การต่อสู้ระหว่างซวนหยวนจื่อกวงกับหลิงฮันยังไม่ทันจะเริ่ม ยิ่นเฉวยางก็ลงมือหยุดทั้งสองคนเอาไว้
“ในวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง เจ้า เจ้า และเจ้าสามารถนำคนออกไปจากเมืองนี้ได้” ไป๋หยวนชี้ไปยังหลิงฮัน เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและคนอื่นๆที่ชนะศิษย์ของนิกายพันศพ เมื่อพูดจบมันก็รับเดินจากไปทันที การพ่ายแพ้ราบคาบในครั้งนี้ทำให้มันอับอายเป็นอย่างมาก
“ยางน้อย ทำไมถึงปล่อยมันหนีไปล่ะ?” หญิงชราปรากฏตัวอย่างเงียบงัน มือของนางถือลูกแก้วเอาไว้ รูปลักษณ์ของนางดูแก่ชราเป็นอย่างมาก แต่ผู้ใดที่จ้องมองนางจะรู้สึกราวกับว่ากลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวของนางจะทำให้จิตใจของพวกเขาระเบิดออก ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าหญิงชราคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
“พี่สาวหม๋า แม้พวกเราจะร่วมมือกัน แต่จะสามารถจัดการทหารซากศพระดับสูงเจ็ดตัวได้รึ?” ยิ่นเฉวยางถาม
หญิงชรากลายเป็นไร้คำพูด ยิ่งจอมยุทธของนิกายพันศพที่ระดับพลังสูงขึ้น จำนวนของทหารซากศพที่สามารถควบคุมได้ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะตัวตนสุดแข็งแกร่งอย่างไป๋หยวน เขาสามารถควบคุมทหารซากศพได้ถึงเจ็ดตัว
ยิ่งกว่านั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าทหารซากศพของไป๋หยวนอยู่ในระดับใด หากเป็นระดับสวรรค์ขั้นต่ำนั้นไม่มีปัญหา หากเป็นระดับสวรรค์ขั้นกลางก็ยังพอรับมือได้ แต่ถ้าหากเป็นระดับสวรรค์ขั้นสูงล่ะก็… คงต้องให้ตัวตนระดับทลายมิติเป็นคนจัดการอย่างเดียว
แต่ถึงแม้ไป๋หยวนจะจากไปแล้ว แต่บริเวณรอบบริเวณเมืองก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบอาคมสังหารที่สี่ อีกไม่นานเมืองหมื่นสมบัติจะกลายเป็นเศษฝุ่นที่เหลือทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์
มีตำแหน่งเท่าไหร่กันที่สามารถออกไปจากเมืองนี้ได้?
หลิงฮันมีตำแหน่งเก้าสิบคน ฮูหนิวเก้าสิบ เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหนึ่งร้อย ซวนหยวนจื่อกวงสิบ และผังเซี่ยงหมิงอีกสิบ แต่เขาขอปฏิเสธไป
จากจำนวนทั้งหมดหนึ่งร้อย เรียกได้ว่าหลิงฮันครอบครองถึงหนึ่งร้อยแปดสิบตำแหน่ง
ในเมื่อไป๋หยวนได้สาบานต่อสวรรค์เอาไว้แล้ว ดังนั้นมันต้องไม่กลับคำพูดแน่นอน
แน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ต้องการตำแหน่งเหล่านั้น ความคิดหนึ่งจึงผุดขึ้นมาในหัวของหลิงฮัน ‘ประมูล!’
เมื่อตกกลางคืน ตำหนักสมบัติวิญญาณก็จัดงานประมูลรอบพิเศษขึ้น นั่นคือการประมูลแย่งหนึ่งร้อยแปดสิบตำแหน่งในการหลบหนีออกจากเมือง
หลิงฮันไม่ต้องการเหรียญเงินหรือทอง เขารับเพียงแค่ผลึกก่อเกิดสามดาวเท่านั้น แต่ถ้าหากใครต้องการจ่ายด้วยผลึกก่อเกิดระดับสี่หรือห้าดาว เขาก็ไม่ปฏิเสธ
ราคาต่อหนึ่งตำแหน่งเริ่มต้นที่ผลึกก่อเกิดระดับสามหนึ่งร้อยก้อน หลังจากผ่านการประมูลอย่างดุเดือด ราคาต่อหนึ่งตำแหน่งที่ถูกที่สุดคือห้าร้อยสามสิบผลึก ซึ่งตำแหน่งที่แพงที่สุดคือตำแหน่งสุดท้ายที่ถูกประมูลไปด้วยราคาหนึ่งพันเจ็ดร้อยผลึก
เมื่อหักค่าธรรมเนียมของตำหนักสมบัติวิญญาณแล้ว หลิงฮันได้รับผลึกก่อเกิดสามดาวมาเกือบสองแสนผลึก ซึ่งทำให้เขายิ้มแทบไม่หุบ
หลังจากบรรลุระดับบุปผาผลิบานมา ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาก็ลดลง แต่ด้วยผลึกก่อเกิดสามดาวมากมายขนาดนี้ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ผลึกก่อเกิดทั้งหมดที่ได้มาหลิงฮันเก็บเอาไว้ในหอคอยทมิฬและพาพวกจูเสวียนเอ๋อออกไปกินดื่มที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
หลังจากดื่มกันเสร็จ หลิงฮันที่นอนไม่หลับก็ไปเดินเล่นที่ริมทะเลสาบโดยมีเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนติดไปด้วย มือหนึ่งของนางจับแขนเสื้อหลิงฮันในขณะที่อีกหนึ่งมือถือก้อนหินเอาไว้
เมื่อเดินไปได้สักพัก พวกเขาก็เห็นเงาดำเงาหนึ่งยืนอยู่ตรงริมทะเลสาบ มือนึงของเขากำลังถือน้ำเต้าสุราเทลงไปในทะเลสาป กลิ่นหอมนวลที่สุราจากน้ำเต๋าปล่อยออกมา ทำหลิงฮันรูขุมขนของหลิงฮันเปิดออกอย่างรู้สึกผ่อนคลาย
สุราชั้นเลิศสำหรับจอมยุทธ!
