บทที่ 267 เผชิญหน้าต่อส

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

จริงๆแล้วเมื่อก่อนตอนที่หลินจือฉลองวันเกิดให้เทาเท่ เทาเท่ก็เคยหวั่นไหวเหมือนกัน ยังเคยคิดจะถามว่าวันเกิดเธอเป็นวันไหนด้วย เขาจะให้ของขวัญกับเธอ

แต่หลังจากนั้นความคิดนี้ก็หายไปด้วยความเย่อหยิ่งของเอง เขาคิดว่าถ้าตัวเองเป็นฝ่ายถามวันเกิดของเธอก่อน จะแสดงว่าเขาให้ความสนใจเธอมาก ก็เลยเพิกเฉยไปเลย

พูดถึงเรื่องนี้ในขณะนี้ เทาเท่ถึงรู้ว่าตัวเองในเมื่อก่อนงี่เง่าและโง่เขลามากแค่ไหน

ถ้าเขาละทิ้งความเย่อหยิ่งของเขาก่อนหน้านี้ลงบ้าง ตอนนี้เขาก็ไม่ต้องมาอยู่ในสภาพตามจีบภรรยาแบบนี้

หลินจือมองดวงตาที่จริงใจของเทาเท่ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ดังนั้นจึงพูด “อ่อ” ไปหนึ่งคำแล้วมองหันไป

ความจริงใจที่เขาพูด เธอก็ค่อยๆรู้สึกถึง

เทาเท่กำลังคิดจะใกล้ชิดกอดหลินจือ โทรศัพท์มือถือของหลินจือก็ดังขึ้นอีกครั้ง เทาเท่สงสัยว่าเธอที่เป็นนักเขียนบทที่ทำงานอยู่บ้านจะยุ่งยิ่งกว่าผู้บริหารอย่างเขายังไง

ทุกครั้งที่เขาจะทำอะไรบางอย่าง ก็จะถูกสายนี้หรือไม่ก็สายนั้นขัดจังหวะ

หลินจือผลักเทาเท่ออกไปและเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ไม่ได้รับสายโดยทันที แต่กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

เทาเท่เดินไปดู เขาคุ้นเคยกับหมายเลขที่แสดงบนโทรศัพท์ของเธอ ถึงแม้หลินจือจะไม่ได้บันทึกชื่อไว้ แต่เขารู้ว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของซูซี

หลินจือก็รู้จัก ซูซีเคยใช้เบอร์โทรนี้โทรหาเธอ

เทาเท่จึงเอาโทรศัพท์มือถือเธอมาแล้วตัดสายทิ้งไปเลย “อย่าไปสนใจเธอ”

หลินจือมองเขาด้วยความขยะแขยง รำคาญที่เขายุ่งไม่เข้าเรื่อง

เธอกำลังจะรับสายนี้อยู่ เธออยากจะดูว่าซูซีจะทำเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

เทาเท่ที่ถูกขยะแขยง “……”

เขาช่วยเธอวางสายโทรศัพท์ของซูซีนี่ก็ทำผิดเหรอ?

ทำไมตอนนี้เขาทำอะไรต่อหน้าเธอก็ผิดไปหมดทุกอย่างล่ะ?

ซูซีก็โทรมาต่อแยไม่เลิกอีกครั้ง หลินจือเลยรับสายขึ้นมา

ซูซีพูดด้วยเสียงหัวเราะในโทรศัพท์ว่า “หลินจือ ไม่เจอกันนาน”

แน่นอน รอยยิ้มของซูซีนั้นแค่ฟังก็รู้ว่าปลอมมาก

หลินจือพูดอย่างไม่รีบร้อน “คุณซูซี ไม่เจอกันนานเลย”

ซูซีอีกฝั่งหนึ่งพูดว่า “เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณคือคุณหนูโตของตระกูลแม็กซิมัสใช่ไหม ฉันมีเพื่อนๆหลายคนขอให้ฉันช่วยพวกเขานัดคุณให้หน่อย อยากจะทำความรู้จักกับคุณ”

ฟังออกไม่อยากว่าซูซีกัดฟันแน่นพูดเรื่องนี้ โดยเฉพาะพูดถึงหลินจือเป็นคุณหนุโตของตระกูลแม็กซิมัส แทบจะอยากกัดฟันเละไปทั้งปากแล้ว

หลินจือยังคงตอบเบาๆ “ใช่เหรอ?”

