ตอนที่ 465 : ความคิดอันโลดแล่น
กูถิงหยุนชายชราผู้วางแผนที่จะผ่านพ้นปีสุดท้ายไปด้วยความว่างเปล่า การตื่นขึ้นมายาวเช้าดูแสงแดดสอดส่องก่อนจะฝึกฝนเทคนิคและจ้องมองความงามของก้อนเมฆ นั่งจิบชาเบาๆริมหน้าผาข้างกระท่อมหรู
… แต่ตอนนี้
เขายืนถือดาบโบราณในมือ “ขึ้น!” เขากําลังฝึกฝนเทคนิคควบคุมดาบ
มันเงียบ ไร้ท่าที
“เทคนิคการควบคุมดาบ ขึ้น!”
ปลายดาบสั้นเล็กน้อย
“พลังที่ข้าส่งไปมันไม่เพียงพอหรือเปล่า?”
เขารวมรวบพลังตั้งสมาธิอีกครั้ง “ขึ้น!”
พลังงานดาบลอยขึ้นทันที หวังซีที่เปิดประตูออกมาถึงกับตกใจ
ในที่สุด!
กูถิงหยุนลูบเคราสีขาวของเขาและพูดว่า “เจ้าคิดเช่นไรกับเทคนิคการควบคุมดาบของข้า!”
“สุดยอดไร้ที่ติ”
ตุ้ม!
กระท่อมสุดหรูของเขา .. พัง! หม้อชาที่ถูกจัดเตรียมไว้กระจัดกระจาย
หลังจากเงียบไปสักพัง เสียงตะโกนโวยวายก็ดังขึ้น “กาน้ําชาสีม่วงของข้า!!”
สาวสายสี่คนนําเสนอฉากตระการตาที่สํานักสวรรค์
“ศิษย์น้องเสี่ยวหยู วันนี้สหายของเจ้าไปไหนกัน?”
“หืม .. ไม่รู้สิ ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาไปที่ตระกูลถังเพื่อสั่งปืนกันเพราะดินแดนทะเลร้างอยู่ไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะไป” เจียงเสียวหยูกล่าว “ข้าจะบอกความลับ เจ้าของร้านมีปืนใหญ่ที่สามารถยิงจรวดออกไปได้ไม่จํากัด มันทรงพลังมาก แต่เจ้าของร้านไม่ยอมให้ข้าเล่นกับมัน!” เธอทําหน้ามุ่ยตุ้ย
“ว่ากันว่านอกจากนี้เขายังมีกงล้อสีทองและสีพระจันทร์ด้วยหรอ?” มู่ชิงซุบซิบ “อ้อ .. เขาใช้พลังดาบพระเจ้าเป็นด้วยใช่มั้ย?”
“ข้าไม่เคยเห็นพลังดาบพระเจ้า” หลี่หลันเหลียวเอ่ย “เคยเห็นแต่เขาใช้พลังอะไรสักอย่างข้าเรียกไม่ถูก พลังของมันน่ากลัวมาก!”
“เทคนิคอะไร!?” คนอื่นๆมองหน้า
อีกด้านหนึ่งของสํานักสวรรค์ชายหนุ่มชุดดําผู้สง่างามในมือข้างหนึ่งเขาถือพัดขนนก ส่วนมืออีกข้างกําลังเล่นกับเปลวไฟสีน้ําเงินข้างๆ เขามีภาพสาดอันวิจิตรตระการต่อเห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งจะเสร็จเมื่อไม่นานนี้
คลื่นลมอ่อนๆ จากพัดในมือซ้ายโบกชิ้นส่วนโลหะหลอมเข้ากับเปลวไฟในมือของเขา
เหล็กหลอมรวมก่อตัวขึ้นรูปในเปลวไฟ นอกจากนี้ข้างๆเขายังมีชิ้นส่วนต่างๆ เช่นลําก้องปืน สปริง ทั้งหมดล้วนเป็นชิ้นส่วนในการประกอบปืน
“เสร็จ!” การสร้างที่ผ่านไปอย่างราบลื่น เขาประกอบส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วใส่กระสุนเข้าไป
“พี่ถัง ”
“เข้ามา!”
ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสีเขียวเกินเข้ามาตามเสียงตอบรับ “ศิษย์พี่ นี่หรือที่เขาเรียกกันว่า “ปืน”
“ใช่! สําหรับข้ามันไม่ยากเลยเมื่อนําส่วนประกอบเล็กๆมารวมกัน” เขาโบกปืนในมือเอานิ้วเกี่ยวที่ไกปืนทําท่าเล็งพลางพูดต่อว่า “เมื่อวานข้าลองปรับจูนเพื่อให้มันทรงพลังกว่ารูปแบบในตอนแรก”
เลยเกอทําหน้าตื่นเต้น “จริงหรือ!?”
ต้ม!
ควันสีดําปรากฏขึ้นหลังจากเสียงระเบิดสะนั่นดังขึ้น
ณ ศาลาอันงดงามใจกลางสํานักสวรรค์ ชายหนุ่มชุดม่วงผู้สง่างามยืนประสานมืออยู่
“เจ้าพบมันหรือยัง?”
