บทที่ 244 ไม่ได้รักแบบคนธรรมดา

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลังจากคำพูดของหลินจือจบลง เทาเท่ที่อยู่ข้างในยังคงไม่ตอบสนอง เธอได้ยินเพียงเสียงน้ำไหล

หลินจืออดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกชื่อเขา “เทาเท่?”

หลินจือคิดในใจ เขาคงจะไม่ได้จากฝนนานจนหมดสติไปใช่ไหม?

สถานการณ์ตอนนี้น่าอึดอัดมาก ถ้าเขาอาบน้ำแล้วหมดสติไปข้างใน เธอจะช่วยเขาได้อย่างไร?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินจือจึงต้องเคาะประตูอีกครั้งแล้วตะโกนว่า “เทาเท่ คุณโอเคไหม?”

เสียงน้ำข้างในหยุดกะทันหัน เสียงแหบของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง “ยังไม่ตาย”

หลินจือโกรธที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยเช่นนี้ เขาจงใจทำแบบนี้ให้เธอดูเหรอ?

หลินจือไม่อยากจะสนใจเขาเลยสักนิด หลินจือหันหลังออกจากห้องน้ำ

ขณะนั่งรอเทาเท่บนโซฟาด้านนอก หลินจืออดไม่ได้ที่จะบ่นพฤติกรรมที่มากเกินไปในคืนนี้ของเทาเท่กับนานิทางวีแชท

หลังจากฟังแล้วนานิส่งอิโมจิหัวเราะให้เธอหลายอัน แล้วพูดว่า “วันนี้ฝนตกหนักมากจริงๆ ใหญ่เหมือนกับตอนที่เทาเท่ไปตามหาหลินจือที่บ้านตระกูลแม็กซิมัส”

หลินจือพูดไม่ออก แต่เธอเข้าใจโครงเรื่องดี ว่าอะไรวันนี้ฝนตกหนักมากจริงๆ ก็ใหญ่พอๆกับยิปษาที่กลับตระกูลโลคาเพื่อเอาค่าใช้จ่าย มันใหญ่เหมือนกับวันที่โมเดลเลิกกับยูริ

หลินจือไม่คิดว่านานิจะใช้โครงเรื่องนี้มาเปลี่ยนเป็นเทาเท่ พอนึกถึงเทาเท่ที่เมื่อกี้ไปยืนตากฝนทรมานตัวเองก็โกรธจัด “เขาไม่น่ารำคาญธรรมดา! ปัญญาอ่อนด้วย!”

หลังจากที่แขวะเทาเท่เสร็จก็ได้ยินเสียงประตูเปิด เทาเท่แต่งกายอย่างเรียบร้อยเดินเป่าผมออกมา

หลินจือเห็นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะใบหน้าของเทาเท่ดูแดงผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

เธอลุกขึ้นเดินไปหาเขาแล้วถามว่า “ทำไมหน้าคุณแดงจัง?”

ทันทีที่เสียงของเธอลดลง จู่ๆเทาเท่ก็ยกมือขึ้นกอดเธอทั้งตัว แก้มร้อนที่หล่อเหลาของชายหนุ่มแนบลงที่คอเธอ

“หลินจือ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณจริงๆ” น้ำเสียงของเขาฟังดูอ้างว้างมาก หลินจือถึงเพิ่งรู้ว่าที่เสียงของเขาแหบเพราะเขาเป็นไข้

“เทาเท่ คุณเป็นไข้!” หลินจือไม่สนใจฟังสิ่งที่เขาพูด รีบยกมือผลักเขา พยายามดูว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร

เทาเท่ถูกเธอผลัก พอมีไข้สูงก็ทำให้เขายืนไม่มั่นคง จึงล้มลงบนโซฟาข้างๆ ทำเอาหลินจือตกใจ “เทาเท่!”

