ตอนที่ 578 คนคนนั้นที่ตั้งใจมาก

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 578 คนคนนั้นที่ตั้งใจมาก
มีหลายคนที่พึ่งเคยเห็นวิธีการแกะสลักขั้นเทพอย่างนี้เป็นครั้งแรก ตอนนี้นอกจากจะพูดชมก็ไม่มีคำใดพูดออกมาแล้ว

เฉินเจียวที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง วิธีการแกะสลักของสร้อยกำไลที่อยู่ตรงหน้า ดีกว่าหยกแกะสลักเขามาก

เพราะว่าลวดลายบนลูกปัดหยกนั้นแกะสลักยากกว่าการแกะสลักหยกชิ้นใหญ่นั้นยากกว่ามาก

“นี่จะอัศจรรย์เหลือเกินไปมั้ย คนที่อยู่ไกลอาจจะมองไม่เห็นลวดลายของลูกปัดบนสร้อยกำไลหยกนี้”

“ใครกันที่เป็นคนแกะสลักหยกชิ้นนี้ออกมา”

“แต่ว่าเมื่อกี้คุณซูบอกเองไม่ใช่หรอว่าเป็นเพียงแค่ช่างธรรมดาแก่ๆ คนหนึ่ง หรือว่าตอนนี้จะเป็นช่างที่เก่งกว่าช่างที่มีชื่อเสียงที่สุดในตอนนี้”

“ขวัญขวัญที่ธรรมดาคุณซู แต่ตอนนี้ดูแล้วน่าจะใช้ความพยายามมากเลย!”

ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็พูดชม จนมีคนอยากจะถามซูฉิงว่าไปสั่งทำสร้อยกำไลหยกนี่มาจากไหน

คุณปู่รีบเก็บกำไลข้อมือลง อย่างทนุถนอมเหมือนกับของล้ำค่า เขามองดูจี้พระพุทธรูปด้านบน

ทันใดนั้นเหมือนจะลูบเจออะไรด้านหลัง แล้วตอนที่พลิกดู ก็เห็นตรงมุมสี่เหลี่ยมแกะสลักชื่อ

ใช้อักษรลี่ชูแกะสลักชื่อสองตัวอักษร

คุณปู่ฮ่อกะพริบตา คิดว่าอักษรสองตัวนี้คุ้นตามา เขามองไปทางซูฉิงแล้วลองถามดู:”คนนี้ ปู่รู้จักมั้ย”

ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มน่ารักออกมา :”แน่นอนว่าคุณปู่รู้จักค่ะ ก็คือคุณปู่กู้ชวนไงคะ”

“เธอ เธอไปพูดให้ตาแก่นั่นทำให้ได้หรอ”

คุณปู่ฮ่อมองซูฉิงอย่างเหลือเชื่อ เขาเคยเจอหน้ากู้ชวนอยู่หลายครั้ง แต่เพราะว่านิสัยดื้อรั้นของเขา เลยทำให้รู้สึกไม่ชอบเขา แต่คุณปู่ฮ่อกลับคิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะรู้จักเขาด้วย

คนที่อยู่ข้างๆ ได้ยินอย่างนั้นก็เหมือนกับสมองขาวโพลน และมีพวกกลุ่มวัยรุ่นแอบซุบซิบกัน

“กู้ชวนเป็นใครหรอ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มากก่อนเลย”

“น่าจะเป็นช่างแกะสลักที่เก่งมากมั้ง”

เฉินเจียวกะพริบตาปริบๆ เธอพยายามลองนึกชื่อของกู้ชวนก็นึกไม่ออก เธอกล้ามั่นใจได้เลยว่าไม่รู้จักช่างแกะสลักที่มีชื่อว่าอะไรกู้ชวนคนนี้แน่ และคนที่มีชื่อเสียงยิ่งไม่มีคนอย่างนี้

ด้วยเหตุนี้เฉินเจียวเลยคิดว่าซูฉิงไปหาช่างยอดฝีมือธรรมดา และสั่งทำสร้อยกำไลข้อมือเส้นนี้ออกมา

