ตอนที่ 447 : สมัยก่อน

Black Tech Internet Cafe System

ตอนที่ 447 : สมัยก่อน

 

วงล้อรางวัลนั้นต่างจากกล่องสมบัติวงล้อนั้นเราต้องมาลุ้นว่าเมื่อหมุนแล้วจะได้รับอะไร

 

ตัวอย่างเช่น บนล้อร้องวัลในตอนนี้ฟางฉีเห็นรางวัลต่างๆรอบวงอาทิเช่น หนังเดอะแมททริกซ์, ของว่างอย่างช็อคโกแลต, มันฝรั่งทอด, เทคนิคเลือดของโอโรชิรวมไปถึงปืนสั้น

 

ฟางฉีหมุนวงล้อที่แสดงบนหน้าอินเทอร์เฟซวงล้อหมุนเร็วขึ้นและมันหยุดลงที่มันฝรั่งทอดกรอบ

 

“ แม่ง”

 

ฟางฉีหัวเสียเกือบทุบหัวตัวเอง แต่ไม่มันยังไม่ได้นิ่งสนิทมันค่อยๆย้อยลงๆ เคลื่อนไปข้างหน้า

 

เบี้ป! ท่านได้รับหนังเรื่องเดอะแมททริกซ์]

 

ภารกิจใหม่ : ทางเลือกของอารยธรรม

 

คําอธิบาย : เปิดใช้งานเซียนกระบี่พิชิตมารสาม 4000 ครั้ง,หนังเดอะแมททริกซ์ 1000 ครั้ง 685

 

รางวัล : เกมสตาร์คราฟ2, ห้องฝึกฝน 1 วัน

 

ฟางฉี “ ”

 

สําหรับผู้สมัครบางคนเขาสมัครเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ไม่ได้หวังเพื่อชิงตําแหน่งตั้งแต่แรกส่วนใหญาหลังจากจบการทอดสอบได้รับรางวัลก็เพียงพอแล้วแต่ในส่วนของอัจฉริยะของแต่ละตระกูลนั้นการสอบเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นก่อนหน้ามันก็แค่น้ําจิ้ม

 

แน่นอนอย่างหนานกงที่กําลังถูกลงโทษอย่างไร้สติน่าเสียดายที่หนึ่งในตระกูลเก่าแก่โดนตัดออกไปเขาคือหนึ่งในผู้ถูกตัดสิทธิ์จากการสอบของสํานักสวรรค์

 

“ออกมาเถอะ” ชายหนุ่มกระทืบเท้าเบาๆขณะที่สายตาจับจ้องไปที่จุดหลบซ่อน

 

“ข้ามันโชคร้าย” เสียงแหบห้าวตอบ “ข้าหวังว่าจะมีคู่ต่อสู้ตัวเล็กๆแต่กลับกลายเป็นได้ตัวใหญ่แทน”

 

ถ้าฟางฉีอยู่ตรงนี้ เขารู้ดีว่าเสียงนั่นคือเสียงของถังหยู

 

ขณะเดียวกัน ด้านนอกประตูหลักของสํานักสวรรค์

 

ชายหนุ่มร่างสูงยืนเฝ้าดูสถานการณ์รอบข้างเขาเปล่งออร่าสีม่วงออกมาบ่งบอกถึงพลังสั่งสมมาไม่น้อย

 

ดวงตาของซวนหยุนเบิกกว้างเมื่อพบกับองค์หญิงตัวน้อยสาวชุดน้ําเงินและสองพี่น้องชุดขาว เขียวเดินมาด้วยกัน

 

ชวนหยื่นที่กําลังซุ่มรอโจมตีผู้สมัครคนอื่นๆรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเปลือกตาของเขากระตุก

 

“อ๊ะ เรามาถึงประตูแล้ว!”เจียงเสี่ยวหยูและสหายของเธอตัวแข็งด้วยความประหลาดใจ

 

พวกเขาจ้องมองไปที่หยกสื่อวานในมือของเจียงเสี่ยวหยูที่กําลังสั่น

 

“เราควรจัดการชายคนนี้มั้ย?” จือไปเงยหน้า “พวกเราคนใดคนหนึ่งจะได้ได้ที่หนึ่ง!”

 

น้องไปน้องฉิงเจ้าอยากได้ที่หนึ่งหรอ? เจียงเสี่ยวหยูมองพวกเธอ“เจ้าสามารถเป็นได้นะถ้าเจ้าต้องการเพราะถ้าข้าต้องฝึกฝนกับปรมาจารย์อาวุโสที่นี่มันจะทําให้ข้าไม่มีเวลาเล่นเกม”

 

“เล่นเกม?”

 

“ใช่!” เจียงเสี่ยวหยูพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าเสียเวลาที่จะต้องเล่นเซียนกระบี่พิชิตมารสามไปข้าวางแผนจะเล่นมันทุกหลังเลิกเรียนแต่การสอบของสํานักสวรรค์ก็ทําให้ข้าเสียเวลามาหลายวันแล้ว”

 

“น้องไปข้าบอกเลยนะว่าเซียนกระบี่พิชิตมารนนี้เกมโปรดข้า!”

 

ชวนหยวนเห็นสี่สาวเดินทาง

 

“เจียงเสี่ยวหยู ผ่าน!”

 

“หลุหลันเหลียว ผ่าน!”

