ตอนที่ 2056 สำนึกทั้งหลายตกตะลึง (4) / ตอนที่ 2057 สำนักทั้งหลายตกตะลึง (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2056 สำนึกทั้งหลายตกตะลึง (4)

“ข้าจะกินเจ้าค่ะ” หั่วหั่วไม่ลังเล “การบรรลุถึงขั้นเซียนที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องง่ายและข้าก็ไม่ได้อยากเป็นเซียนที่แท้จริง! ข้ายินดีกินผลไม้นี้เจ้าค่ะ”

“เข้าใจแล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงยื่นผลไม้ให้หั่วหั่ว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็กินตอนนี้เลย”

หั่วหั่วพยักหน้าอย่างไม่ลังเลแล้วกินผลไม้เข้าไป ศักยภาพของนางนับว่าน่าประทับใจและเมื่อมีผลเขฬะมังกรมาช่วย ทั้งนางและปี้เซียวก็ผ่านด่านเป็นเซียนอาวุโส

“อวิ๋นเซียว ท่านช่วยข้าเก็บผลไม้ทั้งหมดบนต้น ตอนนี้ข้าจะช่วยตระกูลอวิ๋นกับตระกูลจวินเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขา!”

น่าเสียดายที่จวินเฟิ่งหลิงและเยี่ยจิ่งเฉินไม่ได้อยู่ที่นี่…ไม่อย่างนั้นด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาก็อาจจะผ่านด่านขั้นเซียนจักรพรรดิได้

เมื่อออกมาจากโลกคัมภีร์เซียนโอสถ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ส่งหั่วหั่วไปแจ้งให้ทุกคนมารอนางที่ห้องโถง หลังจากที่ถ่ายทอดคำสั่งแล้ว นางและอวิ๋นเซียวก็เดินช้าๆ ไปที่ห้องโถง

ตอนนี้ทั้งห้องโถงกำลังอึกทึกได้ด้วยกิจกรรมต่างๆ จวินหลิงเทียนและผู้เฒ่าอวิ๋นกำลังสนทนากันด้วยสีหน้าคล้ายจะร้องไห้ เมื่อเห็นบุรุษหล่อเหลาและสตรีงดงามกำลังเดินเข้ามา ทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบสนิททันที

“เฟิงเอ๋อร์ เสี่ยวเอ๋อร์ พวกเจ้ามาแล้วหรือ” จวินหลิงเทียนเผยรอยยิ้มขณะที่ดวงตาเป็นประกายอ่อนโยน “พวกเจ้าต้องการพบพวกเราเร่งด่วนแบบนี้ มีบางอย่างที่พวกเจ้าอยากปรึกษางั้นหรือ”

อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่แล้วมองอวิ๋นลั่วด้วยรอยยิ้ม “ท่านปู่ เมล็ดพันธุ์ที่ข้าปลูกอยู่พึ่งจะออกผล ข้าตั้งใจจะให้ท่านได้ลิ้มลองเสียหน่อย”

หลานสาวของข้าปลูกต้นไม้งั้นรึ

ดวงตาของผู้เฒ่าอวิ๋นเป็นประกาย สำหรับเขาแล้วไม่ว่าอะไรที่หลานสาวของเขาเอาออกมาไม่เคยเป็นของธรรมดา ดังนั้นตอนที่อวิ๋นลั่วเฟิงยื่นมือออกมา ผู้เฒ่าอวิ๋นก็กระโจนเข้าไปหานางราวกับหมาป่าหิวโซ เขารีบกัดผลไม้นั้นทันทีโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าผลไม้นี้ให้ผลอย่างไร

ผลไม้นี้กลิ่นหอมมาก และน้ำจากผลไม้ก็ไหลไปทั่วปากของเขา

ผู้เฒ่าอวิ๋นปิดปากแล้วกลืนผลไม้ลงไปโดยไม่ลังเล เขามีสีหน้าพึงพอใจ “ผลไม้นี้อร่อยมาก เจ้ามีอีกหรือไม่ เอามาหาข้าอีกสักหน่อย”

ไม่คาดว่าพายุแห่งการเติบโตจะปรากฏออกมาด้วยเสียงอันดังจนทำให้ทุกคนตะลึง…

พายุยังคงพัดอย่างต่อเนื่องและไม่มีท่าว่าจะหยุด สุดท้ายเขาก็ผ่านด่านขั้นเซียนทันที!