ซูซีถามอีกหนึ่งคำ “เธอคงจะไม่ใช่ไม่เห็นกับหน้าฉันใช่ไหม?

ซูซีไม่ได้ยินสิ่งที่หลินจือพูดจากอีกฝั่งหนึ่ง แต่กลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เป็นเสียงของเทาเท่ น้ำเสียงของผู้ชายเต็มไปด้วยความรังเกียจ “คุณจะพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับเธออยู่นั่น รีบวางสายไป”

ซูซีโกรธมากจนบีบโทรศัพท์มือถือตัวเองแน่น เธอถึงจะควบคุมความอยากวางสายของตัวเองได้

หลินจืออยู่กับเทาเท่ ปกติหลินจืออยู่แต่ในบ้าน งั้นตอนนี้เทาเท่ก็ต้องอยู่ที่บ้านของเธอแน่นอน ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองตอนนี้เป็นอะไรกัน พวกเขากลับมาคบกันใหม่อีกครั้งเหรอ?

ทัศนคติที่น่าขยะแขยงของเทาเท่ที่มีต่อเธอ และยังมีคำพูดที่ปกป้องหลินจือ ทำลายศักดิ์ศรีของซูซีอย่างรุ่นแรง

เมื่อก่อนเธอเป็นแฟนตัวจริงของเทาเท่ เธอเป็นผู้หญิงที่เทาเท่ต้องการจะแต่งงานด้วย และเธอควรเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่!

ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นหลินจือไปแล้ว!

แต่คิดๆแล้วจุดประสงค์ที่วันนี้เธอโทรไปนัดหลินจือออกมานั้น เธอระงับความไม่พอใจและความโกรธในใจของเธอไว้

แล้วขณะนี้เธอได้ยินเสียงของหลินจือดังขึ้นจากโทรศัพท์ “ได้สิ คุณนัดเวลามาเลย”

ซูซีประหลาดใจกับน้ำเสียงที่สบายของหลืนจือ เธอคิดว่าหลินจือจะไม่ตอบตกลงกับคำเชิญของเธอแน่นอน เพราะยังไงความสัมพันธ์ของเธอทั้งคู่ก็เปรียบได้เหมือนเป็นศัตรูกัน

แต่เธอก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “งั้นก็คืนนี้เลย”

“ได้” หลินจือตอบตกลงอย่างไม่ลังเล ซูซีก็บอกเวลาและสถานที่ให้กับหลินจือ ทั้งสองก็วางสายไป

เทาเท่ถามหลินจือทันทีว่า “ทั้งที่คุณรู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาดี ทำไมยังจะไปตามนัดอีก?

ในความคิดของเทาเท่ หลินจือไม่ควรรับสายของซูซีเลยด้วยซ้ำ

ซูซีหาเธอมันจะมรเรื่องดีอะไร? ก็คงจะคิดแผนการชั่วร้ายกับเธอได้อีกแล้ว

หลินจือยิ้มอย่างสงบสุข “ฉันแค่อยากไปดูว่าเธอยังจะเล่นกลอะไรได้อีกบ้าง”

“และอีกอย่าง ถึงฉันไม่ไปยุ่งกับเธอ เธอก็ยังไม่คิดที่จะสงบศึกอยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นฉันก็จะเผชิญมันอย่างไม่เกรงกลัว ใครจะแพ้ใครจะชนะยังไม่แน่นอน

