บทที่ 154 ลูกเขยดีของแท้(2)

ซ่งหวั่นถิงรีบตอบ “คุณปู่มีอะไรให้ทำคะ?”

คุณท่านซ่งบอกว่า “ปู่อยากให้เธอไปทำให้เย่เฉินมาแต่งเข้าตระกูลเราให้ได้ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม!”

“อะไรนะ” คนในเหตุการณ์ รวมทั้งซ่งหวั่นถิงก็มีใบหน้ามึนงง ตกใจไปตามกัน

แต่ว่า ในใจของซ่งหวั่นถิง ก็มีความรู้สึกตื่นเต้นของผู้หญิงตัวน้อยขึ้นมา

แต่เธอก็พูดอย่างระวังว่า “คุณปู่คะ แต่อาจารย์เย่เขา เขาแต่งงานแล้วนะคะ……..”

“แต่งแล้วจะทำไม?” คุณท่านซ่งพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่ให้เขามีเมียเป็นฝูง มีลูกเป็นกอง พวกเราก็จะต้องเอาเขามาให้ได้ ถ้ามีลูกเขยดีๆ เช่นนี้มาเป็นหลักให้กับตระกูลซ่ง จะสามารถช่วยให้กำลังตระกูลซ่งเพิ่มขึ้นนับทวี ถึงขนาดเข้าขั้นตระกูลสุดยอดของหัวเซี่ยได้เลย ถ้าไม่มีลูกเขยดีๆ เช่นนี้มาเป็นหลักให้ อีกร้อยปี สามร้อยปี หรือหลังจากนี้ห้าร้อยปี ลูกหลานของพวกเรา ก็อาจจะไม่สามารถทำตามความฝันที่หวังไว้ได้ ที่จะให้ตระกูลซ่งก้าวขึ้นสู่สุดยอดตระกูลแห่งหัวเซี่ย”

ซ่งหวั่นถิงก็ลังเลอยู่นาน แต่ก็มีความหวังอย่างแรงกล้าเข้ามา

เธอมองปู่ของเธอ แล้วตั้งใจพูดว่า “คุณปู่คะ หวั่นถิง เข้าใจแล้วค่ะ?”

คุณท่านซ่งก็หัวเราะร่า “ดี ดี ดี ดีมากเลย ถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ หวั่นถิง เธอก็จะกลายเป็นผู้นำตระกูลซ่งคนต่อไป!”

คำพูดนี้พูดออกไป คนในเหตุการณ์ก็อึ้ง

ผู้นำตระกูลเคยให้ผู้หญิงเป็นเสียที่ไหน?

แต่ว่า คุณท่านซ่งกลับรับปากแบบนั้นไป!

ต้องรู้ก่อนว่า คำพูดของคุณท่านซ่งหนักแน่นมาก ตลอดชีวิตมานี้ไม่เคยผิดคำพูดเลย

ในตอนนั้น คนตระกูลซ่งทั้งหมดต่างก็ครุ่นคิด………….

…………

ตอนที่เย่เฉินกลับบ้าน ก็เป็นเวลา4ทุ่มแล้ว

แต่ว่า พอกลับถึงบ้าน ก็เห็นคนในบ้านนั่งอยู่ที่ห้องโถง บรรยากาศเคร่งเครียด ก็ทำให้เขาแปลกใจ

หม่าหลันเห็นเย่เฉินกลับมา แล้วก็ทำหน้าทำตาถามว่า “เย่เฉิน ไปไหนมา? ทำไมเพิ่งกลับตอนนี้? ยังมีบ้านนี้อยู่ในสายตาอยู่อีกไหม?”

เย่เฉินกำลังจะพูด ภรรยาเซียวชูหรัน ก็ขมวดคิ้ว เรียกว่ามาว่า “แม่คะ!”

หม่าหลันก็เลยไม่ได้ด่าต่อ

เย่เฉินถืออาการมาว่างบนโต๊ะ แล้วถามไปว่า “พวกคุณกำลังคุยอะไรกัน เคร่งเครียดกันเชียว?”

เซียวฉางควนก็ถามว่า “ข่าวใหญ่ของเมืองจินหลิงวันนี้ นายไม่รู้หรือไง?”

“ข่าวอะไรหรือครับ?”

“บริษัทเฉียนเฉิงประกาศล้มละลายสายฟ้าแลบ บริษัทที่ร่วมมือด้วยก็พากันยกเลิก พวกเจ้าหนี้ก็พากันหาอย่างกับนัดกันไว้ ประธานเหมยของบริษัทพวกเขาระบบเงินทุนเสียหาย ทรัพย์ของบ้านเสียหายภายในคืนเดียว แล้วยังเป็นหนี้อีกหลายพันล้าน เมื่อเช้าถูกเจ้าหนี้มาทวงจนต้องกระโดดตึก ตายคาที่ไปแล้ว…….”

เย่เฉินก็ทำท่าเป็นยังไม่รู้ข่าว พูดอย่างตกใจว่า “หรือครับ ทำไมอนาถขนาดนี้เลยหรือ?”

เซียวฉางควนส่ายหัว แล้วถอนหายใจพูดว่า “ก่อนหน้านี้ เหมยผิง อยู่ในสายทางอสังหาริมทรัพย์ ก็นับว่าเป็นคนระดับต้นๆ มีเงินมีอำนาจ ไม่รู้ว่าไปหาเรื่องใครเข้า ถึงได้จบสิ้นแบบนี้”

“คนแบบเขา ล้มละลายไปก็สมควรแล้ว” เซียวชูหรันหน้านิ่ง ไม่มีความเห็นใจไอ้คนลามกที่คิดจะลวนลามตนเอง

หม่าหลันก็ถอนหายใจพูดว่า ดังนั้นนะชูหรัน เปิดธุรกิจเองมันอันตรายเห็นไหม? อาจจะหาเงินไม่ได้ หรืออาจจะจบชีวิต!”

พูดจบ เธอก็มองเซียวชูหรัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ดังนั้นเธอก็อย่าคิดจะทำออฟฟิศอะไรเลย ความเสี่ยงมันสูง แม่จะบอกให้นะ เธอกลับไปบริษัทเซียวซื่อเสียดีๆ เถอะ ย่าของลูกรับปากว่าจะคืนตำแหน่งผู้อำนวยการดูแลให้ ลูกกลับไปก็ได้เงินเดือนเดือนละล้าน เยอะกว่าทำธุรกิจเองไหมละ?”