ตอนที่ 701 มังกรสวรรค์ล้างโลกา
หลงเย่ว์ยังไม่ได้เปิดการโจมตีใดแม้เพียงครั้งต่อฉินหยุน กลับกัน
นางเพียงแต่ยืนนิ่งเฉยบนลานประลองยุทธ์อย่างเงียบงัน ออร่าใด
ล้วนไม่มีหลุดออกจากร่าง
ฉินหยุนไม่อาจทราบว่าหลงเย่ว์ผู้นี้คิดทำอะไร
“นี่นางใช่เย่ว์เหม่ยหรือไม่ใช่กันนี่?” ฉินหยุนยิ่งมายิ่งไม่มั่นใจ ทั้งยัง
ทำให้เขาไม่สะดวกใจที่จะออกกระบวนท่า
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยมักซุกซนและก่อปัญหาไปทั่ว นางต้องจงใจสร้าง
เรื่องราวยุ่งยากแก่ฉินหยุนที่นี่เป็นแน่
“เสี่ยวหยุน หากเจ้าไม่เอาชนะนาง เจ้าก็ต้องสูญเสียสองต้นกำเนิด
เซียนนะ” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “พลังกาลอวกาศของนางเป็นพลังที่
ลึกลับยิ่ง”
ฉินหยุนอยู่ห่างจากหลงเย่ว์กว่าสิบเมตร ฉับพลันเขาจึงใช้งานดัชนี
ทะลวงขุนเขาแยกปฐพี ลำแสงสีดำปะทุออกจากปลายนิ้วพร้อมพุ่ง
ตรงเข้าทะลวงทุกสิ่งอย่าง ความเร็วของมันมากล้น
กระนั้น เมื่อพลังดัชนีรุนแรงปะทะกับร่างหลงเย่ว์ ราวกับมันจมดิ่งสู่
ห้วงลึก มันไม่มีแม้เสียงใดปรากฏ
“ดัชนีทะลวงฟ้าที่เป็นวิชายุทธ์สวรรค์ชั้นเลิศ หลงเย่ว์ผู้นั้นยังต้านรับ
ไว้ได้ง่ายดายเพียงนี้!” เจี้ยนรั่วหยานตื่นตะลึง นางสูดลมหายใจเข้า
ลึก “ฉินหยุนเผชิญคู่ต่อสู้อันตรายเข้าให้แล้ว!”
เชี่ยวเย่ว์หลานพยักหน้ารับ “หลงเย่ว์ผู้นี้ นางใช้พลังอันใดกันแน่?
นางถึงขั้นต้านรับการโจมตีทรงพลังของฉินหยุนไว้ได้ง่ายดาย!”
ขณะนางกล่าวคำจบ หลงเย่ว์จึงโบกแขนเสื้อเบามือพร้อมปล่อย
ลำแสงสีดำออกมา!
นี่คือดัชนีทะลวงขุนเขาแยกปฐพีที่ฉินหยุนเพิ่งใช้โจมตีไปเมื่อครู่!
ฉินหยุนเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงหลบเลี่ยงไปด้านข้าง ลำแสงสี
ดำเคลื่อนผ่านเชือดปลายเสื้อของเขา เผาไหม้ผิวหนังไปเล็กน้อย
หลงเหลือไว้เป็นรอยแดง
ที่หน้าอกของฉินหยุน มันหลงเหลือรอยแผลไหม้สีแดงก่ำเอาไว้
ควันสีดำยังคงลอยออกมา หากเขาหลบไม่ทันเวลา เช่นนั้นคงโดน
ทะลวงผ่านหัวใจเป็นแน่
“นี่นางดูดกลืนพลังอะไรเข้าไปก็ได้?”
