ตอนที่ 514 - ความเสียใจของซางฮัน

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

Ep.514 – ความเสียใจของซางฮัน 

 

 

 

 

 

“นั่นเสียงมนุษย์หมาป่า!” สีหน้าของซางฮันหมองลง เอ่ยเสียงหม่น 

 

 

 

 

 

ซางฮันต้องต้านทานการรุกรานของกองทัพสัตว์ร้ายจากป่าหยวนในทุกๆปี ดังนั้นเพียงได้ยิน ก็สามารถแยกแยะ ระบุตัวตนของมันได้ทันที 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงเองก็ได้ยินเสียงนี้เช่นกัน ท่ามกลางความมืดมิด ฝูงสัตว์ร้ายในรูปลักษณ์ครึ่งคนครึ่งสัตว์ปรากฏกายขึ้น  

 

 

 

 

 

สรีระช่วงล่างของมันเป็นหมาป่า ทว่าช่วงบนคือมนุษย์ , ดวงตาสีแดงเลือด แต่ละตัวสูงประมาณ 2.5 เมตร 

 

 

 

 

 

แต่ประเด็นก็คือ หมาป่าเหล่านี้ ทุกตัวล้วนมีระดับอยู่ในเลเวล C ! 

 

 

 

 

 

กล่าวอีกนัยนึงก็คือ ความแข็งแกร่งของพวกมัน เทียบเท่าได้กับเผ่ากริม! 

 

 

 

 

 

แน่นอน ว่าในเครื่องความแข็งแกร่งเท่านั้น สติปัญญาของพวกหมาป่าต่ำต้อยนัก พวกตนเองถูกสังหารไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งคลุ้มคลั่งมากเท่านั้น เลยง่ายต่อการถูกล่อลวงเข้าสู่กับดักของมนุษย์ และสามารถสังหารด้วยอาวุธสมัยใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น 

 

 

 

 

 

แต่สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดของมนุษย์หมาป่าพวกนี้ก็คือ ความสามารถในการสืบพันธุ์ 

 

 

 

 

 

มนุษย์หมาป่าตัวเมียสามารถให้กำเนิดลูกหมาป่าตัวน้อยได้ภายในระยะเวลาสามเดือน , ลูกหมาป่าจะกลายเป็นหนุ่มในช่วงอายุหกเดือน และสามารถออกรบได้ ตราบใดที่มีอาหารเพียงพอ เผ่าพันธุ์ของพวกมันย่อมเติบโต ขยับขยายอย่างรวดเร็ว 

 

 

 

 

 

ในทางกลับกัน มนุษย์กลับต้องใช้เวลาถึง 16 ปี จึงจะสามารถออกรบได้ 

 

 

 

 

 

“ฆ่า!” ซางฮันประกาศคำสั่งเฉียบขาด 

 

 

 

 

 

หลายคนไม่ลังเลใดๆ กระโจนลงจากร่างคิงคอง โฉบกายเข้าสังหารมนุษย์หมาป่าทันที 

 

 

 

 

 

ผู้ใช้พลังเหล่านี้เป็นเลเวล B และการที่สามารถติดตามซางฮันมาได้ ย่อมไม่อ่อนแอ 

 

 

 

 

 

“ผมจะสกัดแนวหน้าให้เอง” ฉินเฟิงควบคุมคิงคองวัชระ ก้าวไปด้านหน้า ปิดกั้นฝูงมนุษย์หมาป่า ใช้กลยุทธล่อปลาเข้าสู่อวน ปล่อยกองทัพส่วนน้อยของมันเข้าไป ให้เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล B แนวหลังคอยจัดการ 

 

 

 

 

 

คิงคองวัชระมีขนาดใหญ่มาก ยามกำปั้นของมันทุบลงบนอกมนุษย์หมาป่า ร่างของศัตรูก็แหลกเป็นชิ้นๆทันที 

 

 

 

 

 

ตกลงสู่ความตาย! 

