ตอนที่ 464 : ว่างเปล่า

Black Tech Internet Cafe System

ตอนที่ 464 : ว่างเปล่า

 

เซียนกระบี่พิชิตมารสามและเดอะแมททริกซ์กลายเป็นหัวข้อที่พูดถึงเยอะที่สุดในหมู่ลูกค้า

 

เพื่อเป็นการเรียนรู้และทําความเข้าใจว่าเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์คืออะไร ผู้ฝึกฝนและนักรบของหยวนหยางจึงกลับมานั่งที่นั่งของพวกเขาหลังจากดูหนังจบ พวกเขาส่วนใหญ่รู้สึกยังไม่พอใจนัก

 

พวกเขาเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันโดนไม่รู้ตัว

 

เล่ยเกอถาม “ใครพอจะรู้มั้ยว่านอกจากหนังเรื่องนี้แล้วมีเรื่องไหนที่คล้ายๆกันอีกบ้าง”

 

เวลาส่วนหนึ่งของหลี่หลันเหลียวที่ทํางานเป็นพนักงานของที่ร้าน เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับหนังและเกมที่นี่ “เท่าที่ข้าพอจะรู้เรสซิเด้นอีวิล”

 

“พี่หวัง พวกเราดูเรสซิเด้น วิลกันมั้ย?” ถังหยูเอ่ยชวน

 

ขณะที่หลายคนเองก็กําลังวางแผนที่จะดูเดอะแมททริกซ์ซ้ําอีกครั้ง และบางคนก็กําลังหาหนังที่มีเค้าโครงเรื่องคล้ายกันเพื่อศึกษาเพิ่มเติม

 

ณ คาเฟที่จิวหัวลูกค้าหลายคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ที่เมืองครึ่งเองก็เช่นกันพวกเขาเริ่มมีแนวคิดที่แตกออกไปจากเดิม และให้ความสนใจกับเรื่องของไซไฟมากขึ้นตั้งแต่ได้ดูเดอะแมททริกซ์

 

“มีใครอยากดูเรสซิเด้น วิลด้วยกันมั้ย?” ถังหยูเลียนเสียงของเจ้าของฟางฉี “มาเลย! หนังเรสซิเด้นอีวิลหนึ่งกําลังจะเริ่มแล้ว”

 

“ข้าดูด้วย!”

 

“ข้าด้วย”

 

“ข้าอีกคน!”

 

หวังซีถามด้วยความงุนงง “น้องถังเจ้าไม่เล่นเซียนกระบี่พิชิตมารสามแล้วหรอ?”

 

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เล่น” ถังหยูกล่าว “ข้ายังรอคนสอนอยู่ ข้าสามารถได้รับความคืบหน้าอย่างมากในเกมเมื่อทําตามคําแนะนําของเธอ น่าเสียดายที่คู่มือคําแนะนํานั้นหยุด ซึ่งข้ากําลังรอให้เธอทําการปรับปรุงอยู่”

 

“เธอเป็นผู้ฝึกฝนจากดินแทนทะเลร้างหรือเปล่า?” ซูเฉิงเฟิงถาม

 

“ใช่แล้ว ” ถังหยูกล่าว “ว่ากันว่าร้านหลักอยู่ที่นั่น”

 

“นายน้อยถัง” ซูเช็งเฟงเหลือบมองไปรอบๆ ก่อนที่จะเบาเสียงลง “ท่านเคยได้ยินนิทายเกี่ยวกับดินแดนทะเลร้างบ้างหรือเปล่า?”

 

“นิทานอะไร?” ถังหยูส่ายหัว “ข้าไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับดินแดนที่นั่นมาก่อนจนกระทั่งเข้ามาที่นี่ ว่ากันว่าที่นั่นห่างไกลไปหลายพันกิโลนอกจากนี้ยังมีแก่นแท้จากจิตวิญญาณที่หายาก แยกออกไปจากสิ่งที่เราพบด้วย เอ่อ ซึ่งมันยากมากที่จะเดินทางไปยังที่นั่น”

 

“ดินแดนทะเลร้าง?” เลยเกอถามด้วยความสงสัย “มันเป็นชื่อสถานที่ที่มีจิตสาระอยู่จริงๆใช่มั้ย?”

 

ถังหยูเอ่ย “ครอบครัวซูมีชื่อเสียงด้านการอ่านอักขระในม้วนหนังสือและเอกสารโบราณมาก เจ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่นั่นมั้ย?”

 

ชูเช็งเฟงกล่าวว่า “ข้าเคยอ่านเรื่องราวผ่านเศษกระดาษ ข้าไม่รู้ว่าบันทึกนั้นของจริงหรือไม่”

 

“ใครจะรู้” ไม่มีใครเคยให้ความสนใจจนกระทั่งพวกเขาเข้ามาในร้านจึงได้ยินเรื่องราวเล่าขานปากต่อปาก

 

ตอนนี้ยังหยูเองเริ่มมีความสนใจในสิ่งอื่นๆ เขาถูกกระตุ้นจากการพูดคุยแลกเะปลี่ยนความคิด โดยคําแนะนําจากคนห่างไกล

 

ซูเช็งเฟงเสริมว่า “ในบันทึกได้บอกไว้ว่าสถานที่นั่นปั้นเหมือนคุกขนาดใหญ่เป็นที่สํานักนักโทษ”

 

“ที่สําหรับนักโทษ?” หวังทําหน้างงเมื่อได้ยินบทสนทนา

 