ฉินหยุนแทบไม่อาจเชื่อ เขาตัดสินใจโจมตีออกด้วยห้าฝ่ามือมังกร
สัมบูรณ์ ฝ่ามือวูบไหวพลันกรีดร้องคำรามเข้าปกคลุมร่างหลงเย่ว์
ลานประลองสั่นสะท้าน พลังฝ่ามือนี้ทะลักล้นทั่วทุกแห่งหนราว
คำรามอย่างเกรี้ยวกราด เป็นผลให้ทั้งลานประลองยุทธ์ต้องสั่นไหว
ไม่หยุด
กระนั้น เพียงฝ่ามือโบกสะบัด มันไหลเข้าไปในร่างของหลงเย่ว์
ก่อนจะหายวับ
ลานประลองกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้งหนึ่ง
ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของฉินหยุน ไม่อาจทำอันตรายใดแก่หลงเย่ว์
ชุดคลุมของหลงเย่ว์เพียงพลิ้วไหว จากนั้นมวลพลังฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
จึงปรากฏพร้อมโหมโจมตีใส่ฉินหยุน
ฉินหยุนย่อมเตรียมรอรับอยู่ก่อน ร่างกายทะลักล้นด้วยออร่าสีดำ เขา
ให้วิญญาณยุทธ์สั่นไหวผนวกรวมกับร่างกายตนเอง ใช้งานความ
สามารถเทวะแผ่นดินไหวเข้าสลายพลังฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
เขากลายเป็นรู้สึกราวกับไร้พลัง หากคู่ต่อสู้เพียงแค่หลบหรือสกัด
ต้านรับเอาไว้ อย่างนั้นก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ทว่าหลงเย่ว์ผู้นี้ นางดูดกลืนพลังทุกชนิดที่เขาปลดปล่อยออกไป
จากนั้นจึงปล่อยมันกลับคืนมาทำร้ายตัวผู้ใช้วิชา
“เสี่ยวหยุน เป็นนางใช้พลังกาลอวกาศหยุดพลังโจมตีของเจ้าเอาไว้
จากนั้นนางจึงผนึกเอาไว้ในห้วงมิติ แล้วค่อยย้อนการไหลของกาล
อวกาศ ปลดปล่อยพลังของเจ้าออกไปยังทิศทางที่มันพุ่งมา!”
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “กล่าวได้ว่านางใช้พลังนี้ได้เชี่ยวชาญอย่างดี!”
ผู้คนต่างมองหลงเย่ว์บนลานประลองยุทธ์ พวกเขาหารือกันด้วย
เสียงที่ไม่อาจเชื่อต่อเรื่องราว
หลงเย่ว์ยังไม่ได้โจมตีใดออก นางเพียงแค่ส่งคืนการโจมตีของฉิน
หยุนกลับไปก็เท่านั้น
กระนั้น ขั้นตอนกลับประหลาดและลึกลับจนเกินไป ทำให้ผู้คนยาก
จะทราบว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกันแน่
“หลงเย่ว์ไม่โจมตี เห็นได้ชัดว่านางปรามาสต่อฉินหยุน และให้เขา
เป็นฝ่ายที่ใช้พลังออกมา!”
“ฉินหยุนที่แข็งแกร่ง แต่อยู่ต่อหน้าหลงเย่ว์กลับไร้ซึ่งพลัง หลงเย่ว์ผู้
นี้น่าสะพรึงกลัวนัก! เหมือนว่าแคว้นมหาดวงดาวคงไม่มีทางเอาชนะ
แคว้นมังกรทะยานฟ้าได้!”
“หากฉินหยุนไม่อาจหาทางแก้ไข เขาย่อมต้องพ่ายแพ้! ต้นกำเนิดเซียน
ทั้งสองที่เขาเพิ่งได้รับมาจะถูกส่งต่อ นี่ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!”
“ต้นกำเนิดเซียนเป็นเรื่องภายนอก ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตรอด นั่น
ต่างหากจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า!”
ผู้คนด้านนอกลานประลองยุทธ์ล้วนเชื่อ ว่าฉินหยุนเผชิญสถานการณ์
เลวร้ายยิ่งเข้าให้แล้ว
ราชันแคว้นมู่ตะโกนดัง “หลงเย่ว์ โจมตีมันอย่าได้ลังเล สังหารฉิน
หยุนเสีย!”
หลงเย่ว์คล้ายไม่รับฟังคำของราชันแคว้นมู่ นางเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่ทราบ
ว่านางได้มองที่ฉินหยุนหรือไม่ กระนั้นเวลานี้ผู้คนต่างเกิดความสงสัย
ว่าภายใต้หน้ากากนั้นปิดซ่อนใบหน้าใดเอาไว้กันแน่
ราชันแคว้นมู่ยิ่งมายิ่งร้อนใจจนตะโกนซ้ำ “หลงเย่ว์ นี่ไม่ใช่เวลามา
แสดงความอ่อนโยนใจดีของเจ้า เร่งรีบสังหารมันได้แล้ว!”
ครึ่งเซียนตระกูลหลงตะโกนดัง “หลงเย่ว์ เร่งรีบลงมือ!”
เจี้ยนหนันหู่ขมวดคิ้วกล่าว “ผู้ที่เคยสู้กับหลงเย่ว์ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต
กระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไม่!”
เจี้ยนรั่วหยานเอ่ยคำ “อย่างนั้นหมายความถึงนางจะไม่สังหารฉินหยุน?”
