่ล้มตัวนอนอยู่ที่พื้น เสียบลงพื้นตรงหน้าของเขา

“แขนของฉัน ให้ตายเถอะ ใครบอกฉันได้บ้างว่านี่มันคืออะไรกันแน่!”

โจนส์กุมแขนที่ขาดท่อนไว้ มองดูกระบี่สับสวรรค์ที่มีความยาวไม่ถึงหนึ่งฟุต แล้วโวยวายด้วยสีหน้าชั่วร้าย

ชาร์ลคิดวิเคราะห์ แล้วพูดเสียงทุ้มว่า “เหมือนว่าสิ่งนี้จะเป็นกระบี่ฟ้าในตำนานของทางเอเชีย!”

มองดูกระบี่ที่ปักอยู่ตรงกลางระหว่างขาสองข้างของตัวเอง ชายวัยกลางคนกลับตื่นเต้นจนน้ำตานอง ไม่ใช่เพราะว่ามีคนมาช่วย แต่เพราะในที่สุดเขาก็ได้นำข่าวส่งไปจนถึงหัวเซี่ยสักที

“ใคร? ใครมันลอบทำร้ายพวกเรา! ออกมาซะ!” โจนส์ตะโกนไปรอบด้าน แวมไพร์มีพลังการรักษาตัวที่แข็งแกร่ง จึงทำให้แขนที่ขาดท่อนของเขามีแขนใหม่งอกออกมาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นทรายบนพื้นก็สั่นสะเทือน ดึงดูดสายตาของทั้งสามคนในทันที

หลุมหนึ่งปรากฏออกมาในพริบตา บนพื้นมีรอยแตกเกิดช่องว่างขนาดสองเมตร ชายหนุ่มค่อนข้างผอมบางค่อยๆเดินบนอากาศขึ้นมา จนกระทั่งเขายืนอยู่บนพื้น แผ่นดินถึงได้หยุดสั่นสะเทือน และทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ

โจนส์มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว พูดอย่างตกใจว่า “นายมันตัวอะไร?”

ตัวเขาเองเป็นแวมไพร์ แต่ในตอนนี้กลับถามคนอื่นว่าเป็นตัวอะไร จึงรู้สึกมีความตลก

แต่เฉินโม่เดินออกมาจากใต้แผ่นดิน สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งนี้คนคนหนึ่งจะสามารถทำได้ โจนส์จึงต้องสงสัยอยู่แล้วว่าเฉินโม่ไม่ใช่มนุษย์

เฉินโม่เหลือบมองโจนส์ สีหน้าแปลกใจเล็กน้อย “ที่แท้บนโลกนี้ก็ยังมีทายาทของชนเผ่าแวมไพร์อยู่ แต่น่าเสียดายที่เลือดไม่ค่อยบริสุทธิ์นัก เมื่อเทียบกับชนเผ่าแวมไพร์ในหมื่นเผ่าในจักรวาลแล้ว ห่างไกลอย่างมากโข อย่างมากก็ถือเป็นได้แค่ประเภทลูกผสมเท่านั้น!”

น้ำเสียงแหบแห้งของชาร์ลหัวเราะออกมา “โอ้ โจนส์ เขาด่านายว่าเป็นพันธุ์ผสมละ!”

โจนส์ถลึงตาใส่ชาร์ลอย่างโมโห แล้วด่าว่า “ชาร์ล ไอ้สารเลวรีบหุบปากแกไปซะ!”

จากนั้น โจนส์ก็แยกเขี้ยวใส่เฉินโม่ “เจ้าหนุ่มเอเชีย แกกล้าเหยียดหยามสมาชิกตระกูลเอ็ดเวิร์ดผู้สูงศักดิ์ ฉันขอประกาศแทนไอ้แก่บนฟ้านั่นว่า ฉันจะดูดเลือดของแกจนแห้งแน่นอน!”