บทที่ 344 การมอบหมายหน้าที่
ไม่กี่วันต่อมา ณ ชั้นสิบแปด สำนักงานใหญ่ของสภาเวทมนตร์
ห้องทดลองหมายเลขเจ็ด เป็นห้องขนาดกว้างขวางและสว่างไสว ห้องถูกแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ มีโต๊ะทดลองแร่แปรธาตุและวงเวทปริศนาทุกประเภท และแสงจากบรรดาวงเวทก็ทำให้ห้องทดลองเป็นสถานที่ในฝัน
อย่างไรก็ตาม ภายในห้องทดลอง มีนัดเวทอยู่เพียงสี่คน ได้แก่ ลูเซียน ลาซาร์ ร็อค เจอโรม และบรรดานักเวทฝึกหัดอีกหลายคน ไม่มีแขกรับเชิญมาแสดงความยินดี สำหรับนักเวทในสภาเวทมนตร์ทุกคน ไม่มีใครเห็นว่าโครงการวิจัยที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่และยังไม่มีผลการวิจัยเป็นชิ้นเป็นอันจะมีค่าพอให้แสดงความยินดี แม้จะเป็นสถาบันที่ตั้งชื่อแปลกๆ ของลูเซียนก็ไม่เว้น ขณะเดียวกัน ลูเซียนก็มีความสุขกับเรื่องนี้เพราะตอนนี้เขาไม่ต้องการให้มีคนมาจับจ้องเขามากเกินไป
ในฐานะนักเวทแกนนำ ลูเซียนกระแอมเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อสมาชิกโครงการวิจัยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “การวิจัยของเรายังไม่ได้เริ่มต้น เรามีพันธมิตรน้อยมาก และผลการวิจัยก็ยังไม่ออกมา ตรงหน้าพวกนี้เราคือสิ่งที่มีการค้นพบ โลกใหม่ที่ไม่มีใครเข้าถึงมาก่อน โลกใหม่กำลังรอเราอยู่ ข้าเชื่อว่าเราจะได้เห็นและได้ค้นพบอะไรมากขึ้นระหว่างทาง วันนี้ เราต้องให้ความเคารพต่อสภา วันหน้า สภาจะต้องเป็นฝ่ายเคารพเราบ้าง!”
ในตอนจบ ลูเซียนพูดทีเล่นทีจริงกับสหายและลูกศิษย์ของเขา
ผู้ที่กำลังฟังทุกคนต่างตกใจ ไม่มีใครคิดว่าลูเซียนจะฝันไปไกลขนาดนั้น
ลูเซียนพยักหน้าให้ทุกคนและกล่าวต่อ “ต่อไป ข้าต้องเข้าร่วมประชุมประจำเดือน ให้ลาซาร์รับผิดชอบการบริหารจัดการภายในสถาบัน เจอโรม เจ้าเลือกนักเวทฝึกหัดไปครึ่งหนึ่งและเริ่มศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของวัสดุในภาวะอุณหภูมิต่ำ เลือกจากวัสดุทั่วๆ ไป เช่น ถ่ายหิน เหล็ก แร่โลหะมิธริล และแร่โลหะอะดามันไทน์… ข้าอยากให้เจ้าจดบันทึกทุกครั้งตอนที่เปลี่ยนอุณหภูมิทุกหนึ่งองศา การทดลองนี้ต้องใช้ความอดทนสูง เจอโรม เจ้าเหมาะกับการงานที่สุด แต่ต้องระมัดระวังตอนทดลองในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำมากๆ”
จนถึงปัจจุบัน การทดลองของสภาว่าด้วยอุณหภูมิต่ำยังคงเป็นการศึกษาไฮโดรเจนเหลว ซึ่งหมายความว่าสภายังคงห่างจากอุณหภูมิที่ต้องใช้สำหรับการเข้าถึงสภาพตัวนำยิ่งยวดอยู่ประมาณสิบองศา ในโลกที่ลูเซียนจากมา ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนกระทั่งมีการค้นพบฮีเลียม ดังนั้น ลูเซียนก็ได้วางแผนให้พวกเขาค้นพบปรากฏการณ์สภาพตัวนำยิ่งยวด
สิ่งที่ลูเซียนต้องการผลักดันให้พวกเขาค้นพบก็คือคุณสมบัติของถ่านหินที่สามารถดูดซับอากาศได้ง่ายอย่างยิ่งที่อุณหภูมิลบร้อยแปดสิบองศาเซลเซียส ซึ่งจะสามารถใช้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการสร้างสภาพแวดล้อมสุญญากาศ ในอนาคต จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทดลองที่จะเกิดขึ้นของลูเซียน
เจอโรมพยักหน้าและรับภารกิจไป
ลูเซียนหันไปทางร็อคและก็สั่งงาน “ร็อค เจ้าเอานักเวทฝึกหัดอีกครึ่งหนึ่งไปศึกษาการปล่อยประจุภายใต้สภาพแวดล้อมความดันที่แตกต่างกัน แลร์รี่กับเคได้พัฒนาทฤษฎีการแตกตัวเป็นไอออนไว้สมบูรณ์แล้ว ทั้งสองคนพิสูจน์ว่าไอออนเป็นพาหะให้กับโพซิตรอนและอิเล็กตรอนที่สามารถก่อกระแสไฟฟ้าในใช้ในการแก้ปัญหาได้ ตอนนี้เราเปลี่ยนไปสู่คำถามอื่น การปล่อยประจุเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไม?”