ด้านบนลานประลอง ฉินหยุนพยายามโจมตีหลงเย่ว์ด้วยพลังหลาก
หลายอย่าง ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นศูนย์ เขากระทั่งบาดเจ็บเพราะพลัง
ของตนเองด้วยซ้ำ
กรงเล็บราชสีห์สวรรค์สับฟันทะยานออก เมื่อมันปะทะผ่านอากาศ
เข้าปะทะกับร่างของหลงเย่ว์ อย่างกะทันหัน ที่ด้านหลังของเขากลับ
ปรากฏกรงเล็บขึ้นมา ฝากรอยแผลเอาไว้ที่แผ่นหลังอย่างไม่ทันที่เขา
จะรู้ตัว
หลงเย่ว์ควบคุมมิติสับเปลี่ยนกรงเล็บราชสีห์สวรรค์ให้ย้อนกลับไป
ปรากฏที่เบื้องหลังของเขา
ฉินหยุนถึงขั้นเกิดความสะพรึงกลัว เขารู้สึกว่าราวกับหลงเย่ว์กำลัง
หยอกล้อต่อตนเองอยู่
ไม่เช่นนั้น หากการโจมตีก่อนหน้านี้ของเขาปรากฏที่ด้านหลังใน
ระยะใกล้ เขาจะไม่มีทางต้านรับพวกมันเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
ผู้คนของตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าต่างร้อนรน พวกเขา
โกรธเกรี้ยวไม่น้อยเพราะหลงเย่ว์ไม่ยอมโจมตีปลิดชีพฉินหยุน
ตอนนี้ ผู้คนของแคว้นมหาดวงดาวต่างได้ตระหนัก ว่าที่หลงเย่ว์ไม่
โจมตีก็เพราะนางถนัดการต่อสู้เช่นนี้
เพียงยืนบนลานประลอง ส่งการโจมตีของคู่ต่อสู้กลับคืนไป ทำให้
พวกเขาหมดสิ้นสภาพจนไม่อาจสู้ต่อได้โดยพลังของตนเอง จน
สุดท้ายก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้
“คิดบังคับให้ข้ายอมรับความพ่ายแพ้หรือ?” ฉินหยุนสูดลมหายใจ
ลึกพร้อมหลับตา
เมื่อครู่ เขาได้ยินเสียงสนทนาด้านนอกลานประลองยุทธ์ ครั้งงาน
ประลองยุทธ์ที่แคว้นมังกรทะยานฟ้า หลงเย่ว์ผู้นี้ใช้วิธีการเช่นเดียวกัน
นี้เอาชนะคู่ต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงค่อยได้ตระหนัก ว่าหลงเย่ว์ไม่มีทางใช่
เซี่ยวเย่ว์เหม่ย
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหลงเย่ว์คิดปล่อยให้เขาชนะ แต่เรื่องราวคล้าย
ไม่ใช่ เพราะหลงเย่ว์ถนัดการต่อสู้เช่นนี้ต่างหาก
ฉินหยุนหลับตา นึกย้อนถึงวิชายุทธ์โทเทมภายในจิตใจ
เขาไม่เคยใช้วิชายุทธ์โทเทมนี้มาก่อน เนื่องด้วยมันเป็นสิ่งที่เขาเพิ่ง
ได้รับมา
สิ่งนี้คือวิชายุทธ์โทเทมมังกรที่หลงเฉียวเฟิงส่งมอบต่อมาให้ รู้จัก
กันในนามวิชาลับมังกรสวรรค์
“ในอดีต เผ่าพันธุ์มังกรได้ถูกราชสีห์สวรรค์มีชัยเหนือกว่า กระนั้น
ความพ่ายแพ้นั้นก็เป็นเพียงต่อราชสีห์สวรรค์กลุ่มเล็ก เผ่าพันธุ์มังกร
อย่างไรแล้วก็มีพลังอำนาจโดยรวมอันแข็งแกร่งคงอยู่”
“ด้วยเหตุนี้ แม้ผ่านกาลเวลายาวนานหลายปี พวกเขาก็ยังคงมีตัวตน
ในเก้าแดนอ้างว้าง หากเผ่าพันธุ์มังกรไม่มีกำลังถึงระดับหนึ่ง พวก
เขาก็คงต้องสูญพันธุ์ไปเฉกเช่นเผ่าพันธุ์ราชสีห์สวรรค์!”
ตอนนี้ ฉินหยุนคิดใช้วิชายุทธ์โทเทมมังกร
ขณะลืมตาขึ้น นัยน์ตาของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นสีทอง อักขระโท
เทมสีทองเจิดจ้าส่องสว่าง มันคือโทเทมมังกร!