“แต่ว่าหนูแอบปิดบังคุณปู่กู้เอาไว้ เรื่องที่ให้เขาสอนหนูแกะสลักสร้อยกำไลข้อมือ ไม่งั้นถ้าหากเขารู้เรื่อง ว่าสร้อยกำไลข้อมือนี้จะเอามามอบให้คุณปู่ เขาจะต้องโกรธหนูแน่เลย”

ซูฉิงนึกถึงหน้ากู้ชวนก็แอบรู้สึกปวดหัว

“สอนเธองั้นหรอ”คุณปู่ฮ่อจับใจความสำคัญจากที่ซูฉิงพูดเมื่อกี้

ซูฉิงอ้ำอึ้ง สุดท้ายเลยพยักหน้าพูด:”ใช่ค่ะ ลายของสร้อยกำไลข้อมือนี้เป็นคุณปู่กู้สอนหนูด้วยตัวของเขาเอง แต่ว่าหนูยังไม่เก่งขนาดนั้น มีบางที่ที่คุณปู่กู้มาช่วย”

ซูฉิงที่พูดจริงครึ่งหนึ่งไม่จริงครึ่งหนึ่ง เรื่องจริงก็คือว่าลวดลายบนกำไลนี้คุณปู่กู้เป็นคนสอนซูฉิง เรื่องไม่จริงก็คือที่จริงแล้วซูฉิงรู้เรื่องการแกะสลักอยู่แล้ว ท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่มือใหม่จะแกะสลักสิ่งที่ดีเช่นนี้

คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะพูดมาอย่างนี้ ตอนนี้สายตาหลายคู่จับตามองที่ซูฉิงกเหมือนคิดอะไรอยู่

“เสี่ยวฉิง เธอยังมีเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรที่ปู่ยังไม่รู้อีกมั้ย”คุณปู่ฮ่อตบหลังมือของซูฉิงแล้วพูดชม ยิ่งรู้สึกชอบ

เขารีบหันไปทางฮ่อหยุนเฉิง แล้วรีบส่งสัญญาณให้เขารีบขอว่าที่หลานสะใภ้นี้แต่งงานซะ

ฮ่อหยุนเฉิงสายตาระริก มองไปทางซูฉิงด้วยสายตาอ่อนโยน

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เธอจะแกละสลักของอย่างนี้ออกมาได้ยังไง!”

เฉินเจียวที่ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของซูฉิง เพราะคิดว่าเรื่องที่แพ้พนันหินนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องอุบัติเหตุ

ดังนั้นวันนี้เฉินเจียวเลยตั้งใจนำหยกแกะสลักมามอบให้กับคุณปู่ฮ่อ เพื่อที่จะกดขี่ซูฉิง แต่เฉินเจียวคิดไม่ถึงเลยว่าซูฉิงจะทำอย่างนี้

“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรอว่า คุณปู่กู้ชวนช่วยฉันมาก”ซูฉิงพูดเสียงเบา

เฉินเจียวที่ได้ยินอย่างนี้ก็ยกมุมปากก็แข็งทื่อ :”อยากจะไปเจอกับท่านอาวุโสกู้ชวนจริงๆ เลย จะต้องเป็นสุดยอดฝีมือแน่ ไม่รู้ว่าคุณซูไปเจอท่านที่ไหน”

เฉินเจียวที่ถามมาอย่างนี้ ก็มีความคิดอยู่แก่ใจ หลังจากที่เธอกลับไปจะต้องไปตามหากู้ชวนคนนี้แน่

“บางทีคุณเฉินน่าจะรู้จักนะ แม้แต่ช่างยอดฝีมืออย่างหลิวเฉิงอวี่คุณก็ยังรู้จักเลย”ซูฉิงพูดจริงจัง

