ตอนที่ 460 สถานการณ์ของบ้านประมูล

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หากกลุ่มพันธมิตรนักปรุงยากับหอหมอปีศาจไม่ขายยาวิญญาณให้พวกเขา เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะไม่มียาวิญญาณและสมุนไพรวิญญาณใช้แน่

นี่เป็นการใช้อำนาจคุกคามกันอย่างโจ่งแจ้ง

เห็น ๆ กันอยู่ว่าหอหมอปีศาจเพิ่งจะเปิดกิจการได้ไม่นาน นึกไม่ถึงเลยว่าแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถบีบบังคับให้พวกเขาไร้ซึ่งหนทางเช่นนี้ได้

คนหนึ่งก็เป็นหมอปีศาจผู้ลึกลับ ใช้ยาวิญญาณใช้ยาพิษได้อย่างเก่งกาจดุจดั่งเทพมาร อีกคนก็เป็นถึงอัจฉริยะนักปรุงยา แม้แต่ผู้นำกลุ่มพันธมิตรนักปรุงยาก็ปฏิบัติต่อนางอย่างมีไมตรีจิตเป็นพิเศษ สองคนนี้ร่วมมือกัน ตอนนี้ทุก ๆ กองกำลังทั่วทั้งแคว้นเฉียนเซี่ย ล้วนไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกหอหมอปีศาจแห่งนี้

อวี้อ๋องสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ได้โปรดคุณหนูมู่ให้หมอปีศาจเตรียมยาแก้พิษไว้ด้วย ข้าจะรีบหาสมุนไพรวิญญาณที่ต้องการมาให้โดยเร็วที่สุด”

หัวหน้าตวนมู่กล่าวเสียงขรึมว่า “ส่วนข้าก็เหมือนกัน”

มู่เฉียนซีหรี่ตายิ้มพลางกล่าว “งั้นข้าจะรอฟังข่าวดีก็แล้วกัน! ”

“โหพี่ใหญ่ เยี่ยมไปเลย แม้แต่สองคนนี้ก็ต้องสยบ” มู่หรงรุ่ยกล่าวด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

“ก็บอกแล้วไง มาประเคนให้ถึงประตูบ้าน ไม่ตกหลุมพรางก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว

 ต้องขอบคุณคนของหุบเขาหมอเทวดาที่วันนั้นได้ก่อเรื่องขึ้น ตอนนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรนักปรุงยา หอหมอปีศาจของนางก็นับว่ายืนหยัดได้อย่างมั่นคงในเซี่ยโจวแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจ

ในที่สุดอวี้อ๋องกับหัวหน้าตวนมู่ก็ได้ส่งสิ่งที่มู่เฉียนซีต้องการมาให้ถึงที่ เพียงแต่ว่าคุณหนูใหญ่ตวนมู่กับองค์หญิงอวี้นั้นได้รับความสูญเสียอย่างหนัก จนตอนนี้ยังไม่มีหน้าออกมาเจอผู้คนเลย

ในช่วงนี้น่าหลานอวี้กับเชียนอ้าวเซี่ยไม่ค่อยมารบกวนนางมากนัก มู่เฉียนซีตอนนี้นอกจากใช้เวลาไปกับการฝึกฝนแล้ว นางยังให้ความสนใจกับข่าวในเซี่ยโจวอีกด้วย หากหอฉงโหลวบนเมฆาปรากฏขึ้น นั่นก็ถึงเวลาที่นางจะต้องลงมือ

เงาร่างสีขาวร่างหนึ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องตำราของมู่เฉียนซี หากเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาต้องโดนยาพิษแน่นอน ทว่า หากเป็นคนคุ้นเคย แน่นอนว่าไม่เป็นอะไร ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยนับว่าเป็นคนคุ้นเคย

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เสี่ยวซีซี เจ้ารู้หรือไม่ว่าช่วงนี้อวี้ทำอะไรอยู่? ”

มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ข้าอยู่ในแคว้นเฉียนเซี่ย ตาไม่ได้บอด หูไม่ได้หนวก อีกอย่างหอเชียนอินของเจ้าข้าก็เหมาเอาไว้แล้ว อยากรู้เรื่องอะไรข้าก็ต้องรู้แน่นอน”

การเหมาหอเชียนอินนั้น แน่นอนว่าเพื่อต้องการตามหาดอกเก้าพิฆาตลึกลับ และเพื่อที่จะรู้ตำแหน่งการปรากฏของหอฉงโหลวบนเมฆาได้เร็วขึ้น