 

 

 

 

 

ลมหายใจของมนุษย์หมาป่าขาดห้วงไป ขณะเดียวกัน คู่ดวงตาของมันก็สูญสิ้นประกายสีเลือด ฉินเฟิงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าพลังสมาธิกำลังถูกสูบเข้ามาในร่างกายของตน 

 

 

 

 

 

“มนุษย์หมาป่าพวกนี้ สามารถมอบพลังสมาธิให้ฉันได้อย่างงั้นหรอ?” ฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก ต้องทราบนะว่า มีเพียงสัตว์ร้ายไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่สามารถให้ฉินเฟิงดูดกลืนพลังสมาธิได้ และสัตว์ร้ายประเภทนั้น หาได้ยากมาก 

 

 

 

 

 

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันคงต้องฆ่ามันให้หมด!” 

 

 

 

 

 

หากระยะไกลเกินไป ฉินเฟิงย่อมไม่สามารถดูดซับพลังงานได้ ดังนั้นจึงเร่งลงมือสังหารด้วยตัวเอง 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงกระโดดลงจากศพคิงคอง มีดกษัตริย์ครามในมือกวัดแกว่งออกไป 

 

 

 

 

 

ใบมีดตัดเป็นแนวขวาง สะบั้นมนุษย์หมาป่าที่อยู่ใกล้สุดไปหลายตัว 

 

 

 

 

 

“โบร๊ว!” 

 

 

 

 

 

มนุษย์หมาป่าคำรามเกรี้ยวกราด ยื่นกรงเล็บแหลม ฟาดไปทางมีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง 

 

 

 

 

 

กรงเล็บอันแหลมคมของพวกมัน แข็งแกร่งชนิดคงกระพัน ยากต่อการทำลาย ดังนั้น มนุษย์หมาป่าจึงไม่ทันระวังมีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง ไม่ทราบถึงความคมของอาวุธชิ้นนี้ 

 

 

 

 

 

ฉัวะ! 

 

 

 

 

 

เป็นอย่างที่ทุกท่านคิด ใบมีดของฉินเฟิงตัดลงตามแนวเดิม ความเร็วของมันไม่ลดทอนเลยแม้แต่น้อย 

 

 

 

 

 

หนึ่งคมมีดปะทะเข้ากับห้ากรงเล็บ มนุษย์หมาป่าร่วงลงกับพื้น ถูกตัดแยกเป็นสองส่วนในคราวเดียว! 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมันได้อย่างง่ายดาย! ฝูงมนุษย์หมาป่าเมื่อเห็นฉากนี้ ต่างร้องคำรามด้วยความโกรธ  

 

 

 

 

 

พวกมันเพิ่งออกมาจากรอยแยกมิติ แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าต้องมาเผชิญกับการโจมตีและถูกไล่ล่าเช่นนี้ 

 

 

 

 

 

“โบร๊ววว!” มนุษย์หมาป่าเปล่งเสียงหอนลากยาว 

 

 

 

 

 

“โบร๊ววว โบร๊ววว โบร๊ววว โบร๊ววว” มนุษย์หมาป่าตัวอื่นพากันหอนตาม เสียงสะท้อนดังไกลออกไปราวไม่มีที่สิ้นสุด 

 

 

 

 

 

ใบหน้าของซางฮันกลายเป็นหนักอึ้ง ผู้ใช้พลังเลเวล B อีกสี่คนก็เช่นกัน แต่ละคนตื่นตัว พร้อมรับมือกับการโจมตีจากทุกทิศทาง 

 

 

 

 

 

นี่เพิ่งรอยแยกมิติแรกเท่านั้น พวกเขาก็ต้องเผชิญกับสิ่งที่มีชีวิตที่อันตรายถึงขนาดนี้แล้ว ไม่อาจทราบได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 

 

 

 

 

 

แต่ไม่นาน ผู้ใช้พลังเลเวล B กลับพบถึงความผิดปกติ 

 

 

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น? ฝูงมนุษย์หมาป่ามีตั้งมากมาย แต่ทำไมพวกเราถึงไม่รู้สึกถึงความกดดันเลย” 

 

 

 

 

 

“นี่ไม่ถูกต้อง” 

 

 

 

 

 

“หรือว่าเป็นเพราะสองคิงคองวัชระ?” 