จอร์แดนและลูน่าที่จะมาถามก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ลูน่าหันไปกำชับกับแม่บ้านว่า “โทรหาหมอประจำครอบครัว ให้เขามาตรวจที่บ้าน”

ข้างนอกฝนตกหนักมาก จึงไม่สามารถส่งเทาเท่ที่กำลังเป็นไข้สูงไปโรงพยาบาลได้ เขาทำได้เพียงแค่รบกวนหมอประจำครอบครัวเท่านั้น

จอร์แดนช่วยหลินจือพยุงเทาเท่ไปนอนบนเตียงในห้องพักแขก หลินจือเอาผ้าขนหนูชุบน้ำวางบนหน้าผากของเทาเท่เพื่อทำให้ร่างกายเย็นลง

หลังจากวุ่นวายอยู่พักใหญ่ๆ จอร์แดนจ้องชายบนเตียงที่สลบไปเพราะมีไข้สูง กัดฟันด้วยความโกรธ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้

เดิมทีเขาตั้งใจจะรอเทาเท่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมา เขาอยากจะสั่งสอนเทาเท่สักยก จากนั้นค่อยไล่เขาไป ใครคิดว่าตอนนี้เทาเท่จะมีไข้สูง ความคิดที่จะไล่เขาไปนั้นก็อับจนหาทางเสียแล้ว

ไม่นานหมอประจำครอบครัวก็มาถึง หลังจากการตรวจจึงวินิจฉัยว่าเทาเท่เหนื่อยจากการเดินทางไกล บวกกับการตากฝนเกือบตลอดทั้งคืน จึงทำให้เป็นหวัดและมีไข้ หลังจากกินยาลดไข้แล้ว เขาก็สั่งยาแก้หวัด

จอร์แดนที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างไม่พอใจ “ชายหนุ่มแข็งแรง แค่ยืนตากฝนแป๊บเดียวกลับมีไข้แล้ว สมรรถภาพทางกายสู้ฉันไม่ได้เลย!”

ไม่ได้มีเพียงจอร์แดนที่ไม่เข้าใจ หลินจือก็ไม่เข้าใจมากๆเช่นกัน

เธอเคยอาศัยอยู่กับเทาเท่มาสามปี ไม่มีใครรู้สมรรถภาพทางกายของเทาเท่ดีไปกว่าเธอ นอกจากเรื่องที่ท้องไม่ค่อยดีเพราะที่เกิดจากการงานทำงานหนักและปฏิสัมพันธ์ในสังคม 365 วันใน 1 ปีเขาแทบจะไม่ป่วยเลย

เธอก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมครั้งนี้เทาเท่ถึงตากฝนแล้วเป็นหวัดมีไข้ได้

พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดไม่มีสิ่งใดเกินกว่าจิตใจตาย จิตใจของเทาเท่ถูกทำลายจนหมดสิ้น ร่างกายจึงย่อมแบกรับไม่ไหว

ตั้งแต่รู้ว่าหลินจือและโนอาห์ใช้เวลาเกือบทั้งเช้าพูดคุยกันในร้านกาแฟอย่างถูกคอ จนถึงเมื่อกี้ที่เขาเห็นโนอาห์จับมือหลินจือ หัวใจของเขาก็ตายไปแล้ว

อยู่โดยปราศจากความรัก

พูดได้อีกอย่างว่าความโกรธเข้าจู่โจมหัวใจจึงมีไข้

หลินจือป้อนยาเทาเท่ ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็ถูกเทาเท่จับมือ ฝ่ามือของชายหนุ่มร้อนมาก ร้อนจนหัวใจของหลินจือสั่นตาม

เธอพยายามดึงมือออก แต่เทาเท่จับมือเธอแน่นแล้วกระซิบ “อย่าไป…”

“อย่าทิ้งฉัน หลินจือ” แม้ว่าเขาจะสะลึมสะลือ แต่เขาอยากรั้งเธอไว้โดยสัญชาตญาณ

จอร์แดนก้าวไปข้างหน้าตบมือของเทาเท่ออกอย่างแรงด้วยความโกรธ จากนั้นดึงมือของหลินจือออกจากฝ่ามือของเขา

