เซียวเหยี่ยนก็อยากพาหลิงอวี้จื้อไปทำงานด้วย แต่เรื่องนี้อันตรายเกินไป เขาไม่อยากให้หลิงอวี้จื้อรู้ว่าเขาไปทำอะไร และพาเธอไปด้วยไม่ได้ ได้แต่รีบจัดการเรื่องให้เสร็จด้วยตนเองแล้วรีบกลับมา
หลิงอวี้จื้อทานอาหารเย็นที่พระตำหนักของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เสร็จแล้วจึงกลับจวน เซียวเหยี่ยนไม่วางใจ ต้องไปส่งเธอกลับด้วยตัวเองให้ได้
หลิงอวี้จื้ออยู่ในอ้อมแขนของเซียวเหยี่ยนตลอดทาง เธออยากแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนเร็วๆ แล้ว กลางคืนอยากนอนหลับในอ้อมแขนของเซียวเหยี่ยน อุ๊ย ฉากหลังจากนั้นคิดต่อไม่ได้แล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเขิน
เห็นหลิงอวี้จื้ออยู่ดีๆ ก็แก้มแดงขึ้นมา รอยยิ้มก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของเซียวเหยี่ยน เขาพูดเสียงต่ำและแหบพร่า
“อวี้จื้อ เจ้าร้อนหรือไม่”
“ข้า…ข้าร้อนนิดหน่อยเพคะ”
“เจ้ากำลังคิดอะไรกันแน่”
มือที่ค่อนข้างเย็นของเซียวเหยี่ยน จับหน้าของหลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อไม่กล้ามองหน้าเซียวเหยี่ยนเลย ได้แต่รู้สึกเขินอายมาก น่าอายจริงๆ อยู่ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนแท้ๆ
“ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”
เซียวเหยี่ยนอดใจไม่ไหวก้มลงจูบริมฝีปากหลิงอวี้จื้อ เธอพบว่าเซียวเหยี่ยนชอบจูบเธอมาก เหมือนจูบอย่างไรก็ไม่พอ เขามีลักษณะราวกับนักพรต แต่ความจริงแล้วคนละเรื่อง ต่อไปเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่รู้ว่าจะขออะไรมากไปหรือเปล่า ถึงตอนนั้นยังไม่รู้ว่าร่างเล็กๆ ของเธอจะรับมือไหวหรือไม่
ตายแล้ว ตัวเองคิดชั่วอีกแล้ว
“อวี้จื้อ ก่อนวันตรุษจีน ข้าจะต้องกลับมาแน่นอน ถึงตอนนั้นเราจะอยู่ข้ามคืนด้วยกัน ดีหรือไม่”
“ข้าจะรอท่าน”
หลิงอวี้จื้อกอดเซียวเหยี่ยนแน่น เอาหน้าซุกอ้อมแขนเซียวเหยี่ยน ต้องทำให้เธออบอุ่นไว้ เธอไม่อยากให้เซียวเหยี่ยนเห็นว่าเธอหูแดงหน้าแดงไปหมดแล้ว
เซียวเหยี่ยนจูบหน้าผากหลิงอวี้จื้อแล้วจึงปล่อยให้หลิงอวี้จื้อกลับไป หลิงอวี้จื้อโบกมือให้เซียวเหยี่ยน สาวเท้าวิ่งอย่างเร็ว
เห็นหลิงอวี้จื้อวิ่งเร็วขนาดนี้ เซียวเหยี่ยนก็อารมณ์ดีอย่างยิ่ง อดหัวเราะไม่ได้ แม่สาวน้อยคนนี้บางครั้งก็ตลกดี ปฏิกิริยาเมื่อครู่ตลกมาก
หลิงอวี้จื้อกลับมาที่ห้อง นอนเหยียดบนเตียง ซุกหน้าเข้าไปในผ้าห่ม ตนเองทนไม่ไหวหัวเราะออกมา เดี๋ยวจะไม่ได้เจอเซียวเหยี่ยนหนึ่งเดือน แต่ละวันช่างน่าเบื่อจริงๆ
หลิงอวี้จื้อนอนเล่นในผ้าห่มสักครู่ หรูเยียนก็ยกซุปรังนกพุทราแดงหนึ่งถ้วยเข้ามา เธอชอบกินของหวาน เธอชอบดื่มซุปของหวานหนึ่งถ้วยทั้งกลางวันและตอนเย็น นี่เป็นรายการผลิตภัณฑ์ความงามของเธอ
หลิงอวี้จื้อออกมาจากผ้าห่มแล้วดื่มซุปรังนกพุทราแดง เมื่อไม่เห็นมั่วชิง จึงถามไปตามเรื่อง
“มั่วชิงล่ะ”
“ชิวจวี๋ได้ยินว่ามั่วชิงรู้เรื่องการรักษาโรค จึงสนใจอย่างยิ่ง กำลังตามตื๊อให้มั่วชิงสอนนางอยู่เจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อไม่ได้ถามอะไรอีก ไม่นานก็ดื่มซุปรังนกพุทราแดงหมด หรูเยียนยกถ้วยออกไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งมา เตรียมตัวจะอ่านแล้วค่อยนอน หรูเยียนเดินนำสาวใช้ตัวน้อยคนหนึ่งเข้ามา สาวใช้คนนี้อยู่ในเรือนของลู่ชิงชิง หลิงอวี้จื้อเคยเจอ จึงจำได้รางๆ
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ลู่อี๋เหนียงเรียนเชิญท่านไปพบสักหน่อยเจ้าค่ะ”
สาวใช้พูดอย่างเคารพนอบน้อม
“เหตุใดวันนี้เจ้าจึงมาเชิญข้า ชิวเอ๋อร์ล่ะ”
“พี่ชิวเอ๋อร์มีธุระ ลู่อี๋เหนียงจึงให้บ่าวมาเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า
“เข้าใจแล้ว อีกประเดี๋ยวข้าไป เจ้ากลับไปก่อนเถิด!”
“ลู่อี๋เหนียงยังรอคุณหนูใหญ่อยู่ ตั้งตารอให้คุณหนูรีบไปสักหน่อยเจ้าค่ะ”
ฝากประโยคนี้ไว้แล้ว สาวใช้ก็ถอยออกไป
หลิงอวี้จื้อกลัวว่าลู่ชิงชิงเกิดเรื่องอะไร ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เดินไปทางเรือนของลู่ชิงชิง เรือนของลู่ชิงชิงก็อยู่ไม่ไกลจากเรือนของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พาหรูเยียนไปด้วย เดินไปตามลำพัง
เดินไปถึงครึ่งทาง หลิงอวี้จื้อก็หยุดเดิน สะบัดหน้าอย่างแรง นี่มันผิดปกติ เหตุใดอยู่ๆ ถึงได้เวียนหัวเช่นนี้