 

 

 

 

 

ยังไงก็ตาม แม้พวกเขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เหล่าเลเวล B ก็ยังยินดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ เพราะมันช่วยให้รับมือกับศัตรูง่ายขึ้น 

 

 

 

 

 

ท่ามกลางการต่อสู้ สิ่งสำคัญที่สุดคือห้ามฟุ้งซ่าน เลยเป็นธรรมดาที่เหล่าเลเวล B จะไม่ทันสนใจฉินเฟิงที่คอยต่อสู้อยู่ในแนวหน้า ล่าสังหารอย่างโหดเหี้ยม 

 

 

 

 

 

ก่อนฉินเฟิงจะเดินทางมาเมืองเป่ยหัว เขาเคยต่อสู้กับเผ่ากริมในหลงฉวนโดยลำพังมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนเกิดใหม่ ฉินเฟิงยังมีประสบการณ์ในสงครามครั้งน้อยใหญ่ ต่อกรกับสัตว์ร้ายมาแล้วเกือบทุกประเภท และประเภทอย่างฝูงมนุษย์หมาป่าก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรมากมาย ดังนั้นไม่อาจก่อภัยคุกคามใดๆต่อเขา 

 

 

 

 

 

แต่ละคมมีดโบกสะบัดอย่างรวดเร็ว! 

 

 

 

 

 

กลิ่นอายของเลือด สาดกระจายไปหยุดยั้ง 

 

 

 

 

 

หลังได้ยินเสียงหอน ท่าทีของมนุษย์หมาป่าเริ่มเปลี่ยนไป ดวงตาของแต่ละคนที่แดงอยู่แล้ว แดงยิ่งกว่าเดิม ขนตามร่างกายลุกชัน ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า 

 

 

 

 

 

ตรงกันข้ามกับฉินเฟิง แม้เผชิญกับฉากตรงหน้า ทว่าหางคิ้วของเขากลับไม่แม้จะขยับ มีดกษัตริย์ครามในมือเหวี่ยงสะบัด ระเบิดกระบวนท่าวรยุทธออกมา 

 

 

 

 

 

“มีดเปลวเพลิง!” 

 

 

 

 

 

ในพริบตา เปลวไฟลุกโชน ยืดขยายจากใบมีดยาวกว่า 10 เมตร วาดออกไปเป็นแนวนอน มนุษย์หมาป่ากว่าสิบตัวที่อยู่ภายใต้คมมีดนั้น ถูกหั่นครึ่งทันที 

 

 

 

 

 

“เทคนิคก้าวมังกร!” 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงดีดผึงเข้าไปในตำแหน่งฝูงมนุษย์หมาป่าที่เพิ่งตายลง เริ่มอาละวาดอีกครั้ง โบกสะบัดคมมีดเปลวเพลิงที่ยาวกว่า 10 เมตรอีกครา 

 

 

 

 

 

มนุษย์หมาป่าเมื่อเห็นฉินเฟิง ก็นึกว่าเป็นอาหารโดยธรรมชาติ พวกมันกรูกันเข้าหาเขา กางกรงเล็บอันแหลมคมฟาดเข้าใส่ 

 

 

 

 

 

เอี๊ยดดดด! 

 

 

 

 

 

เสียงเสียดสีดังบาดหู ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงสั่นไหวชั่วขณะ ก่อนกลับคืนสู่ความสงบดังเดิม 

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน มนุษย์หมาป่ากว่า 4 – 5 ตนที่อยู่รอบตัวเขา และกำลังโถมโจมตี กลับนิ่งงันไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย 

 

 

 

 

 

“ตายซะ” 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงหมุนตัว กรีดคมมีดที่ลุกไหม้ผ่านเป็นวง พริบตานั้นศีรษะของมนุษย์หมาป่าโดยรอบถูกสะบั้น ตัดขาดจากลำตัวทันที 

 

 

 

 

 

ช่วงเวลานี้ ฝูงมนุษย์หมาป่าราวกับฝูงแกะแสนเชื่อง และฉินเฟิง คือหมาป่าที่กระโจนเข้าใส่ฝูงแกะ 

 

 

 

 

 

เพียงไม่กี่อึดใจ ฝูงมนุษย์หมาป่าเบื้องหลังฉินเฟิงก็ถูกกำจัดจนสิ้น เมื่อไร้ศัตรู ศพหุ่นเชิดคิงคองก็แน่นิ่งไป 

 

 

 

 

 

สี่เลเวล B แต่ละคนเพิ่งจัดการมนุษย์หมาป่าได้คนละ 4 – 5 ตัว ยังหลงคิดว่าสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ช้าฝูงมนุษย์หมาป่าทั้งหมดก็ถูกทำลาย  

 

 

 

 

 