สีหน้าของหลิงฮันเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดาย “พี่ชาย สุราที่ยอดเยี่ยมเช่นนั้น ทำไมถึงได้เททิ้งล่ะ?”
ชายคนนั้นหันมามองหลิงฮัน แต่เมื่อสายตาของเขาชำเลืองผ่านไปยังเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ท่าทีของเขาก็กลายเป็นชะงักเล็กน้อย แต่ก็กลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
เขาหัวเราะและโยนขวดน้ำเต้ามาทางหลิงฮัน “งั้นก็เชิญดื่ม!”
หลิงฮันคว้าน้ำเต้าเอาไว้ เขาสัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของสุรานี้ได้ทันที ร่างกายของเขาเบาหวิวราวกับขนนก เมื่อจ้องลงไปในน้ำเต้า เขาพบว่าสีของสุรานั้นเป็นสีทองอร่าม
ด้วยความรู้ของปรมาจารย์นักปรุงยา หลิงฮันสามารถบอกถึงส่วนผสมของสุรานี้ได้ทันที “เห็ดหลินจือจันทราม่วง ผลพันวายุ ผลจิตวิญญาณบริสุทธิ์ ดอกมิติไร้บึ้ง… นี่คือสุราวานร!”
สุราวานร… มันคือสุราที่เกิดจากอสูรวานรในตำนานเก็บรวบรวมสมุนไพรหายากมาหมายมาบ่มเป็นสุรา ไม่เพียงแค่สุราจะมีรสชาติอร่อยและกลิ่นหอม แต่มันยังเป็นยาบำรุงชั้นเลิศสำหรับจอมยุทธอีกด้วย สุราวานรมีอยู่หลายระดับตามวัตดุดิบที่อสูรวานรในตำนานใช้บ่ม แต่สุราวานรในขวดน้ำเต้านี้ตือสุราวานรระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่หลิงฮันในชีวิตที่แล้วก็ไม่เคยได้ลิ้มลอง
มีคำกล่าวว่าแค่เพียงหนึ่งหยดของสุราวานรก็มีค่ามากแล้ว แม้คืนนี้หลิงฮันจะได้รับผลึกก่อเกิดมามากมาย แต่เงินจำนวนเหล่านั้นก็ไม่สามารถใช้ซื้อสุราวานรได้แม้แต่หยดเดียว
“โอ้ ข้าไม่คาดคิดเลยว่ารุ่นเยาว์เช่นเจ้าจะมองวัตถุดิบที่ใช้บ่มสารุวานรออก?” ชายผู้นั้นประหลาดใจเล็กน้อย ภายใต้แสงจันทร์นี้ ร่างของเขาดูยิ่งใหญ่ราวกับภูผาที่แม้ท้องฟ้าจะตกลงมาเขาก็ยังแบกรับเอาไว้ได้
หลิงฮันมองไม่เห็นพลังบ่มเพาะของชายวัยกลางคนผู้นี้แม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือเมืองหมื่นสมบัติ หากจะมีตัวตนระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดโผล่ออกมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“พี่ชาย สุราขวดนี้มีค่ามากเกินไป ข้าไม่กล้าดื่มมัน” หลิงฮันยิ้มและโยนขวดน้ำเต้าคืนชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนหัวเราะ “ในเมื่อเจ้ารู้ถึงความล้ำค่าของสุรานี้ งั้นก็เชิญดื่ม!” เขาโยนน้ำเต้ากลับมาให้หลิงฮัน น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยความกล้าหาญและจริงใจ
หลิงฮันไม่ลังเลและตอบกลับไป “ขอบคุณ!”
หลิงฮันยกน้ำเต้าและเทสุราเข้าปาก เพียงแค่อึกเดียวสุรานี้ก็ทำให้เขารู้สึกตาลาย เนื่องจากสุรานี้เต็มไปด้วยพลังงานที่อัดแน่น ดังนั้นแม้แต่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณหรือก้าวสู่เทวาก็ยังมึนเมาได้ง่ายๆ
แต่หลิงฮันนั้นมีเศษเสี้ยวสัมผัสสวรรค์ของจอมยุทธระดับสวรรค์ แถมสัมผัสสวรรค์ของเขายังถูกเสริมแกร่งโดยศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายมาแล้วด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่เมาง่ายๆ
หลังจากเช็ดปากแล้ว หลิงฮันก็โยนขวดน้ำเต้าคืนให้กับชายวัยกลางคน “พี่ชาย ข้าคืนให้”
ชายวัยกลางคนรับขวดน้ำเต้ากลับมา เมื่อมองดูภายในน้ำเต้า สีหน้าของเขาก็ราวกับจะร้องไห้ สุราในน้ำเต้าถูกหลิงฮันดื่มไปครึ่งนึงเลย
“หืม? เจ้าดื่มสุรานี่ไปแล้วแต่ยังไม่เมางั้นรึ!” ชายวันกลางคนอุทานออกมา