DC บทที่ 268: ควางกังวลของหวังชูเหริน

 

ขณะที่ซูหยางและศิษย์อื่นเดินไปรอบๆเขตกลางเพื่อหาบ้านใหม่นั้น โลกภายนอกนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็เริ่มรับรู้ถึงสถานการณ์ของพวกเขา

 

และภายในไม่กี่ชั่วโมง ข่าวของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยสูญเสียศิษย์ทั้งหมดก็ได้แพร่สะพัดไปทั่วภาคตะวันออก

 

ที่ยิ่งเหมือนตบหน้านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยไปมากกว่านั้นก็คือบรรดาศิษย์ที่ได้ออกมาต่างก็พากันหาสำนักใหม่เข้าร่วมราวกับว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่ทอดทิ้งนิกายเดิม

 

อย่างไรก็ตามเพราะเหตุนี้ ศิษย์เก่าต่างพากันปลอมชื่อเปลี่ยนแซ่เมื่อพยายามที่จะหาสำนักใหม่ เมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้สำนักใหม่เห็นพวกเขาเป็นคนที่ไม่สามารถเชื่อถือได้ในเรื่องความซื่อสัตย์

 

ส่วนศิษย์เก่าที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์หลักดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่พยายามที่จะเข้าร่วมด้วยตัวตนที่แท้จริง

 

กล่าวไปแล้วเพราะว่าพวกเขามีพลังการฝึกปรือสูงตั้งแต่อายุยังน้อย สำนักที่พวกเขาต้องการเข้าร่วมก็ไม่ได้ปฏิเสธพวกเขาแม้ว่าจะมีสถานภาพของผู้ทรยศ ตามจริงพวกเขากลับยิ่งยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่น

 

แต่ก็ยังมีศิษย์เก่าบางคนที่ถูกปฏิเสธในตอนแรก แต่ครั้นเมื่อเสนอบริการทางเพศด้วยร่างกายสำหรับการยอมรับเข้าร่วมสำนัก ผู้อาวุโสสำนักที่ทำหน้าที่ลงทะเบียนต่างก็พากันยินดีรับสินบน อย่างไรก็ตามกลยุทธประเภทนี้แน่นอนว่าใช้ได้เฉพาะหญิงเท่านั้น ส่วนผู้ชายที่ไม่ได้มีเสน่ห์แบบนี้ พวกเขาได้แต่กัดฟันด้วยความหงุดหงิดเท่านั้น

 

ในเวลานั้นที่นิกายดอกบัวเพลิง เมื่อหวังชูเหรินได้ยินข่าวนี้ เธอก็เกือบไม่เชื่อ

 

“นิกายล้านอสรพิษโจมตีนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยรึ”

 

ถ้าเธอนึกให้ดี นั่นเป็นที่ที่ซูหยางอยู่

 

หลังจากที่รู้ข่าวนี้ หวังชูเหรินพลันแจ้งนิกายดอกบัวเพลิงว่าเธอจะไปเยี่ยมนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย เธอกังวลว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับซูหยางและเธอต้องการเห็นสถานการณ์ด้วยตัวเธอเอง

 

ในสายตาของเธอแม้ว่าเขาจะท้าทายตรรกะใด นั่นก็ยังไม่มีทางที่เขาจะรับมือนิกายล้านอสรพิษที่มีทั้งพลังอำนาจและชื่อเสียงได้

 

ผู้นำนิกายดอกบัวเพลิงพยายามหว่านล้อมเธอให้ทิ้งความคิดโง่ๆนั้นในตอนแรก แต่หวังชูเหรินยืนยันว่าเธอจะไปไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม จนทำให้ผู้นำนิกายไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ให้คนอื่นตามไปปกป้องเธอ เพราะว่าพวกเขาไม่อาจที่จะเสี่ยงสูญเสียคนที่มีค่าดังเช่นหวังชูเหริน

 

“ก็ได้ เจ้าสามารถไปที่นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยได้ แต่นั่นจักต้องมีคนตามเจ้าไปด้วย ถ้าเจ้ามิอาจยอมรับเงื่อนไขนี้ เจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อนออกจากที่แห่งนี้”

 

หวังชูเหรินถอนใจ “ถ้าพวกนั้นทำให้ข้าช้าลง ข้าก็จักทิ้งพวกเขาไว้ด้านหลัง”

 

ผู้นำนิกายพลันเรียกจอมยุทธที่มีพลังการฝึกปรือล้ำลึกกว่ายี่สิบคนตามเธอไป

 

หนึ่งในคนเหล่านี้ที่ตามหวังชูเหรินก็คือผู้อาวุโสสูงหาน แม้ว่าเขาไม่อยากตามเธอไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยที่ซึ่งซูหยางอาจจะอยู่ที่นั่น เขาก็ได้แต่กัดฟันทนในครั้งนี้

 