“คัมภีร์โบราณกล่าวว่าเมื่อหลายปีก่อนความแข็งแกร่งของเกราะป้องกันลดลง ปรมาจารนซีจ่าวได้เดินทางไปที่นั่นเพื่อนํากลุ่มผู้ฝึกฝนจากอาณาจักรทะเลกลับมา …”

 

“จริงหรอ?” ถังหยูถาม “ทําไมเราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”

 

“ข้าก็ไม่รู้ แต่หลังจากที่ปรมาจารย์ชีจ่าวเสียชีวิตก็ไม่มีใครได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขาอีก”

 

ขณะเดียวกันทางด้านทะเลเหนือของสํานักสวรรค์

 

ยามดึกคลื่นกระทบชายหาย .. ผู้คนในเมืองเล็กๆต่างหลับไหล

 

ดินแดนรกร้างถูกเรียกว่าดินแดนแห่งท้องทะเล เนื่องจากสถานที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยทะเลและมหาสมุทร

 

มองทอดยาวออกไปยังน้ําทะเลอันมืดมิดแม้แต่แสงจันทร์เองยังถูกกลืนกิน ดูคล้ายว่าใจกลางของมหาสมุทรจะมีผีดุร้ายคอยเฝ้าดูแลที่นั่นอยู่

 

บนหอสังเกตการณ์นอกเมือง ทหานยามตื่นขึ้นจากการหลับไหลและทอดสายตามองไปยังดินแดนอันแสนไกล ไม่มีใครรู้ว่าสายตาของเขากําลังจับจ้องอะไรอยู่

 

“หาว..!” ฟางฉีหาวอย่างหนักหน่วงกลางดึก เขาเริ่มง่วงเป็นเวลาเดียวกับที่ลูกค้า กําลังทยอยออกจากร้าน

 

“น้องถัง” หวังซีทําท่าอยากรู้อยากเห็น “ทําไมวันนี้เจ้ามาช้า?”

 

“พี่หวัง ท่านมาสายเองหรือเปล่า” ถังหยูหัวเราะ

 

“ข้าอ่านนิยายเดโบสองในร้านทั้งวัน นี่ข้ายืมม้วนกระดาษนี้มาจากน้องเสี่ยวหยูเพื่อกลับไปอ่านต่อที่บ้าน ปีศาจในนิทานนี้ทําให้คาดคิดไม่ถึง ข้าแนะนําให้เจ้าลองอ่านนะ” หวังชีพูดพลางเดินถือม้วนหนังสือ

 

“ฉันเกรงว่ายังไม่มีเวลาน่ะสิช่วงนี้” ถังหยูทําหน้าบู้ “วันนี้ข้าซื้อรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานของปืนมา ข้าจะไม่นอนจนกว่าจะเข้าใจ”

 

“ฮ่าๆๆๆ” หวังซีหัวเราะ “ข้ารู้ว่าตระกูลถังนั้นเก่งเรื่องเครื่องจักรและกลไก เจ้า .. สนใจมั้นใช่มั้ย”

 

“ข้ารู้สึกสนใจและทั่งกับมันมากหลังจากที่ได้ดูเดอะแมททริกซ์” ยังหยูกล่าวพร้อมหัวเราะ “ตอนนี้หลังจากดูเรสซิเด้น วิลไปแล้ว ข้าพบว่าอาวุธเหล่านี้ค่อนข้างละเอียดและประณีต

 

“พวกเขาเรียกมันว่าอะไร ”

 

 “ศิลปะ ใช่! มันคือศิลปะ”

 

“ผู้บังคับบัญชาชงวันนี้ท่านอารมณ์ไม่ดีหรือ?” ผู้อาวุโสยูที่อยู่ในชุดคลุมสีเทาขาวถาม พร้อมหัวเราะคิกคักอย่างทุกวัน

 

“ข้าคิดว่ามีเพียงไม่กี่แห่งที่จะมีลัทธิเต๋ระดับสูงอาศัยอยู่ อย่างไรก็ถามหลังสร้างแรงบัลดาลใจให้แก่ข้ามาก” ซงวูกล่าว

 

ผู้อาวุโสยถามด้วยความสงสัย “มันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี?”

 

“น่าเสียดายที่ข้าเพิ่งรู้จักและได้เข้าร่วมกลุ่มพูดคุย แต่เวลาคอมพิวเตอร์ของข้าหมดลง …”

 

เขากระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ “ทําไมข้าถึงคุยกับคนอื่นอย่างอิสระไม่ได้ ทําไมต้องมีข้อจํากัดมากมาย

 

“ว่ากันว่าเจ้าหญิงน้อยเจียงมีหยกสื่อสารซึ่งสามารถลงชื่อเข้าคิวคิวและพูดคุยได้ตลอดเวลา” ซงวูบ่น “ทําไมหยกสื่อสารของเราทําไม่ได้บ้างมันอ่อนแอกว่าดินแดนทะเลร้าง!”

 

“ซิเอ๋อ ปิดร้าน!”

 

“รับทราบเจ้านาย!”

 

ฟางฉีสัมผัสได้ถึงดวงตาคู่หนึ่งที่กําลังจับจ้องมาในร้าน จากส่วนมีดลึกภายนอก เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นภาพลวงตาแค่คิดไปเองหรือเปล่า

 

เขาเงยหน้าและมองออกไป ว่างเปล่า