เทาเท่มองริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจของหลินจือ แล้วหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เธอไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น และเขาเองก็จะไม่ให้เธออยู่อย่างสบายใจได้เช่นกัน
ยิ่งเธอไม่อยากเจอเขา เขายิ่งต้องมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเธอ
ตอนที่เขาปฏิเสธจะเป็นหุ้นส่วนกับเบลซ เขาไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เมื่อเรื่องพ่อแม่ของเขาถูกเปิดโปง เขาต้องถูกโจมตีอย่างแน่นอน ฉะนั้นต้องหายสาบสูญจากทุกคนไปสักระยะ สำหรับเขานี่เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ซึ่งเวลาว่างนานๆ แบบนี้ เขาจะได้ถือโอกาสตามจีบหลินจือ
หลินจือรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงหัวเราะชอบใจของเทาเท่ และนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเพิ่งจูบตัวเองอย่างป่าเถื่อนไปเมื่อครู่ จึงยกมือขึ้นผลักเขาออกทันที “เอาตามที่คุณชอบเลย รีบกลับไปที่ของคุณเดี๋ยวนี้”
เทาเท่ปล่อยให้เธอผลักอยู่สองสามครั้งโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จากนั้นโน้มตัวลงกดคนใต้ร่างเอาไว้อีกครั้ง แล้วประกบจูบลงไปเช่นเดิม
เรื่องจูบ เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ และขณะนี้เทาเท่กำลังอยู่ในอารมณ์เช่นนั้น
เขาต้องการมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ
จูบของเทาเท่ทำให้หลินจือเคลิบเคลิ้ม หญิงสาวยกมือขึ้นโอบคอชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ
การกระทำของเธอ เท่ากับว่าตอบสนองต่อเทาเท่ในทางอ้อม ชายหนุ่มจึงกระชับอ้อมกอดให้แนบชิดและกดจูบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
หลินจือค่อยๆ หลับตาลง ใครบางคนต้องยอมรับอย่างสิ้นท่า ว่าเธอไม่อาจปฏิเสธความแนบชิดทางกายของเทาเท่ได้เลย
ช่วงเวลาขณะนั้น ความคิดหลินจือมองทะลุเห็นถึงอะไรบางอย่าง เธอคิดว่าผู้ชายอย่างเทาเท่คนนี้ หากเพียงได้มีความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่ใช้หัวใจกับเขา ก็ถือเป็นการเสพสุขอีกอย่างหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มกำลังพยายามเลื่อนลงไปด้านล่าง เธอจึงจับมือเขาเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “เทาเท่ เรามาคุยกันหน่อย”
เทาเท่ไม่อยากคุยอะไรทั้งสิ้น เขาเพียงแค่ดำเนินการต่อไปอย่างไม่สนใจเธอ
เมื่อสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธความใกล้ชิดของเขาอย่างเมื่อก่อน หากเขายังจู่โจมเธอต่อไป คืนนี้คงได้ครอบครองเธอเป็นแน่
แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกเคารพความต้องการของเธอ เขาค่อยๆ คลายกำลังออกจากเอวบางของหญิงสาว ยับยั้งชั่งใจแล้วเอ่ยถามเธอว่า “คุยเรื่องอะไร”
หลินจือหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองไปที่ดวงตาของเทาเท่ “เราไม่ได้พูดถึงเรื่องความรัก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแต่งงาน เพียงแค่มีความสัมพันธ์กันทางกายเท่านั้นไม่ใช่หัวใจ ได้ไหม”
เทาเท่แทบลมจับ “งั้นคุณจะเอาผมในฐานะอะไร”
เพียงแค่มีสัมพันธ์กันทางกายไม่ใช่หัวใจงั้นเหรอ
น่าผิดหวังที่เธอพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมาได้!