ใช่แล้ว ผู้อาวุโสอวิ๋นพัฒนาเป็นขั้นเซียนแล้ว!

เรื่องนี้ทำให้เขาตกใจจนโง่งม เขาไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้วจ้องอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างจนปัญญา คนอื่นไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้แล้วทุกคนก็ลุกขึ้นยืน

จวินหลิงเทียนพูดตะกุกตะกักเพราะความตื่นเต้น “นี่…ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนงั้นหรือ ผู้เฒ่าอวิ๋นผ่านด่านขั้นเซียนงั้นหรือ ใช่แล้ว เป็นเซียน…”

ผู้ฝึกฌานขั้นเซียน? เกิดอะไรขึ้นกันแน่

พรสวรรค์โดยกำเนิดของผู้เฒ่าอวิ๋นไม่ได้แข็งแกร่งหรืออ่อนด้อย ถึงแม้ว่าในอดีตพลังของเขาจะอ่อนแอแต่นั้นเป็นเพราะเขาเติบโตในพื้นที่ล้าหลังอย่างแผ่นดินหลงเซียว เมื่อรวมกับอายุของเขาทำให้เขาไม่มีความมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนต่อ

ถ้าเขาเกิดในแคว้นเฟิงอวิ๋น ขั้นสูงสุดที่เขาจะไปถึงก็คือขั้นเซียน!

พูดให้ชัดเจนก็คือสถานที่ล้าหลังอย่างแผ่นดินหลงเซียวขัดขวางไม่ให้แสดงศักยภาพแต่กำเนิดของเขาออกมา

“นี่คือผลเขฬะมังกร และผลของมันก็คือสามารถปลดปล่อยศักยภาพของท่านโดยไร้ขีดจำกัด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าศักยภาพแต่กำเนิดของท่านสามารถผ่านด่านไปได้ถึงขั้นไหน!” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “แต่ว่าเงื่อนไขก็คือท่านจะไม่สามารถผ่านด่านไปได้ไกลกว่านี้อีกตลอดชีวิต ดังนั้นท่านก็ตัดสินใจเอาเองว่าจะกินผลไม้นี้หรือไม่”

ตอนที่ 2057 สำนักทั้งหลายตกตะลึง (5)

ทุกคนตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของนาง

สิ่งที่อวิ๋นลั่วเฟิงหมายถึงก็คือ…พวกเขาเองก็มีโอกาสได้กินผลเขฬะมังกรนี้ใช่หรือไม่

เทียบกับสีหน้าตื่นเต้นของคนอื่น อวิ๋นชิงหย่ากลับขมวดคิ้ว อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงทั้งหลายใช้ช่วงหลายวันมานี้ ทำให้เขายิ่งมุ่งมั่น

“เฟิงเอ๋อร์ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเราจะลดน้อยลงหรือไม่ถ้าพวกเราใช้ผลไม้นี้ช่วยให้ผ่านด่าน” เขาอธิบายต่อราวกับกลัวว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร “ยกตัวอย่างเช่น ท่านปู่ใช้ผลไม้นี้เพื่อผ่านด่านเป็นเซียนแล้วจะทำให้เขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่คนระดับเดียวกันเพราะใช้ตัวช่วยจากภายนอกหรือไม่”

ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากกินผลไม้…แต่ว่าคำพูดต่อมาของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ทำลายความสงสัยของเขา

“ท่านน้า ท่านสบายใจได้ ในการต่อสู้ความแตกต่างระหว่างพลังโดยการใช้ผลไม้นี้กับการผ่านด่านปกติไม่ต่างกันมาก ข้อเสียอย่างเดียวก็คือ ท่านจะไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านั้นไม่ว่าในอนาคตท่านจะฝึกฝนมากแค่ไหนเพราะศักยภาพของท่านถูกปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว”

คำพูดของนางทำให้อวิ๋นชิงหย่าโล่งอกแล้วรอยยิ้มเบาบางก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา

“ข้าอยากกินผลไม้นี้”

อันที่จริงอวิ๋นลั่วเฟิงก็พอเดาคำตอบทุกคนของทุกคนได้

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือความแข็งแกร่ง มีแต่ต้องแข็งแกร่งให้เพียงพอเท่านั้น พวกเขาถึงจะป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ไม่ให้เกิดขึ้น!