ฉินหยุนคำรามเสียงทุ้มลึกพร้อมยกฝ่ามือขึ้นฟ้า เสียงมังกรคำรามดัง
สนั่น ราวกับฟากฟ้ายังต้องยอมเบิกกว้างแยกออกก่อนจะถล่มลงมา
สู่เบื้องล่าง!
มังกรทองคำโปร่งแสงฉับพลันได้ทะยานลงจากเบื้องบน เป้าหมาย
คือศีรษะของหลงเย่ว์
วิชายุทธ์โทเทมมังกรนี้มีนามว่า มังกรสวรรค์ล้างโลกา
ร่างจำแลงมังกรทองคำแผดเสียงคำรามร้องเคลื่อนคล้อยจากฟากฟ้า
มันเข้าปะทะกับร่างหลงเย่ว์ ส่งผลให้ทั้งลานประลองยุทธ์ต้อง
สั่นสะเทือนไม่อาจหยุด เสียงระเบิดปะทุดังกึกก้องสนั่นทั่ว
พลังอำนาจการโจมตีระดับนี้ เป็นผลให้เข่าของหลงเย่ว์ต้องงอลง
เล็กน้อย มันแทบให้นางต้องคุกเข่าลงกับพื้น
มือทั้งสองของนางผลักออก ส่งถ่ายพลังล้างโลกาอันชวนสะพรึงนั้น
ไปยังสถานที่อื่นในลานประลองยุทธ์
ได้เห็นฉินหยุนเผยกระบวนท่านี้ ผู้คนของตระกูลหลงต่างต้องตระหนก
“นั่นคือมังกรสวรรค์ล้างโลกา ฉินหยุนมันไปเรียนมาจากที่ใดกัน?”
ราชันยุทธ์จากตระกูลหลงอุทานร้องดัง
“นี่เป็นวิชาลับอันเป็นที่สุดของพวกเราตระกูลหลง มันไม่เคยมีการ
ส่งต่อสู่บุคคลภายนอก เพียงส่งต่อแต่บุรุษ สตรีไม่อาจได้รับวิชานี้ มี
แต่ตำราสวรรค์จึงบันทึกวิชาลับมังกรสวรรค์นี้เอาไว้ และเป็นไปไม่ได้
ที่จะเรียนรู้มันเว้นแต่จะก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ!” ครึ่งเซียนตระกูล
หลงเผยสีหน้าเคร่งเครียด “ผู้ใดเผยแพร่วิชาลับมังกรสวรรค์ออกสู่
ภายนอก!?”
“ฉินหยุนหาได้ใช่บุตรหลานตระกูลหลงของเราไม่ กระนั้นกลับ
เชี่ยวชาญวิชาลับมังกรสวรรค์ พวกเราต้องอย่าปล่อยให้มันได้รอด
ชีวิต!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าเผยเสียงเย็น
เยือก
หลงเย่ว์ในที่สุดค่อยเผยท่าทีของความกดดัน นี่ก็เพราะพลังล้างโลกา
สามารถบิดเบือนมิติ มันทำลายม่านพลังกาลอวกาศของนางได้
โดยตรง ส่งผลให้นางไร้ซึ่งทางเลือก มีแต่ต้องปลดปล่อยพลังกาล
อวกาศที่แข็งแกร่งมากขึ้น
พลังล้างโลกาปะทะกับพื้นลานประลองยุทธ์จนเกิดขึ้นเป็นหลุม
ขนาดใหญ่ยักษ์
ลานประลองยุทธ์มีม่านพลังที่แข็งแกร่ง มันสามารถดูดกลืนและ
สลายพลังอันแกร่งกล้านานาชนิดเอาไว้ได้
กระนั้น พลังล้างโลกานี้ถึงขั้นสามารถทะลวงผ่านม่านพลัง ทำการ
บดขยี้พื้นที่ภายนอกของลานประลองยุทธ์
ฉินหยุนใช้พลังมหาศาลเพื่อปลดปล่อยวิชายุทธ์นี้ออก กล่าวได้ว่า
เขาแทบใช้พลังงานในแก่นเต๋าทั้งสองจนแห้งเหือด ทว่าเขาก็ยังมี
พลังงานในแก่นเต๋าที่สามและภายในกระดูกคงอยู่ โดยรวมแล้ว มัน
มีพลังมากมายทัดเทียมสี่แก่นเต๋า!
การใช้พลังงานมหาศาลออกในครั้งนี้ แม้เป็นเขาก็ถือเป็นภาระครั้ง
ใหญ่
“หลงเย่ว์ บุคคลภายนอกเช่นฉินหยุนผู้นี้ มันได้เชี่ยวชาญวิชาลับของ
ตระกูลหลง มันต้องถูกสังหาร เจ้าจงเลิกเมตตาต่อมันแล้วสังหารมัน
เสีย!”