“นายน้อยข้ารู้แล้ว! เดอะแมททริกซ์นั้นเป็นชื่อหนังและเซียนกระบี่พิชิตมารสามที่พวกเขาพูดถึงคือชื่อเกม ที่อยู่ในร้านต้นกําเนิดคาเฟอินเตอร์เน็ต” สาวชุดม่วงหน้าตาน่ารักที่อยู่ข้างหลังเขารายงาน
“หวังซี! หวังซี! เขาจะเอาชนะใครได้ยังไงหากเขายังหมกหมุ่นอยู่กับเกม” ชายหนุ่มทํา หน้าขรึม
เขามองไปที่หยกสื่อสารของเขา “เขายังกล้าส่งข้อความมาชวนข้าให้เล่นเกมอีกหรอ”
“หวังซีขาดความทะเยอทะยาน อีกไม่นานนายน้อยของข้าจะต้องเหนือเขา!”
“ไม่!” ซุนหยุนกล่าว “ข้าต้องเตือนเขาหน่อยแล้ว ข้าควรพาเขาออกมาจากการติดเกมไม่งั้นจะทําให้เขาเสียไปมากกว่านี้
“ท่านทําถูกแล้วนายน้อย!”
“เขาอยู่ที่ไหน?” ซุนหยุนถาม
“ข้าคิดว่าเขาไปที่ร้านนั้นอีกแล้ว”
“พาข้าไป!”
“หาว! ” ฟางฉีหาวพร้อมบิดขี้เกียจพลางเดินออกจากห้อง
หลี่วู่หยาที่ตื่นลงมาชั้นล่างเพื่อเตรียมเปิดร้านเอ่ยทักทาย “อรุณสวัสดิ์ เจ้านาย!”
“อรุนสวัสดิ์!” ฟางฉีทักทาย “เอ่อ ข้าขอบะหมีกับไส้กริก” เขาเอ่ยก่อยจะไปอาบน้ํา
ร้านที่นี่เพิ่งเปิดตัวเซียนกระบี่พิชิตมารสามไปไม่นานและตามมาด้วยหนังเดอะแมททริกซ์ ส่วนเกมออนไลน์อื่นๆที่นี่ยังไม่เปิดตัว แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตอนนี้ร้านเป็นกระแสนิยมและที่พูดถึงในหมู่ผู้ฝึกฝนอย่างมาก
ในร้านมีเรื่องเกี่ยวกับไซไฟไม่มากนัก แต่หลังจากได้ดูเดอะแมททริกซ์ลูกค้าหลายคนรวมทั้ งสามร้านก็ย้อนกลับไปดูเรสซิเด้น วิลเพื่อทําความเข้าใจอีกครั้ง
สําหรับปัญญาประดิษฐ์ พันธมิตรวู่เว้ยได้เริ่มศึกษามันมานานแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยีของพวกเขามีระดับต่ํา พวกเขาจึงอยากพัฒนาให้มันเติบโตขึ้น พวกเขาเลือกที่จะหาประสบการณ์จากการวิจัย แต่ซ้ําแล้วซ้ําเล่าก็ยังไม่ประสบความสําเร็จสักที
แน่นอนว่าพวกเขายังไม่แตกฉาน ด้วยพื้นฐานที่ไม่แข็งแกร่งจึงทําให้ทุกอย่างไม่คืบหน้าสักที ต่างจากตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้การสื่อสารใน GTAV ทําให้พวกเขานําไปปรับใช้กับหยกสื่อสาร รวมกับคาถาทางจิตวิญญาณ
ในทางตรงกันข้ามตอนนี้พวกเขาได้รับประสบการณ์และเริ่มประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณออกมาทดลองเรื่อยๆ
หลังจากดูเดอะแมททริกซ์จบ พวกเขาก็เริ่มมีไฟอีกครั้งและมีแนวโน้มที่ร้านแรงในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่อย่างมาก หากประสบความสําเร็จอาจจะสามารถประดิษฐ์ได้อย่างในหนัง พวกเขาจะสามารถสร้างโลกเสมือนจริง แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว
แน่นอน ในตอนนี้ยังอีกไกลแต่ใช่ว่าจะไปไม่ถึง
แม้ว่าจะยังเป็นไปไม่ได้สําหรับพวกเขา แต่ตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยกําลังใจและพื้นฐานอันหนักแน่นที่ได้รับจากหนัง การสร้างเกราะป้องกันก็เป็นส่วนหนึ่งของคาถาจิตวิญญาณและสิ่งประดิษฐ์ ถือเป็นการส่งสัญญาณเชื่อต่อให้เกราะป้องกันทําการเตือนเมืองเกิดเหตุ
พวกเขาสร้างโครงสร้างเกราะป้องกันโดยการจําลองการเคลื่อนที่ของดวงดาว ทฤษฎีหยินหยางจําลองรูปแบบด้วยวัตถุที่สอดคล้องกันการสะท้อน
อย่างไรก็ตามนี้ถือเป็นการทดลองที่สมบูรณ์แบบ .. แนวคิดใหม่กําลังโลดแล่นในกลุ่มพวกเขาอีกครั้ง