แต่เฉินเจียวที่ได้ฟังกลับรู้สึกว่าเป็นคำพูดเหน็บแนมมาก ตอนนี้ไม่ว่าจะเรื่องชนิดของหยกหรือเรื่องของการแกะสลัก ซูฉิงล้วนชนะเธอ

ถ้าหากว่าตาแก่นั้นเป็นเพียงแค่ช่างธรรมดาจริงๆ แล้วแกะสลักผลงานออกมาได้สวยงามอย่างนี้ เธอรู้จักกับหลิวเฉิงอวีจะไปมีประโยชน์อะไร

อีกทั้งเธอต้องใช้เวลานานมาก จนสุดท้ายต้องใช้ความสัมพันธ์ของตระกูลเฉินเป็นข้ออ้าง หลิวเฉิงอวี่ถึงได้ช่วยแกะสลักให้ ลงทั้งแรงและวัตถุไม่รู้ว่าเหนื่อยไปมากแค่ไหน

“คุณซูพูดตลกแล้ว ฉันไม่ได้รู้จักท่านผู้เฒ่าที่มีชื่อว่ากู้ชวนเลยนะ”

เฉินเจียวที่ลองนึกอย่างละเอียดแล้ว ว่าตัวเองไม่ได้รู้จักคนนี้จริงๆ เลย

“คุณซู ท่านผู้เฒ่ากู้ คนที่คุณพูดถึงคงไม่ใช่กู้จือเหิงใช่มั้ยคะ “และทันใดนั้นเองคนที่อยู่ข้างๆ คุณปู่ฮ่อที่ก็เอ่ยถามออกมา

“ใครหรอ!”พอได้ยินชื่อนี้ ก็มีคนส่งเสียงดังออกมาด้วยความตกตะลึง

“นึกขึ้นมาก็มีคนเดาถูกด้วย ใช่แล้ว ฉันรู้จักท่านผู้เฒ่ากู้จือเหิง”

ซูฉิงพูดต่อ จากนั้นก็หันไปมองเฉินเจียวที่อยู่ในความตกตะลึง แล้วถามอย่างอยากรู้ว่า”หรือว่าคุณเฉินไม่เคยได้ยินชื่อท่านผู้เฒ่ากู้จือเหิงหรอคะ”

ใช่แล้ว ซูฉิงตั้งใจพูดอย่างนี้

วันนี้ตอนที่เฉินเจียวเปิดกล่องของขวัญออกมาดูก็รู้ว่าวันนี้เธอมาเพื่อทำอะไร

“กู้จือเหิง………..”เฉินเจียวคิ้วขมวดเป็นปมพร้อมกับเอ่ยชื่อนี้ออกมา

ใครบ้างไม่รู้จักกู้จือเหิง นั่งเป็นสุดยอดด้านการแกะสลักเลยนะ และหลิวเฉิงอวี่ก็เป็นลูกศิษย์ของเขา

ตอนที่กู้จือเหิงมีชื่อเสียงนั้น เลือกที่จะเก็บมีดแล้วออกไปจากวงการแกะสลัก และลูกศิษย์ของเขาอย่างหลิวเฉิงอวี่ก็ค่อยๆ ได้รับความสนใจในเวลาต่อมาแล้วก็มีชื่อเสียโด่งดัง

เพียงแต่ว่าไม่มีใครรู้เลยว่าหลังจากนั้นกู้จือเหิงไปทำอะไร จนช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้ยินหลิวเฉิงอวี่บอกว่าอาจารย์ของเขาไปเที่ยวขึ้นเหนือล่องใต้ตามยุทธภพแล้ว

เฉินเจียวเคยคิดว่าจะหาวิธีมาสู้กับซูฉิงแต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วซูฉิงจะเอาหมากตัวของกู้เฉิงออกมา

ทันใดนั้นเอง เฉินเจียวก็ตกอยู่ในภวังค์ เธอไม่ยอม ทำไมทุกครั้งจะต้องเป็นซูฉิงที่ชนะ และทุกครั้งซูฉิงจะต้องกดขี่เธอตลอดเลย