“ฉินหยุน เจ้าไปฉกชิงเรียนรู้วิชาลับมังกรสวรรค์นี้มาจากที่ใด? เจ้า
ทราบหรือไม่ว่าการได้เรียนรู้วิชาลับมังกรสวรรค์นี้ ตัวเจ้าจะมี
สถานะเป็นศัตรูต่อพวกเราทั้งตระกูลหลง?!”
“หลงเย่ว์ สังหารฉินหยุนเสีย!”
ผู้คนของตระกูลหลงด้านนอกลานประลองยุทธ์เริ่มร้องตะโกน
เปาเฉิงโฉ่วและเจี้ยนสือเทียนต่างทราบ ว่าวิชาลับมังกรสวรรค์ของ
ตระกูลหลงเลิศล้ำเพียงใด ทว่าที่พวกเขาไม่อาจเข้าใจ คือฉินหยุนไป
เรียนรู้มันมาได้อย่างไร
แม้เป็นยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำของตระกูลหลง คิดเรียนรู้วิชา
ลับมังกรสวรรค์ยังไม่ใช่เรื่องง่าย
“มังกรสวรรค์ล้างโลกาก็ยังไม่พอ!” ฉินหยุนเพียงแต่รู้สึกว่าคนของ
ตระกูลหลงเหล่านี้น่ารำคาญไม่น้อย
หลงเย่ว์เมินเฉยผู้คนของตระกูลหลงด้านนอกลานประลองยุทธ์ นาง
ยังเอาแต่ยืนนิ่งรอให้ฉินหยุนเปิดฉากโจมตี
ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมคำราม ฝ่ามือผลักออก บอล
พลังงานโปร่งแสงพลันทะยานออกจากฝ่ามือ
บอลพลังงานได้แปรเปลี่ยนเป็นร่างเงามังกรโปร่งแสง เป้าหมายคือ
หลงเย่ว์
ในพริบตา มันเข้าปกคลุมหลงเย่ว์ กาลอวกาศรอบกายนางฉับพลัน
ต้องบิดเบี้ยวเกิดขึ้นเป็นรอยแยกสีดำปรากฏ
“มังกรล้างกาลอวกาศ!” ครึ่งเซียนตระกูลหลงพลันร้องออกด้วย
ความสะพรึงกลัว
หลังปลดปล่อยกระบวนท่านี้ ฉินหยุนจึงใช้งานมังกรสวรรค์ล้าง
โลกาอีกครั้งหนึ่ง ร่างมังกรสีทองร่วงโรยจากฟากฟ้าเข้าปะทะกับ
ร่างของหลงเย่ว์
พื้นที่มิติรอบกายหลงเย่ว์บิดเบี้ยวไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้นางไม่
อาจใช้พลังกาลอวกาศไปชั่วครู่ ดังนั้น ร่างของนางจึงต้องโดนปะทะ
ด้วยพลังล้างโลกา
ตู้ม!
เสียงดังสนั่นบังเกิด มวลเมฆแสงสีทองเป็นรัศมีกระจายทั่วทิศ หลง
เย่ว์ในที่สุดก็ถูกโจมตีเข้าจนได้
ฉินหยุนนั่งกับพื้นคล้ายเป็นอัมพาต สีหน้านั้นซีดเซียวราวคนตาย
มังกรล้างกาลอวกาศเมื่อครู่แทบผลาญพลังในกายเขาจนหมดสิ้น
ผู้อื่นได้แต่จับจ้องอย่างตื่นตะลึง โดยเฉพาะบรรดาครึ่งเซียน พวกเขา
พบว่าเป็นเรื่องราวยากเกินจะเชื่อที่ฉินหยุนสามารถเชี่ยวชาญเคล็ด
วิชาลับของตระกูลหลงได้!
ผู้คนของตระกูลหลงยิ่งมีโทสะ พวกเขาคิดปรารถนาขึ้นบนลาน
ประลองยุทธ์ประหารฉินหยุนเสียที่นี่
หมอกสีทองบนลานประลองยุทธ์ค่อยกระจายตัว
หลงเย่ว์นอนกับพื้น ขณะที่ฉินหยุนยังคงนั่ง!
“ข้ายอมแพ้!” น้ำเสียงหยาบกร้านเล็กน้อยของหลงเย่ว์เผยออก
กระนั้น ฉินหยุนก็ยังคิดว่าตนเองค่อนข้างคุ้นเคย แม้ตัวเขาไม่ทราบ
ว่าเพราะสาเหตุใดก็ตาม