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เสี่ยวซีซี เจ้าเหมาหอเชียนอินแล้ว ทำไมถึงไม่เหมาเจ้าของหอเชียนอินอย่างข้าไปด้วยล่ะ? ”

มู่เฉียนซีตอบกลับทันใด “เหมาเจ้าของอย่างเจ้านะเหรอ ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์”

“จะไร้ประโยชน์ได้ยังไงเล่า? ข้าปรนนิบัติได้นะ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็แล้วแต่เสี่ยวซีซีเลย! แค่เสี่ยวซีซีขอ ไม่มีอะไรที่เซี่ยทำไม่ได้”

ชายตรงหน้ามีเสน่ห์ชวนหลงใหลราวกับปีศาจหิมะ มู่เฉียนซีร่นตัวถอยหลังสองสามก้าวก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “หากเจ้ามีอารมณ์อยากนักแล้วล่ะก็ อยู่ให้ห่าง ๆ ข้าหน่อย”

เมื่อโดนรังเกียจเช่นนี้แล้ว เชียนอ้าวเซี่ยก็ไม่ได้พัวพันต่อ “ตอนนี้อ่านะ! หัวหน้าน่าหลานบีบบังคับให้อวี้แต่งงาน เพื่อเพิ่มแต้มต่อในมือของเขา ตอนนี้อวี้กำลังพยายามคัดค้านอย่างหนัก! ”

บ้านประมูลอันดับหนึ่งหยั่งรากลึกในเซี่ยโจวมานานมาก อำนาจและอิทธิพลนั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก

สิทธิ์ในการโต้เถียงครั้งหนึ่งถูกกำหนดให้เกี่ยวเนื่องไปหลาย ๆ อย่าง คิดอยากจะควบคุมความมั่งคั่งอันดับหนึ่งของเซี่ยโจวนั้น ต้องถูกกำหนดให้ทุ่มเทอะไรไปบ้างล่ะ?

ครอบครัว มิตรภาพ หรือว่าความรัก?

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “พี่ชายของอวี้เหล่านั้นก็ใช่ย่อยที่ไหนกันล่ะ ไหนจะลูกพี่ลูกน้องของเขา ไหนจะคนตระกูลตวนมู่อีก ต่างก็จ้องตาจนเป็นมันอยู่แล้ว! ”

มู่เฉียนซี “แล้วเจ้าจะพูดจาไร้สาระอยู่ทำไม เป็นห่วงเจ้าก็ไปช่วยสิ”

“เขาเป็นศัตรูหัวใจของข้านะ! หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดีสิ ยังไงข้าก็ได้ประโยชน์ แล้วข้าจะเข้าไปช่วยทำไม? อีกอย่างเจ้านั่นก็มีความทะนงตน เพราะฉะนั้น……”

“ทุกเรื่องที่เจ้ารู้ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นเหรอ? ”

“แต่ถ้าหากเสี่ยวซีเป็นคนลงมือ มันก็จะแตกต่างกัน อวี้คงจะดีใจ”

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “เรื่องของบ้านประมูลอันดับหนึ่งต้องให้น่าหลานเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง ข้าจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ถ้าหากมีใครกล้ามาคุกคามชีวิตของน่าหลาน หมอปีศาจอย่างข้าก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้ ข้าต้องลงมือช่วย”

เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มพลางกล่าว “ได้! ตราบใดที่อวี้ยังมีลมหายใจสุดท้ายอยู่ ข้าจะพาเขามา”

พวกเขานับว่าเป็นสหายที่สำคัญมาก ถึงแม้จะรู้ว่าสหายนั้นจะต้องเรียนรู้การเติบโตและฝึกประสบการณ์ แต่อย่างไรก็ยังต้องรักษาขอบเขตเอาไว้

นั่นก็หมายความว่า จะต้องไม่ตายเด็ดขาด ไม่ว่าการฝึกประสบการณ์นั้นจะยากลำบากแค่ไหน ก็ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ให้รอด!

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ส่วนเจ้าก็อย่าก่อกวนข้าให้มากนักล่ะ อย่าเอาชีวิตตัวเองมาเล่น”

“ในที่สุดเสี่ยวซีซีก็เป็นห่วงข้าแล้ว ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก วางใจได้! ชีวิตของข้าเสี่ยวซีซีเป็นคนมอบให้ ข้าต้องทะนุถนอมเป็นพิเศษอยู่แล้ว” เชียนอ้าวเซี่ยลั่นวาจานี้ออกมาราวกับเป็นคำสาบาน

สถานการณ์ของบ้านประมูลอันดับหนึ่งทำให้บ้านประมูลอันดับหนึ่งทั้งหมดในเซี่ยโจวมีความวุ่นวายเล็กน้อย