หลินจือหลับตาลงแล้วเอ่ยด้วยท่าทางเยือกเย็น “ถ้าคุณไม่ต้องการก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คุณไปได้แล้ว”
ตอนนี้เธอใช้หัวใจกับเทาเท่ไม่ได้เด็ดขาด และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยหากเธอต้องมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาดันทุรังมาโดยตลอด
เมื่อก่อนหลินจือเคยคิด บางทีเทาเท่อาจจะเพียงแค่อยากนอนกับเธอเท่านั้น เมื่อทุกอย่างจบลงบางทีเขาอาจไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธออีก ดังนั้นเธอจึงคิดข้อเสนอนี้ขึ้นมา
และในใจของหลินจือยังมีอีกจุดประสงค์หนึ่ง เทาเท่เป็นคนเย่อหยิ่งอย่างมาก หากเธอแนะนำให้เพียงแค่มีอะไรกันโดยไม่ต้องเป็นอะไรกัน เทาเท่ต้องรู้สึกอับอาย พาลโกรธจนหลังจากนั้นเขาก็จะไม่มียุ่งกับเธออีก เธอคงได้หลุดพ้นเสียที
หลังจากที่เธอไล่เขาอย่างไร้ความปรานี มือของเทาเท่ก็กอดรัดเอวเธอแน่นอีกครั้ง ราวกับว่าจะหักเอวบางของหญิงสาวหักเป็นสองท่อน
ไม่ต้องพูดถึงความรัก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งงาน เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอัปยศที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาของเทาเท่
แล้วมันแตกต่างจากการมีอะไรกับพวกเที่ยวกลางคืนตรงไหน?
ความถือตนของเทาเท่ถูกเหยียบย่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มากเสียจนทำให้เขาจ้องหลินจืออย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินจากไป แล้วกระแทกประตูห้องเธอปิดอย่างแรง
หลินจือที่ถูกเขาทิ้งไว้บนโซฟาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
แผนการสำเร็จ ในที่สุดเธอก็กำจัดเขาได้
ไม่เช่นนั้นเมื่อเขาหยุดงานขึ้นมาจริงๆ คงได้ตามหลอกหลอนเธอไปทั้งวันทั้งคืนเป็นแน่ และเธอคงต้องรำคาญเขาแทบกระอักเลือดตาย
เมื่อจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อย หลินจือหันตัวกลับขึ้นไปชั้นบนและนอนหลับพักผ่อนใหม่อีกครั้ง
ครั้นกำลังเคลิ้มหลับ ทันใดนั้นเกิดเสียงบางอย่างเคลื่อนไหวที่ตรงระเบียง เธอเคยมีประสบการณ์จากการถูกลอบจู่โจมของเทาเท่เมื่อครั้งก่อน หลินจือจึงล็อกประตูกระจกระหว่างระเบียงและห้องน้ำเอาไว้จากด้านใน เพื่อปกป้องไม่ให้เทาเท่ลอบเข้ามาได้อีกครั้ง
“เปิดประตู!” น้ำเสียงเย็นชาของเทาเท่ดังออกมาจากด้านนอก หลินจือสะลึมสะลือลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูให้เขา
เขาไม่ได้โกรธหรอกเหรอ
ทำไมจู่ๆ ถึงโผล่มาอีกล่ะ
ทันทีที่ประตูเปิดออก หลินจือพลันถูกเทาเท่สวมกอดทันที เธอร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ “คุณจะทำอะไร”
นัยน์ตาสีเข้มของเทาเท่จ้องมองเธอ แล้วตอบว่า “ข้อเสนอของคุณเมื่อครู่ ผมยอมรับ”
หลินจือ “…”
แล้วตอนนี้เธอต้องจบอย่างไร
เธอคิดว่าเทาเท่จะทนรับความอัปยศนี้ไม่ได้ ผลลัพธ์กลับกลายว่าตอนนี้เขายอมรับมันได้เสียอย่างนั้น…
ขณะที่เธอกำลังชะงักงันด้วยความประหลาดใจ เทาเท่เตะประตูปิด แล้วโยนเธอลงบนเตียง จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มกลั่นแกล้งเธอ