ไอออน… คือชื่อที่มาจากแลร์รี่และเค
ร็อคก็พยักหน้าและรับภารกิจไป
ท้ายที่สุด ลูเซียนสั่งงานกับลาซาร์ “เจ้าเป็นผู้ประสานงาน ใครต้องการความช่วยเหลือ เจ้าต้องอยู่ที่นั่น ส่วนเวลาว่างของเจ้า เจ้าก็ทำงานศึกษาของเจ้าเองได้”
“ข้าจะจับตาตัวพวกเขาไม่ให้คลาดสายตาเลยล่ะ” ลาซาร์ยิ้มกว้าง “ข้าอยากรู้ว่าในหัวเจ้ามีเรื่องอยู่กี่เรื่อง เจ้าเชื่อมโยงเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเข้ากันอย่างไร้ที่ติอยู่เสมอ”
มีเพียงลูเซียนคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร แต่แน่นอน เขาไม่มีทางบอกใครเด็ดขาด
…
หลังจากมอบหมายงานเรียบร้อยแล้ว ลูเซียนก็ออกจากห้องทดลองไป
“อีวานส์?”
“ท่านอีวานส์?”
ณ มุมหนึ่งของโถงทางเดิน ลูเซียนบังเอิญเจอกับอิซาเบลลาและราเชลอีกครั้ง
หลังจากเอ่ยวาจาทักทายกัน อิซาเบลลาก็ใช้โอกาสนี้รีบยิงคำถามใส่ลูเซียน “อีวานส์ ข้าได้อ่านสูตรของท่านและบทความจากมหาจอมเวททั้งห้า ไม่มีใครสามารถอธิบายความหมายของสูตรได้ มีเพียงความเป็นไปได้เดียวหรือเจ้าค่ะ? ท่านรู้ใช่ไหมว่าข้าหมายถึงอะไร”
คำถามนี้เป็นคำถามที่กวนใจจอมเวททุกคนที่เข้าใจบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารอาร์คานาฉบับเดือนนี้
“จริงๆ แล้ว ข้าเจอเบาะแสบางอย่างขอรับ และกำลังศึกษาอยู่ แม้จะซับซ้อนก็ตาม” ตามคำแนะนำของเฟอร์นันโดและดักลาส ลูเซียนจะค่อยๆ เปิดเผยความจริงทีละนิดๆ
“จริงหรือ?” ทั้งอิซาเบลลาและราเชลต่างถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองไม่คาดคิดว่าลูเซียนจะตอบคำถามกับพวกนางจริงๆ
แต่ทันทีที่พวกนางถาม สตรีทั้งสองก็รีบกล่าวคำขอโทษ เนื่องจากทั้งสองไม่ตั้งใจสอดรู้สอดเห็นการวิจัยของลูเซียน
ลูเซียนไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแม้แต่น้อย “งานหินงานนี้ใกล้สมบูรณ์แล้ว ท่านเฟอร์นันโดก็รู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี ข้าบอกได้ ไม่เป็นไรขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้น ขอร้องล่ะเจ้าค่ะ ท่านอีวานส์” ราเชลยิ้ม นางรู้ดีว่าอาจารย์อิซาเบลลาของนางคงรู้สึกกระดากอายและไม่กล้าเอ่ยปากถาม ฉะนั้น นางในฐานะลูกศิษย์ควรออกตัวถามเรื่องนี้
“ตามมุมมองการเคลื่อนที่ของโมเลกุลที่โคล สหายของข้า นำเสนอ และการใช้ความน่าจะเป็นในการวิเคราะห์สูตร” ลูเซียนเปิดประตูชั้นแรกต้อนรับทั้งสองคน
อิซาเบลลาพยักหน้าอย่างครุ่นคิดและตอบออกมา “นี่ก็นานกว่าสิบปีแล้วที่โคลนำเสนอทฤษฎีนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ทฤษฎีนี้พัฒนาขึ้นครั้งแรก การถกเถียงและการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นตลอด จนมีคำอธิบายทฤษฎีของกฎที่สองที่ทำให้โคลได้รับเหรียญน้ำแข็งและหิมะ แต่ว่า จอมเวทหลายคนก็ยังไม่มีอคติกับทฤษฎีนี้ แม้ตอนที่หาวิธีอธิบายสูตรของเจ้า หลายคนก็ยังไม่คิดว่าทฤษฎีของโคลเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้”
ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น อิซาเบลลาอยากทำการทดลองให้เร็วที่สุด นี่ไม่ใช่เพื่อการตีพิมพ์บทความหรือชนะรางวัลใดๆ แต่เพื่อตอบสนองความปรารถนาต่ออาร์คานาศาสตร์และความอยากรู้ของนาง นอกจากนี้ ราเชลก็รู้สึกเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน น้ำเสียงเป็นกันเองและท่าทีผ่อนคลายของลูเซียนก็ทำให้อิซาเบลลาและราเชลเชื่อว่าเขาได้ตีโจทย์ค้นพบวิธีการอธิบายสูตรนี้แล้ว และเขาก็จะเสนอบทความในเร็วๆ นี้
…
ในห้องทำงานของเฟอร์นันโด
เมื่อลูเซียนมาถึง ศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นๆ ของเขาก็มากันพร้อมเพรียงแล้ว ยกเว้นเจ้ามังกรคริสตัล อัลเฟอร์ริส
“คริสตัลน้อยของเราไปไหนเสียล่ะ ธอมป์สัน?” อะชิคาน่าชอบเรียกชื่อเล่นของมัน
ธอมป์สันดันแว่นตากรอบทองขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ข้าไม่เจอมันมาเป็นเดือนแล้ว สงสัยอัลเฟอร์ริสจะขายตัวเองหาเงินอีกแล้วล่ะมั้ง…”
ธอมป์สันเองก็ไม่มั่นใจ แต่เขาไม่ได้ห่วงอัลเฟอร์ริสเท่าไร มังกรคริสตัลน้อยน่าจะปลอดภัยตราบใดที่ยังอยู่ในระยะห้าร้อยไมล์จากอัลลิน ในฐานะมังกร อัลเฟอร์ริสดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี
“อัลเฟอร์ริสไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง” เฟอร์นันโดตอบทันที “เริ่มอภิปรายกันเลย เริ่มที่โคล”
โคลกำลังคิดอะไรใจลอยอยู่ตอนที่เฟอร์นันโดเรียกชื่อเขา เขามองไปที่อาจารย์แล้วก็ลูเซียน ก่อนจะเริ่มอภิปราย “ข้าไปถ้ำแมกมาใต้ดินมาเมื่อเดือนที่แล้ว…”
เมื่อเล่าถึงสิ่งที่ค้นพบภายในถ้ำจบ โคลก็มองหน้าเฟอร์นันโดและลูเซียนอีกครั้ง “หลังจากได้อ่านอาร์คานาฉบับเดือนนี้ ข้าก็สนใจสูตรของพวกท่านมาก ข้าทดลองวิธีต่างๆ แต่ก็ไม่สำเร็จเลย ข้าเลยทดลองทฤษฎีการเคลื่อนที่ของโมเลกุล ดูเหมือนจะได้ผล แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกสองสามสัปดาห์ในการพิสูจน์ ข้าอยากบอกเจ้า อีวานส์ หวังว่าเจ้าจะได้แนวคิดที่เป็นประโยชน์ไป”
แม้ว่าโคลจะได้รับเหรียญน้ำแข็งและหิมะ และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา แต่บุคลิกส่วนตัวของเขาเป็นคนระวังตัวแจและขี้ขลาด โคลมีลักษณะท่าทางเหมือนกวีมากกว่านักเวท แม้ว่าเขามีสิทธิจะอ้างว่านี่เป็นการค้นพบของเขา เขาก็เกรงว่าลูเซียนจะเห็นเขาเป็นศัตรูที่พยายามขโมยผลการวิจัย ดังนั้น เขาจึงพยายามเต็มที่ที่จะบอกลูเซียนว่าเขากำลังให้ความช่วยเหลือ
“ใช้ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของโมเลกุล… เจ้าไม่โง่นี่นา” เฟอร์นันโดก็ไม่เอ่ยปากชมลูกศิษย์ของตัวเองเหมือนเคย “แต่ลูเซียนคิดเรื่องนี้ได้แล้วโดยใช้ทฤษฎีนี้ เดี๋ยวรอดูกระบวนการของเขา”
ลูกศิษย์ทุกคนต่างประหลาดใจมาก หากลูเซียนมีเบาะแสอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนวารสารอาร์คานาจะตีพิมพ์ วารสารก็น่าจะเลื่อนการเผยแพร่ออกไปเพื่อรอผลการวิจัยิของเขา นั่นหมายความว่าลูเซียนเพิ่งค้นพบวิธีที่ถูกต้องและจัดการงานยากๆ ทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ หลังจากอาร์คานาฉบับเดือนนี้ตีพิมพ์แล้ว ไม่น่าเชื่อ!