ระหว่างการสังหารหมู่ในครั้งนี้ เสียงหอนของมนุษย์หมาป่า ค่อยๆเลือนหายไป 

 

 

 

 

 

จากนั้น เปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคิงคองวัชระ 

 

 

 

 

 

มันลุกโชน แผดเผาทุกสิ่ง จากนั้น ปรากฏแก่นสัตว์ร้ายขนาดเท่าก้อนกรวด ลอยตามอากาศ มาตกอยู่ในมือของบุคคลคนหนึ่ง มิใช่ใครอื่น เป็นฉินเฟิง 

 

 

 

 

 

สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ ทั้งหมดมักจะมีแก่นพลังอยู่ในตัว แต่เกือบทั้งหมดเป็นแค่แก่นทหารสัตว์ร้ายเลเวล C เท่านั้น ลูกหนึ่งมากสุดคงขายได้สัก 5 ล้าน แต่ในที่นี้มีมากกว่า 400 แก่น ฉะนั้นคงได้เงินสักราวๆ 2,000 ล้าน 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินเพียงเท่านี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาจัดการ ฉินเฟิงเก็บพวกมัน ไว้ค่อยให้ซูซิงฝูเอาไปขายทีหลัง 

 

 

 

 

 

แม้จะไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตัวเอง แต่ก็ยังสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังได้รับผลงานและชื่อเสียง 

 

 

 

 

 

การลงมือของฉินเฟิง ทำให้เลเวล B หลายคนตกใจ 

 

 

 

 

 

“ผู้การฉิน ฝูงมนุษย์หมาป่าตายหมดแล้วหรือ?” ผู้ใช้พลังเอ่ยถาม 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงเอ่ยตอบคำหนึ่ง “ตายหมดแล้ว” 

 

 

 

 

 

แสงจากเปลวเพลิงได้หายไป ความมืดมิดมาเยือนอีกครั้ง แต่ปัจจุบัน พวกเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่านอกจากขี้เถ้าบนพื้นแล้ว ก็ไม่หลงเหลืออะไรอยู่อีกเลย 

 

 

 

 

 

ฉากเบื้องหน้า เล่นเอาคนเหล่านี้อึ้งจนพูดไปออกไปพักหนึ่ง 

 

 

 

 

 

ซางฮันก้าวเข้ามา เธอไม่อาจคำนวณได้จริงๆ ว่าฝูงมนุษย์หมาป่าก่อนหน้านี้ มีจำนวนเท่าไหร่ 

 

 

 

 

 

“ภารกิจนี้ มีรางวัลพิเศษให้ เช่นเดียวกับการล่าในหุบเหวตอนเหนือ เนื่องจากมีระดับอันตรายที่สูง ดังนั้นคะแนนจึงเพิ่มเป็นสองเท่า! … ว่าแต่คุณสังหารไปกี่ตัวกัน?” 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงกล่าว “มีแก่นสัตว์ร้ายทั้งหมด 435 ก้อน!” 

 

 

 

 

 

ซางฮันเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ยชม “ยอดเยี่ยม” 

 

 

 

 

 

ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมสมาชิกทีมคนอื่นๆถึงไม่รู้สึกกดดัน เพราะพวกมนุษย์หมาป่าตัวอื่นๆ มันไม่ได้ถอย แต่ถูกฉินเฟิงชิงสังหารไปนั่นเอง 

 

 

 

 

 

ด้วยความเร็วในการล่าที่ฉับไวเกินไป ทำให้คนอื่นๆยังไม่ทันตระหนักได้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น 

 

 

 

 

 

ส่วนเลเวล B คนอื่นๆ ต่างรู้สึกเหลือเชื่อเกินจะทำใจ 

 

 

 

 

 

มีเพียงซางฮันเท่านั้น ที่อยากตบปากตัวเอง ว่าไม่น่าพ่นคำเมื่อครู่ออกมาเลย 

 

 

 

 

 

‘จะบอกยังไงดี รู้สึกเหมือนว่าครั้งนี้ ฉันคงต้องกรีดเลือดตัวเองจ่ายรางวัลจริงๆซะแล้ว!’ 

 

 

 

 

 

“ไปต่อเถอะ” ซางฮันกล่าวทั้งน้ำตา เธอทำได้เพียงเร่งออกสำรวจ และหวังว่าจะไม่ได้พบเจอกับสัตว์ร้ายที่ทรงพลังเกินไปอีก