ที่เทาเท่กลับไปเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาจะกลับไปอาบน้ำ เพราะบนตัวเขาฟุ้งไปด้วยกลิ่นครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชาย
ตอนที่ริมฝีปากของเขาจุมพิตลงมา หลินจือรีบยกมือขึ้นผลักชายหนุ่มด้วยตัวเนื้อสั่นเทา “แต่ แต่ฉันไม่ได้บอกว่าให้เริ่มคืนนี้สักหน่อย”
ตอนนี้หลินจือขัดขวางไว้ได้เพียงชั่วคราว เทาเท่กล่าวขึ้นอย่างเงียบขรึม “ค่ำคืนนี้ยังอีกนานยาว ทำไมไม่เริ่มตั้งแต่คืนนี้เลยล่ะ”
พูดจบชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลินจือดิ้นรนเถียงข้างๆ คูๆ เขากดเธอลงบนเตียง ทำให้เธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืน
หลินจือไม่รู้ว่าตัวเองผ่านคืนนี้มาได้อย่างไร เธอรู้เพียงแค่ว่าร่างกายตัวเองในตอนนั้นพังทลายไม่มีชิ้นดี
ระหว่างนั้นเธออ้อนวอนเขาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งแรกเขาตอบกลับมาว่า “ในเมื่อเป็นความสัมพันธ์กันทางกาย ผมก็ต้องทำคุณพึงพอใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้”
ครั้งที่สอง “ได้โปรดยกโทษให้ความบ้าคลั่งของผู้ชายคนหนึ่งที่ห่างหายมานานนับปี เวลาเพียงชั่วคราวแบบนี้มันคงไม่พอ”
หลินจืออยากจะฆ่าเขาให้ตาย
ค่ำคืนแห่งความบ้าคลั่งและร้อนแรง กระทั่งนาฬิกาปลุกในวันรุ่งขึ้นหลินจือจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
เธอขยับเล็กน้อยเพราะต้องการพลิกตัว ร่างกายที่ระบมไปทั้งตัวทำให้เธอเปล่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด
นอกจากครั้งแรกกับเทาเท่ในตอนนั้น เธอก็ไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับใครอีกเลย ตอนนั้นเพราะทั้งคู่ต่างดื่มยาเข้าไป จึงบ้าคลั่งกันอย่างสุดเหวี่ยง
แต่เรื่องเมื่อคืนล่ะ
เมื่อคืนพวกเขามีสติสัมปชัญญะกันทั้งคู่ แต่เทาเท่ก็ไม่ต่างอะไรจากคนบ้า
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงผู้ชายดังขึ้นที่ระเบียงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้หลินจือตื่นตกใจ
ทันใดนั้นเธอพลันได้สติกลับมา เทาเท่กำลังนอนอาบแดดอยู่ที่ระเบียงบ้านของเธอ
หลินจือไม่อยากสนใจเขา จึงปิดตาลงแล้วแสร้งทำเป็นหลับต่อไป
อย่างแรก ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเทาเท่เมื่อกลายมาเป็นแบบนี้แล้วเธอไม่รู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างไร และที่สำคัญคือ ความคิดนี้เธอเป็นคนเสนอขึ้นมาเอง ตอนนี้หากเธอขอไม่รับผิดชอบและบอกว่ามันไม่สมเหตุสมผลจะได้หรือไม่
อย่างที่สอง เธอกำลังโกรธเขา โกรธที่เมื่อคืนเขารุนแรงกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้น
หัวใจของหลินจือจึงระเบิดออกมาเสียไม่ได้ เขาอยากฆ่าเธอให้ตายคาเตียงเลยใช่ไหม
ดวงตาที่กำลังปิดสนิทราวกับมีเงาดำบดบังลงมาตรงหน้า จากนั้นริมฝีปากของเธอพลันถูกฝีปากของชายหนุ่มประจบลงมา
หลินจือเบิกตาโพลงด้วยความโกรธ ครั้นจะดิ้นรนขัดขืนร่างกลับถูกลงกดบนเตียงอีกครั้ง เพราะเทาเท่คร่อมตัวลงมาอย่างไร้ยางอาย ประกบจูบยาวนานยากที่เธอจะปฏิเสธได้
หลินจือ “…”