ศักยภาพแต่กำเนิดของอวิ๋นชิงหย่าแข็งแกร่งมาก แต่แล้วอย่างไรล่ะ เขายินดีฝึกฝนอย่างหนักแต่พลังฌานในแคว้นเจ็ดเมืองขัดขวางไม่ให้เขาผ่านด่านขั้นเซียน!

เมื่อต้องเผชิญกับสำนักที่ยิ่งใหญ่อย่างตระกูลฉิน พวกเขาก็ไร้พลังที่จะต่อต้าน…

แต่ว่าเมื่อมีผลเขฬะมังกรก็จะแตกต่างออกไป! ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะไม่ได้อยู่ข้างพวกเขา พวกเขาก็ยังสามารถปกป้องครอบครัวของพวกเขาได้! ดังนั้นหลังจากที่อวิ๋นชิงหย่าตัดสินใจ คนอื่นๆ ก็ตัดสินใจได้เช่นเดียวกัน

“ท่านพี่” ดวงตากระจ่างใสของอวิ๋นรั่วสุ่ยเต็มไปด้วยความหวัง “ข้าเองก็อยากกินผลไม้นี้เหมือนกันเจ้าค่ะ ท่านให้ข้าได้หรือไม่”

ทันทีที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังจะตอบรับคำขอของอวิ๋นรั่วสุ่ย เสียงของปี้เซียวก็ดังขึ้นในความคิดนาง

“นายหญิงเจ้าคะ อวิ๋นรั่วสุ่ยยังเด็กเกินไปและไม่สาารถทนรับพลังจากผลไม้ได้ นางจะกินได้ก็ต่อเมื่อนางอายุมากกว่านี้”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของปี้เซียว ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงก็อ่อนลงขณะที่นางลูบศีรษะของอวิ๋นรั่วสุ่ยอย่างอ่อนโยน “สุ่ยเอ๋อร์ พลังของผลไม้นี้มีมากเกินกว่าที่เจ้าจะทนได้และเจ้าก็ยังเด็กเกินไป แต่ข้าจะเก็บไว้ให้เจ้ากินหลังจากที่เจ้าโตพอแล้ว”

อวิ๋นรั่วสุ่ยผิดหวัง แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาของนางก็เป็นประกาย

“เจ้าค่ะ สุ่ยเอ๋อร์จะเชื่อฟัง สุ่ยเอ๋อร์จะกินผลไม้นี้หลังจากที่สุ่ยเอ๋อร์โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”

หลังจากที่ปลอบอวิ๋นรั่วสุ่ยแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงก็มอบผลไม้ให้ทีละคนยกเว้นไป๋หลิง! นางเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนจักรพรรดิแล้วและผลไม้นี้ก็ไม่มีประโยชน์ต่อนาง ต่อให้ศักยภาพแต่กำเนิดของนางสามารถพัฒนาถึงขั้นเซียนที่แท้จริงได้ ผลไม้ก็ช่วยให้นางผ่านด่านไม่ได้อยู่ดี…

“หืม?” มู่ต้งดูแปลกใจ เมื่อมองผลเขฬะตรงหน้าเขา เขาก็กะพริบตา “มีส่วนของข้าด้วยงั้นหรือ”

“ท่านเป็นสหายกับท่านปู่จวินและท่านยังเลือกที่จะยืนอยู่ข้างพวกเราในช่วงเวลาโหดร้าย ข้าย่อมต้องดูแลคนของข้าอย่างยุติธรรม”

รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของนางขณะที่นางพูด ตอนนั้นเองก็ทำให้หัวใจของมู่ต้งสั่นสะท้าน ความจริงแล้วเขาไม่ได้ช่วยอะไรในวันที่เกิดเหตุในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ อย่างมากที่สุดเขาก็แค่เตรียมตัวที่จะสู้กับตระกูลฉิน

แต่ว่า…ถ้าเขาทำแบบนี้หลังจากที่รู้เรื่องความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิง การกระทำนี้ก็อาจจะดูเหมือนพยายามประจบเอาใจนาง