“ขอบคุณมาก โคล สำหรับทฤษฎีของเจ้า ข้าคิดอะไรได้มากมาย” ลูเซียนพยักหน้าและสรุปกระบวนการสั้นๆ แต่เมื่อกล่าวถึงสมมติฐานของสูตร ลูเซียนตั้งใจข้ามสมมติฐานพื้นฐานที่สุด แต่เพราะลูกศิษย์ทุกคนยังง่วนอยู่กับการจดรายละเอียดจากคำอธิบายของลูเซียนไว้วิเคราะห์ในภายหลัง จึงไม่มีใครสังเกตเห็นปัญหาดังกล่าว
ต่อมา ศิษย์ร่วมสำนักทั้งหมดก็แลกเปลี่ยนการวิจัยของตน ในท้ายที่สุด เฟอร์นันโดเล่าถึงข้อมูลบางอย่างในงานวิจัยสำคัญๆ และอภิปรายถึงปัญหาที่เขาพบร่วมกับลูกศิษย์
หลังเสร็จสิ้นการประชุม เมื่อลูกศิษย์กำลังออกจากห้อง เลซี่ คาร์เตอร์ ก็พูดกับลูเซียนทีเล่นทีจริง “อีวานส์ ข้าเห็นว่าที่เจ้าของเหรียญน้ำแข็งและหิมะคนใหม่แล้วล่ะ”
ตอนนั้นเอง ประตูของห้องก็ถูกผลักให้เปิดออกอย่างรุนแรง แล้วอัลเฟอร์ริสก็เดินเข้ามา ด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็ก มันก็ถามด้วยความประหลาดใจ “ประชุมกันเสร็จแล้วหรือ?”
“ใช่ เสร็จแล้ว” อะชิคาน่าตอบด้วยความรู้สึกขบขัน “เจ้าไปไหนมา?”
อัลเฟอร์ริสยกกรงเล็บขึ้นปิดหน้าและลอบมองเฟอร์นันโดผ่านทางช่องว่าง “ข้าหลับเพลิน…”
“แล้วเจ้าทำวิจัยเรื่องอะไรอยู่?” ธอมป์สันกลั้นหัวเราะ
“ข้ากำลังศึกษาความฝัน” อัลเฟอร์ริสตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง นั่นยิ่งทำให้ดูน่าขันเข้าไปใหญ่
“ข้ารู้ เจ้านอนตลอดเกือบทั้งเดือนเลยสิ? ฮ่าฮ่า…” ธอมป์สันหัวเราะท้องแข็ง
ลูเซียนเองก็ยิ้มกว้าง ดูเหมือนที่ว่ากันว่ามังกรชอบนอนหลับยาวจะเป็นเรื่องจริง
…
ในค่ำคืนอันเงียบสงบ ทุกๆ อย่างจมอยู่ภายใต้ความเงียบ
โคลนั่งอยู่ในห้องทำงาน จดรายละเอียดการทดลองที่ลูเซียนเล่าให้ฟังเมื่อช่วงกลางวัน เขาอ่านทุกคำอย่างรอบคอบ และสลับกับจดบันทึกความคิดของตัวเอง
อะคาชิน่า ธอมป์สัน และศิษย์คนอื่นๆ ก็กำลังทำเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีเรื่องที่ต้องค้นคว้าของตัวเอง จึงไม่มีเวลาสำหรับประเด็นนี้มากนัก โดยเฉพาะเมื่อมีคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาก็ไม่ต้องรีบร้อน
อิซาเบลลาและราเชลเริ่มการศึกษากฎเบื้องหลังสูตรดังกล่าวตามคำอธิบายของลูเซียน
ในห้องทำงานของเขาเอง ลูเซียนยืนอยู่หลังโต๊ะ เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะเขียนชื่อบทความออกมาได้ ‘การกระจายพลังงานของการแผ่รังสีของวัตถุดำ’