นายน้อยน่าหลานยืนกรานไม่ยอมแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ตวนมู่ และทำให้หัวหน้าน่าหลานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแทบจะตัดชื่อน่าหลานอวี้ออกจากตระกูล

ทว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีที่สุด และเป็นบุตรชายที่มีพรสวรรค์และความสามารถมากที่สุด หัวหน้าน่าหลานจึงทำเช่นนั้นไม่ลง

และสุดท้ายพี่ใหญ่ของน่าหลานอวี้ก็เป็นคนออกหน้าที่จะแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ตวนมู่เอง

คุณหนูใหญ่ตวนมู่ที่โดนน่าหลานอวี้ทำให้เจ็บปวดใจจนหัวใจแทบแหลกสลาย ด้วยความโกรธแค้นนางจึงตอบตกลงในเรื่องแต่งงาน เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือกันเช่นนี้ สถานการณ์ของน่าหลานอวี้ก็ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ

หัวหน้าน่าหลานมองบุตรชายที่ดีที่สุดของเขาด้วยสายตาที่สับสน เดิมทีเป็นบุตรชายที่ไร้ความอ่อนข้อใด ๆ แต่ตอนนี้กลับถูกบีบบังคับจนมาถึงจุดนี้

หัวหน้าน่าหลานกล่าวถามว่า “อวี้เอ๋อร์ เจ้ารู้สึกเสียใจทีหลังบ้างหรือไม่? ”

น่าหลานอวี้ “ท่านพ่อ ข้าไม่มีวันเสียใจทีหลังเด็ดขาด ข้ายอมรับว่าบ้านประมูลอันดับหนึ่งมั่งคั่งที่สุดในเซี่ยโจว แต่สำหรับข้าแล้ว ไม่มีความมั่งคั่งใดใดที่จะเปลี่ยนแปลงข้าได้”

“แต่ตอนนี้เจ้ากำลังดิ้นรนอย่างยากลำบาก แต่เขากลับรุ่งโรจน์อย่างสุดขีดเสมือนตะวันอยู่กลางฟ้า อีกอย่างแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยเจ้า! ไม่ได้จริงใจกับเจ้าเลย ไม่ว่าเจ้าจะเป็นหรือจะตายเขาก็ไม่สนเจ้า”

“พรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่งงานของพี่ใหญ่เจ้ากับสาวน้อยตวนมู่นั่นแล้ว ตอนนี้เจ้าคิดจะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะ! ด้วยความรู้สึกที่สาวน้อยตวนมู่มีต่อเจ้า  นางจะต้องยกเลิกงานแต่งแน่” หัวหน้าน่าหลานกล่าวเตือนแล้วเตือนอีกด้วยความหวังดี

น่าหลานอวี้ลั่นวาจาอย่างหนักแน่นว่า “ข้าไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด! ”

เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นงานมงคลอันยิ่งใหญ่ของบ้านประมูลอันดับหนึ่ง!

เป็นงานแต่งงานของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลน่าหลาน กับคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวนมู่ ถึงแม้ว่าคุณชายใหญ่น่าหลานจะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งเฉกเช่นนายน้อยน่าหลาน แต่ความสามารถของเขานั้นก็ไม่เลวเลย อีกทั้งตอนนี้ได้ตบแต่งกับบุตรสาวตระกูลตวนมู่ สถานะของบ้านประมูลอันดับหนึ่งก็ยิ่งดูสูงยิ่งขึ้น

จุดเริ่มต้นของการแต่งงาน ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้นองเลือดเช่นกัน

คุณชายใหญ่น่าหลานถูกลอบสังหาร และได้กล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของนายน้อยน่าหลาน และสงครามต่อไปเป็นสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

เดิมทีที่เป็นงานมงคลอยู่ดีดี แต่กลับตอนนี้กลับกลายเป็นการนองเลือด

คุณชายใหญ่น่าหลานประเมินน้องชายตัวเองต่ำไปจริง ๆ อุตส่าห์ใคร่ครวญวางแผนอย่างแยบยลไว้ดิบดีแต่ก็ไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้ สถานการณ์ก็กลับพลิกผันคดเคี้ยววกวน จากนั้นจิตสังหารอันเย็นยะเยือกก็แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วทั้งบ้านประมูลอันดับหนึ่ง

หัวหน้าน่าหลานสีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที เขากล่าวถามว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? ”

รองหัวหน้าตวนมู่กล่าวขึ้นว่า “พี่ใหญ่ คนเหล่านี้ข้าเป็นคนเชิญมาเอง”

.