เรื่องนี้สำหรับไกอากับวีนาเป็นเรื่องใหญ่มาก มีการด่าทอและขุดเรื่องไม่ดีต่างๆ นานาของพวกเขาสองคนบนโลกอินเทอร์เน็ต
แต่ไกอาอยู่ต่างประเทศจึงไม่ได้มีผลกระทบกับเขามากนัก ส่วนวีนากลับถูกด่าทออย่างรุนแรง วีนาโกรธจนจะเป็นลมไปอีกรอบ พินอินโทรหาเทาเท่อย่างเหลือทน
“พี่! ไม่คิดจะช่วยพ่อแม่เลยเหรอ ตอนนี้แม่เครียดจะตายอยู่แล้ว พี่รีบกลับมาเลยนะ” พินอินตะโกนลั่นทันทีเมื่อเทาเท่รับสาย
จนเทาเท่ต้องเอาโทรศัพท์มือถือออกห่างจากใบหน้า
น้องสาวเขาคนนี้ชอบเรียกร้องความสนใจจริงๆ
ทำไมถึงว่าเขาไม่ช่วยครอบครัว?
อย่างแรก เรื่องนี้ไม่อาจถูกกลบเกลื่อนได้ด้วยความช่วยเหลือจากเขา เนื่องจากพวกเขาได้กระทำไปแล้วเรื่องนี้จะคงอยู่ตลอดไป มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะถูกเบลซใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้
อย่างที่สอง เขาประนีประนอมกับเบลซเพื่อเรื่องนี้ไม่ได้
เขาต้องการหลินจือ เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ากันซูซี
เขาไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น การแลกความสุขในชีวิตของเขาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของพ่อแม่ ไกอาและวีนา มันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
เมื่อวางสายจากพินอินแล้ว เขาจึงขับรถกลับไปดูสักหน่อย
วีนานอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเซียว ดวงตาบวมแดงจากการร้องไห้อย่างหนัก
พินอินนั่งลงบนเตียงด้วยความโกรธพลางบ่นกับวีนา “พี่เขาบ้าไปแล้วแน่ๆ เพื่อยัยหลินจือ เขาไม่สนใจเรื่องของแม่กับพ่อเลย”
พินอินพูดแบบนั้นยิ่งทำให้น้ำตาของวีนาไหลออกมาอีกรอบ
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเบลซจะใช้เรื่องนี้เล่นงานลูกชายของเธอ เขายังคงหมกมุ่นอยู่กับความต้องการที่จะอยู่กับหลินจือและจอร์แดน เขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เธอคลอดออกมา วีนาจะไม่เสียใจได้อย่างไร
เมื่อเทาเท่เข้าไปในห้องนอนของวีนา สิ่งที่เห็นคือใบหน้าของวีนาที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา
พินอินลุกขึ้นเต็มความสูงหมายจะด่าทอพี่ชาย แต่ก่อนเธอพูดอะไร เทาเท่ก็เหลือบมองท่าทีเศร้าโศกของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ “กลับห้องของตัวเองไปซะ”
พินอินไม่พอใจกับคำพูดของเทาเท่ เธอกระทืบเท้าและฟ้องวีนา “แม่ ดูพี่เขาสิคะ!”
วีนาที่เสียใจอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นเทาเท่ด่าพินอินแบบนี้เธอจึงลุกจากเตียงด้วยความโกรธและดุเทาเท่ “แกยังเห็นฉันเป็นแม่ยังเห็นว่านี่คือน้องของแกอยู่ไหม!”
การเผชิญหน้ากับความปวดประสาทของวีนา ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ สุดท้ายจึงต้องมองผ่านไปได้ แบบนี้เขากับแม่เลยไม่เคยคุยกันดีๆ ได้สักครั้ง
เขาถอยออกมา ก่อนจะหันไปพูดกับวีนาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าผมเดาไม่ผิด ก่อนผมมาพินอินก็คงพูดกับแม่ไม่หยุดว่าผมแย่อย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ หรือว่าหลินจือเสียๆ หายๆ”
การกระทำของพินอิน ถ้าพูดให้ดีคงเรียกว่าเป็นการต่อว่าด่าทอ แต่ถ้าพูดทางให้แย่หน่อย คงเรียกว่าการยุยงให้บาดหมาง
พินอินยังอยู่ในห้อง คอยเติมเชื้อไฟ แต่กลับไม่มีประโยชน์อะไร
วีนาและพินอินพูดอะไรไม่ออก เพราะเทาเท่พูดถูก
เมื่อเห็นสีหน้าของทั้งคู่เทาเท่จึงรู้ว่าสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อครู่นั้นถูกต้อง เขาจึงพูดเสริมขึ้นมาว่า “นี้คือเหตุผลที่พี่อยากให้เธอกลับห้อง แต่แม่ก็ยอมฟังเรื่องยุยงของน้อง งั้นแม่ให้น้องอยู่ต่อเถอะครับ ผมไปเอง”
พินอินกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ วีนาลังเลอยู่สักพัก แล้วหันไปพูดกับพินอิน “ลูกกลับไปก่อน”
พินอินกัดปากร้องไห้ออกไปจากห้อง
วีนาหันไปพูดกับเทาเท่ทั้งน้ำตา “ตอนนั้นแม่ทำตัวก้าวร้าวไม่ใช่เพราะอยากให้พ่อของลูกตัดใจและเลิกกับผู้หญิงคนนั้นหรอกหรือ? แม่ยืนกรานไม่หย่า ก็เพื่อให้ลูกและพินอินมีครอบครัวที่สมบูรณ์”
“คิดไม่ถึงว่าพอลูกโตขึ้น ปีกกล้าขาแข็งบินได้ด้วยตัวเองแล้ว ลูกจะไร้เยื่อใยกับแม่แบบนี้” พูดจบวีนาก็ร้องไห้ออกมา
เทาเท่เม้มปากพลางจ้องไปวีนาที่กำลังร้องไห้อยู่สักพัก แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเกลี้ยกล่อมให้แม่หย่ากับพ่อนานแล้วนะ แม่ไม่ต้องพูดว่าทำทุกอย่างเพื่อพวกผมสองคนหรอกครับ เหตุผลที่ไม่หย่าแม่รู้ดีอยู่แก่ใจ”
เทาเท่ไม่ยอมให้วีนาเป่าหู
เขารู้มานานแล้วว่า วีนากับไกอาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แม้เขายังเด็กแต่ก็ดูออกว่าไกอามีบ้านเล็กบ้านน้อยมาตลอด
เมื่อเขาโตเกินวัยและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงแนะนำให้วีนาหย่ากับไกอา
ตอนที่ไกอาไปอยู่ต่างประเทศ เขาก็แนะนำเธออีก แต่วีนาเลือกที่จะไม่หย่า
ตอนนี้กลับมาพูดว่าที่ไม่หย่าเพราะเขาและพินอิน ถ้าไม่เรียกว่าเป่าหูจะเรียกว่าอะไร
เมื่อหย่าไปแล้ว เธอกลัวว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตที่อู้ฟู่อยู่อย่างสุขสบายล่ะสิ
คำพูดของเทาเท่ทำให้วีนาพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงร้องไห้หนักกว่าเดิมเพื่อกลบเกลื่อนคำพูดของตัวเอง
เทาเท่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างเฉียบขาดว่า “พวกคุณเป็นลูกไก่ในกำมือของเบลซ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเกิดเรื่องขึ้นสักวัน!”
“หลังจากที่ติดต่อกับภรรยาของเบลซเมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนเขาก็ไม่ใช่คนดีเข้าวัดเข้าวาอะไรขนาดนั้น?”
“ถ้าเขาเป็นคนดี ทำไมพวกคุณยอมจ่ายด้วยการแต่งงานของผมเพียงเพื่อเอาใจลูกสาวเขา!”
เทาเท่พูดออกมาด้วยความโกรธ วีนาหยุดร้องไห้ไปแล้ว
เธอกำทิชชูอย่างมึนงงและเหม่อลอย
ใช่ เธอรู้ดีว่าเบลซร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ ดังนั้นเธอกับไกอาจึงพยายามเอาใจเบลซทุกทาง เพียงแค่ให้เบลซอย่าเปิดโปงเรื่องนี้ก็พอ เธอได้ยินว่าเบลซพอใจกับการทำงานของลูกชายเธอ พวกเขาจึงร่วมมือกันเพื่อจัดฉากเรื่องบังเอิญระหว่างลูกชายกับซูซี
แม้เธอกับไกอาต้องอับอายอยู่นานหลายปี แต่ท้ายที่สุดเบลซก็ยังลงมือ
ถ้าไม่ใช่เพราะหลินจือ…
วีนาคิดแบบนั้น เทาเท่มองทะลุปรุโปร่งเห็นถึงความคิดของเธอ จึงพูดอย่างเด็ดขาดว่า “อย่าตั้งข้อหาใส่ร้ายคนอื่น ถึงผมจะอยู่กับซูซี แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอก ไม่ช้าก็เร็วเบลซต้องเล่นงานพวกแม่อยู่ดี!”
วีนาอ้ำอึ้งไปชั่วขณะ เธอหลับตาลงไม่ได้พูดอะไรต่อ
บางทีเรื่องที่ถูกเปิดเผยไปคงจะไม่มีทางกู้คืนกลับมาได้อีกแล้ว วีนาจึงไม่ได้โกรธเหมือนเช่นในตอนแรก
โกรธไปจะมีประโยชน์อะไร
เธอโดนคนอื่นด่าทอเสียๆ หายๆ คงไม่มีทางกู้หน้ากลับมาได้อีก
วีนาไม่เอะอะโวยวาย เทาเท่ก็เย็นลงเช่นกัน
เทาเท่จ้องมองวีนายและพูดกำชับว่า “แม่เตรียมตัวเถอะครับ ผมจะส่งแม่ไปอยู่ต่างประเทศ”
ตอนนี้ให้วีนาไปอยู่ไกลๆ คงดีที่สุดสำหรับเธอ หากอยู่ที่นี่เธอก็คงออกไปไหนไม่ได้
วีนาขัดขึ้น “แล้วพินอินจะทำอย่างไร?”
เทาเท่ตอบกลับนิ่งๆ “น้องต้องอยู่ต่อ น้องต้องได้รับโทษที่น้องควรได้รับ”
คดีระหว่างพินอินและหลินจือกำลังจะขึ้นศาลในเร็วๆ นี้ และพวกเขาทราบคำตัดสินคร่าวๆ แล้ว พินอินต้องถูกตัดสินคุมประพฤติ จึงไปต่างประเทศกับวีนาไม่ได้