 

“จือไป”

 

สําหรับเจียงเสี่ยวหยูเป้าหมายของเธอไม่ใช่ที่หนึ่งและก็ไม่ได้มีใครคาดหวังว่าเธอจะต้องได้เป็นที่หนึ่ง

 

สําหรับเธอแล้วการสอบของสํานักสวรรค์เป็นเพียงสนามรบอีกสนามหนึ่งที่รวมเหล่าปรมาจารย์รุ่นเยาว์อันมีชื่อเสียงจากต่างที่ทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อเรียนรู้ความแตกต่างของกันและกัน

 

ฟ้าร้องดังก้อง …. ดูเหมือนว่าคราวนี้ฝนจะตกลงมาจริงๆ

 

ก้อนเมฆเริ่มก่อตัวเม็ดฝนเม็ดเท่าตั๋วค่อยๆ ตกลงมา

 

ณ นอกสํานักสวรรค์ด้านหนึ่งเต็มไปด้วยแก่นสีม่วงที่พุ่งพล่าน ขณะที่อีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายดูเหมือนสภาพอากาศในเวลานี้ไม่เอื้ออํานวยนักแต่การต่อสู้บางอย่างที่ถูกกําหนดไว้แล้วมันก็ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว

 

ยกเว้นตอนนี้ที่ร้านลูกค้าหลายสิบคนยังคงเฝ้ารอที่จะเล่นคอมพิวเตอร์ หน้าร้านในตอนนี้เต็มไปด้วยน้ําฝน

 

“น้องหยูทําไมเจ้าถึงฝาฝนมาที่ร้านเล็กๆ แบบนี้” สายฝนที่โปรยปรายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

 

“ทําไมถึงไม่มาละ” เขาเอ่ยถามอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก เขาเดินเข้าไปในร้านทันทีด้วยสภาพหัวเปียกตัวขึ้น ข้างหน้ามีคนนั่งเล่นคอมอยู่ไม่กี่คนส่วนในมุมของห้องนั่งเล่นนั้นเต็มไปด้วยผู้คนกําลังมีความสุขกับของกิน

 

เขาตรงเข้าไปพร้อมสั่งขนมตามที่คนอื่นกําลังกิน “เจ้าของทําไมท่านไม่เห็นบอกเลยว่าโค้กนี้สามารถเพิ่มอารมณ์ได้”

 

วันนี้มีลูกค้าเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจากฝนตกแต่นั่นก็ไม่ได้ถึงกับเงียบไปเลย พวกเขายังคงแวะเวียนมาเรื่อยๆ เป็นกลุ่มๆ

 

ม่านฝนด้านนอกยังคงตกไม่มีทีท่าจะหยุด ร่มกระดาษสองอันค่อยๆ ปรากฏขึ้นจนชัดขึ้นคนแรกคือหญิงสาวลัทธิเต๋ในชุดคุลมสีขาว

 

“เสี่ยวหยูนี่คือร้านที่ท่านพูดถึงหรือไม่?” เธอมองเข้าไปในร้าน “หม??” ทําไมวันนี้ในร้านเงียบจังเสี่ยวหยูผลักประตูเข้าไป

 

“เจ้านาย! ข้าพาเพื่อนใหม่มาสองคน! พวกเขาเป็นพี่น้องร่วมชั้นเรียนของข้า” ถ้าเธอสะพายกระเป่าบวกกับท่าทีของเธอในตอนนี้คงคิดว่าเธอเพิ่งเลิกเรียนแล้วรีบมาร้านเกมแน่ๆ

 

“หือ?” เจียงเสี่ยวหยูหันไปที่หน้าจอใหญ่ “วันนี้เจ้าของร้านจะถ่ายทอดสดอะไร?”

 

ณ ร้านค้าในเมืองครึ่ง

 

หลิวหนังหยุน, โมเทียนซิงและคนอื่นๆ มองหน้าจอด้วยความประหลาดใจ “เจ้าของร้านจะถ่ายทอดสดเซียนกระบี่พิชิตมารสามบนจอหรอ?”

 

ฟางฉีที่เล่นเกมทุกวันเขาไม่ได้ทําการถ่ายทอดสดมานานหลังจากมาอยู่ที่นี่ แม้ว่าฟางฉีจะไม่ได้ทําการถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งผู้เล่นใหม่และเก่าก็ไม่ได้มีปัญหาในการทําความเข้าใจในเนื้อเรื่องเท่าไรนัก

 

เรื่องราวของเซียนกระบี่พิชิตมารสามไม่ได้เข้าใจยากเพราะใจหลักของภาคสามนั้นเป็นเรื่องราวที่เล่าย้อนกลับไปก่อนเกิดเรื่องในเซียนกระบี่พิชิตมารหนึ่ง

“หะ? นี่คือจิงเทียนหรอ?”

 

เกมดั่งเดิมเล่าเรื่องความทรงจําเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของตัวละครก่อนหน้า ระบบใส่รายละเอียดเจาะลึกในประวัติของตัวละคร

 

เรื่องราวเป็นเหมือนวัฏจักรที่สมบูรณ์แบบรอวันกลับชาติมาเกิด

 

“นี่… ดูไม่เหมือนจิงเทียนเลย” เจียงเสี่ยวหยูกล่าวด้วยสีหน้างุนงง

 

จิงเทียนมีบุคลิกที่ดื้อรั้นด้วยสภาพแวดล้อมรอบด้านจึงทําให้เขามีลักษณะนิสัยคล้ายกับหลี่เสี่ยวเหยา

 

แต่.. ชายตรงหน้าพวกเขาต่างออกไป เขาสวมชุดเกราะนัยน์ตาของเขาลึกล้ําแม้รูปลักษณ์จะคล้ายจิงเทียนแต่นี้ … มันคนละบุคลิกกันโดยสิ้นเชิง

 

“ท่านกําลังเล่นอะไรอยู่?” ผู้ชมส่งข้อความถาม

 

“ดูเหมือนว่า .. นี่จะเป็นดินแดนเจียงสมัยก่อน”