“เป็นไข้ก็พักก่อน อย่าคิดว่าเป็นแบบนี้แล้วจะเอาเปรียบลูกสาวฉันได้”

ลูน่าไม่ทันได้ห้ามจอร์แดนไม่ให้ตีเทาเท่ ลูน่าเองก็จนปัญญา เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าจอร์แดนจะมีด้านแบบนี้ด้วย ดูเหมือนว่าทัศนคติของพ่อที่มีต่อลูกสาวจะไม่เหมือนกันจริงๆ

หลินจือเหลือบมองหลังมือเทาเท่ที่ถูกจอร์แดนตีจนแดง แล้วหันกลับมาพูดกับจอร์แดนและลูน่าว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะค่ะ หนูจะอยู่ดูเขาเอง”

จอร์แดนไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ พวกเธอไปพักเถอะ ผมจะอยู่เอง”

จอร์แดนกลัวว่าถ้าหลินจืออยู่คนเดียว แล้วพอเทาเท่ไข้ลด เขาจะรังแกหลินจือ

แต่หลินจือจะปล่อยให้ผู้ใหญ่อย่างจอร์แดนอยู่ดูแลเทาเท่คนเดียวได้อย่างไร เธอยืนกรานให้จอร์แดนและลูน่าไปพักผ่อน จากนั้นลูน่าจึงดึงจอร์แดนกลับไป

“ไม่ว่ายังไง ทั้งสองคนก็ต้องการพื้นที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง” ลูน่าพูดปลอบจอร์แดน “รอให้ไข้ของเทาเท่ลดลงแล้ว ค่อยให้ทั้งสองคนคุยกันเองก่อน จากนั้นพวกเราค่อยทีหลัง”

จอร์แดนทำได้เพียงฟังลูน่า ทั้งสองกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนก่อน

หลินจือนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวที่มุมห้อง สังเกตอาการของเทาเท่ไปด้วย คุยกับนานิไปด้วย

เทาเท่กินยาลดไข้ ถ้าหากอีกสักพักไข้ลดลงก็น่าจะดีขึ้นแล้ว คุณหมอบอกว่าหากไข้ไม่ลดก็คงจะลำบาก เพราะอาจพัฒนาเป็นปอดบวมซึ่งจำเป็นต้องส่งโรงพยาบาล

หลังจากที่นานิรู้ว่าเทาเท่มีไข้สูง เธออดไม่ได้ที่จะทำเสียงจุ๊ๆ “ฉันต้องนับถือจริงๆที่ครั้งนี้แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยเขา นี่เป็นจังหวะที่ได้เข้าถึงห้องชัดๆ”

หลินจือปวดหัวแทบจะตาย “พวกเราก็ไม่สามารถเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาโดยไม่ช่วยได้ เธอคิดว่าเขาต้องการอะไรกันแน่?”

นานิกล่าวว่า “เขาแค่ต้องการจะกลับมาคบกับเธออีกครั้งไง ไม่งั้นพวกเธอทั้งสองก็ลองคุยกันใหม่ดู”

“จะว่าไปแล้วพวกเธอสองคนไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบปกติเลย ไม่ทันไรก็นอนด้วยกัน จากนั้นก็แต่งงาน ขั้นตอนของความสัมพันธ์แบบปกตินั้นพวกเธอทำกลับกันหมด”

หลินจือเม้มริมฝีปากตัวเอง ไม่พูดอะไรอยู่นาน

เธอไม่กล้าจริงๆ ไม่กล้าทุ่มเทความรู้สึกกับเทาเท่อีกครั้ง

หากเธอถูกเขาทำร้ายอีกครั้ง ชาตินี้หัวใจของเธอคงจะพิการไปตลอดชีวิต