“ทำไมเจ้าจึงต้องการไปเยี่ยมนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยในตอนนี้ในเมื่อพวกเรายังมิมีข่าวคราวเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นั่นแม้สักอย่างเดียว สิ่งที่เรารู้ก็คือนิกายล้านอสรพิษอาจจะยังอยู่ที่นั่น จักเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาเข้าใจพวกเราผิดว่าเป็นกองหนุนของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย จักเหมือนเพียงเราขุดหลุมฝังศพตนเองในการไปที่นั่น และถึงแม้ว่านิกายล้านอสรพิษมิได้อยู่ที่นั่นต่อไปแล้ว นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็คงจะสิ้นไปนานแล้วกว่าเราจะไปถึงที่นั่น ผู้อาวุโสหวัง ข้าแนะนำว่าเจ้าควรคิดเรื่องนี้อีกครั้ง”

 

ผู้อาวุโสหานพยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้อยู่ในนิกายดอกบัวเพลิงอย่างสิ้นหวัง

 

“มิมีปัญหาถ้าท่านมิต้องการไป ผู้อาวุโสหาน” หวังชูเหรินส่ายหน้า

 

และโดยไม่รอให้ผู้อาวุโสสูงหานตอบ เธอก็เริ่มมุ่งหน้าตรงไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

 

ผู้อาวุโสสูงหานถอนใจและตามเธอไปหลังจากนั้นไม่นานโดยไม่ปริปากออกมาอีกตลอดการเดินทาง ในเมื่อเขารู้ว่านั่นเพียงทำให้เสียลมปากไปเปล่าๆ

 

อีกคนที่กังวลเกี่ยวกับซูหยางที่อยู่ในนิกายดอกบัวเพลิงก็คือจางซิวยิง ซึ่งแทบจะไม่ได้นั่งติดพื้นหลังจากที่รู้ว่ามีการโจมตี และถึงแม้ว่าเธอก็ต้องการที่จะไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเช่นเดียวกับหวังชูเหริน เธอก็รู้ว่าต่อให้เธอไป นั่นก็ไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถทำให้เขาได้ ดังนั้นเธอได้แต่สวดภาวนาอย่างเงียบๆเพื่อให้เขาปลอดภัย

 

 

 

 

สามวันผ่านไปนับตั้งแต่ข่าวนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย “ล่มสลาย” ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และตอนนี้ตลอดทั่วทั้งภาคตะวันออกก็ได้ยินเรื่องนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่ได้ยินข่าวนี้ก็ยิ่งสนใจในวิญญาณพิทักษ์และนิกายล้านอสรพิษยิ่งกว่าการล่มสลายของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

 

ตามจริงแล้วผู้คนต่างมองอย่างมั่นใจว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยต้องล้มตายโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะว่าไม่มีทางที่สถานที่เล็กๆเช่นนั้นจะรอดพ้นจากการโจมตีจากนิกายล้านอสรพิษได้ ต่อให้อีกล้านปีให้หลังก็ตาม

 

อีกมุมหนึ่งนอกจากนิกายดอกบัวเพลิงแล้วก็ไม่มีกลุ่มอำนาจใดจากภาคพื้นตะวันออกที่สนใจจะไปเยี่ยมนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเพื่อดูว่าพวกเขาได้รอดพ้นจากการโจมตีของนิกายล้านอสรพิษหรือไม่

 

ครั้นเมื่อนิกายดอกบัวเพลิงไปถึงนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย พวกเขาก็ต้องมึนงงกับสภาพที่สงบเรียบร้อยอย่างสมบูรณ์ที่นั่น

 

อย่างไรก็ตามที่สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขามากที่สุดก็คือนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเอง ในเมื่อสถานที่นั่นดูไม่เหมือนกับว่าถูกโจมตีแม้แต่น้อย

 

“เกิดอะไรขึ้น หรือว่าข่าวทั้งหมดนั่นเป็นข่าวลวงมาโดยตลอด”

 

บางคนถาม

 

“นั่นมิน่าเป็นไปได้…ใช่ไหม นั่นจักต้องเป็นเหตุให้เกิดความโกรธแค้นอย่างหนักถ้าว่านั่นเป็นความจริง…”

 

อีกคนสงสัย

 

“เชอะ ลืมเรื่องนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมีวิญญาณพิทักษ์ไปก่อน ข้าควรรู้ว่านี่เป็นเรื่องงี่เง่าเมื่อพวกเขากล่าวถึงนิกายล้านอสรพิษ ว่าไปแล้วทำไมพวกเขาจะต้องมาที่นี่ตั้งแต่แรก”

 

“ทำไมพวกเขาจึงต้องหลอกลวงอะไรเช่นนี้ด้วย…” ผู้อาวุโสสูงหานขมวดคิ้ว “เช่นนั้นเจ้าจะอธิบายเหตุการณ์ที่บรรดาศิษย์หลบหนีจากที่แห่งนี้ไปได้อย่างไร เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้ามิรู้สึกว่ามีผู้คนในสถานที่นี้เลยในตอนนี้…”

 

“ท่านพูดถูก…มันเงียบผิดปกติที่นี่…”

 

นิกายดอกบัวเพลิงไร้คำพูด เกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่นี่ หรือว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยกล้าที่จะเล่นตลกไร้สาระแบบนี้กับภาคตะวันออกทั้งหมดจริง แต่นั่นพวกเขาจะได้อะไรจากความบ้าคลั่งนั้น