หลินจือไม่เคยเป็นคนที่ชอบเข้าไปพัวพันคน เธอคิดว่าเธอกับซูซีกลายเป็นแบบนี้แล้ว จากนี้พวกเขาก็ใช้ชีวิตที่สงบสุขของตัวเอง คิดไม่ถึงซูซีก็ไม่จบไม่สิ้นสักที

จากหการที่หลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับเธอ สู้ไม่ดีเผชิญหน้าต่อสู้กับซูซีอย่างไม่ลีลา

และอีกอย่าง ตอนนี้เธอยังมีความมั่นใจที่จะสู้กับซูซีแล้ว ไม่ใช่เหรอ?

เธอมีภูมิหลังทางครอบครัวที่มั่งคั่ง มีอาชีพการงานที่ยอดเยี่ยม และยังมี……ความรักจากเทาเท่

เทาเท่มองหลินจือด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะเผชิญหน้ากับคำเชิญของซูซีในความคิดแบบนี้

หลินจือมองความประหลาดใจของเขาออก เอียงศีรษะและยิ้มให้เขา “ทำไม? รู้สึกว่าตอนนี้ฉันมันร้ายมากเลยใช่ไหม?

“เปล่า” เทาเท่ปฏิเสธในทันที และมองมาที่เธอแบบอ้อมแอ้มแล้วหันสายตาไปที่อื่น

เขาอยากบอกว่า ถ้าเธอมีความกล้าที่จะตอบกลับกับซูซีล่ะก็ เขาคงจะเห็นภาพแท้ของซูซีไปนานแล้ว และคงจะเห็นความดีของเธอเร็วกว่านี้

แต่น่าเสียดายที่ชีวิตไม่มี ถ้าเกิดว่า

“งั้นฉันไปกับคุณคืนนี้” เทาเท่ไม่ไว้ใจให้หลินจือไปเจอกับซีซูด้วยตัวคนเดียวแน่นอน

หลินจือส่ายหัวปฏิเสธโดยสิ้นเชิง “ไม่เป็นไร ถ้าคุณไปกับฉัน พวกเขาจะคิดว่าฉันชนะเพราะคุณ ไม่สนุก”

เทาเท่ถูกขยะแขยงอย่างไม่ใยดีอีกแล้ว แต่เขาก็ยังรีบพูดตามขึ้นมาว่า “’งั้นให้ควีนไปกับคุณ ฝีมือเธอดีมาก”

หลินจือปฏิเสธอีกครั้ง “ไม่ต้องหรอก ฉันเรียกนานิไปฉันก็ได้”

นานิลูกพี่ใหญ่นี่ฝีมือก็ไม่แย่ เหตุผลที่หลินจือไม่ให้ควีนไปกับเธอเป็นเพราะไม่ว่ายังไงควีนก็ยังคงเป็นคนสนิทของเทาเท่

พูดถึงควีนนั้น หลินจือก็พูดด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อยกับเทาเท่ว่า “ฉันรู้สึกว่าควีนเหมือนจะชอบโซเมน และโซเมนก็สนใจควีนเหมือนกัน แต่โซเมนเจ้าชู้เกินไป ฉันกลัวควีนจะเสียใจ”

หลินจืออยากคุยเรื่องนี้กับเทาเท่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่แค่หาจังหวะที่เหมาะสมไม่ได้เฉยๆ

ถึงแม้โซเมนจะไม่เลวในฐานะที่เป็นเพื่อน แต่ในฐานะผู้ชาย เขาไม่ใช่คู่ที่เหมาะสมกับผู้หญิง

เทาเท่พูดเบาๆ “สบายใจได้ มีฉันห้ามไว้ โซเมนไม่กล้าทำอะไรหรอก”

ถึงแม้เทาเท่จะมั่นใจมากกับคำพูด แต่เขาลืมไปว่าถ้าควีนอยากจะจมปลักเข้าไป เขาห้ามก็ห้ามไม่อยู่