บทที่ 351 สมาชิกคณะกรรมการ

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 351 สมาชิกคณะกรรมการ
โอลิเวอร์ก็มองดูลูเซียนและขยับแว่นตากรอบสีทองบนจมูกของเขา “ถ้าอย่างนั้น… ลูเซียนก็ควรเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบและรับผิดชอบการตัดสินว่าผลการศึกษาชิ้นไหนจัดเป็นการล้มล้างทฤษฎีด้วยใช่ไหม?”

“วิธีคิดของเขาชอบฉีกกรอบเสมอ” หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที แฮททาเวย์ขอแสดงความเห็นสรุปสั้นๆ

มอร์ริสก็กล่าวเสริมยังไม่ค่อยเป็นสุข “เร็วๆ นี้ ข้อมูลใหม่ที่สร้างความตกตะลึงล้วนมาจากลูเซียนทั้งนั้น แน่นอน เขามีความเข้าใจในระบบอาร์คานาปัจจุบันและไม่ตีกรอบอยู่ในความคิดและความเชื่อของตัวเองเท่านั้น เขาสามารถนำเสนอมุมมองที่ลบล้างทฤษฎีได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราเชื่อได้ว่าเขามีความคิดที่เปิดกว้างพอสำหรับงานนี้ และการที่เขายังไม่ขึ้นชั้นอาวุโส ทำให้เขาเหมาะกับตำแหน่งนี้อย่างยิ่ง”

เหตุผลที่มอร์ริสไม่ค่อยไปส่งเท่าไร ก็เพราะเขารู้ว่าการค้นพบนี้จะทำให้ลูเซียนได้รับ ‘รางวัลมงกุฎแห่งโฮล์ม’ อีกครั้ง มอร์ริสต้องตั้งมาตรฐานการมอบรางวัลขึ้นมา เขาไม่มั่นใจว่ามาตรฐานเดิมซึ่งต้องสร้างผลงานความก้าวหน้าให้กับสำนักเวทธาตุและสามารถสืบทอดต่อในประวัติศาสตร์เวทมนตร์สายธาตุได้ ทำให้มีการมอบรางวัลกันง่ายๆ ตั้งแต่เมื่อไร

ห้องนิรภัยของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติจากการแสวงหาของมหาจอมเวท ผู้วิเศษระดับตำนาน ผู้วิเศษ และนักเวทชั้นอาวุโส เมื่อพวกเขาไปสำรวจมิติอื่น แม้ว่าความร่ำรวยซึ่งมาจากส่วนที่นักเวทผู้ทรงอำนาจไม่ได้ต้องการ แต่มูลค่าก็ยังสูงมาก รวมกับรายได้เพิ่มเติมของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุจากอุตสาหกรรมแร่แปรธาตุและผลตอบแทนจากภารกิจประจำวัน มอร์ริสสามารถมอบรางวัลได้เพียงปีละครั้งโดยไม่ต้องควักเงินออกจากคลังสมบัติ ตราบใดที่การมอบรางวัลไม่ได้เกิดขึ้นสองถึงสามครั้งในปีเดียว

เมื่อได้ยินดังนั้น จอมเวทชั้นอาวุโสคนอื่นต่างก็พยักหน้ารับเงียบๆ พวกเขาไม่อาจรับหน้าที่นี้ได้แน่นอน แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะสามารถยอมรับแนวคิดใหม่ได้ แต่ก็เป็นเพราะก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอมมาแล้ว

ดังนั้น การเลือกใช้จอมเวทหนุ่มผู้มีความคิดสร้างสรรค์ย่อมเป็นทางเลือกที่ดี

เมื่อถูกสายตาของเราจอมเวททั้งหลายจ้องมอง ลูเซียนก็รู้สึกว่าเขาสมควรได้รับตำแหน่งนี้

“ข้าเห็นด้วย แต่ด้วยชื่อเสียงและระดับของลูเซียน… ข้ายังไม่มั่นใจ…” โอลิเวอร์ยักไหล่

ลอเร็นก็มีความกังวลในเรื่องเดียวกัน “เขาเป็นเพียงจอมเวทระดับห้า นักเวทระดับห้า ข้าไม่คิดว่าเขาจะสามารถตรวจทานความทั้งหมดได้ และไม่รู้ว่าการตัดสินใจน่าเชื่อถือพอหรือไม่”

เฟอร์นันโดตอบ “แม้เขาจะมีปัญหาบ้างเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ แต่ในสายเวทธาตุ อุณหพลศาสตร์ แสง-ความมืด แม่เหล็กไฟฟ้า สนามแรง การเล่นแร่แปรธาตุ แล้วโหราศาสตร์ เขาก็ไม่เป็นรองจอมเวทอาวุโสคนไหน คนทั่วไปอาจมองว่าเขาไม่เหมาะเพียงเพราะเขาหนุ่มเกินไป แต่เขาสามารถเป็นคนตัดสินใจว่าผลการศึกษาชิ้นไหนเป็นการค้นพบใหม่และลบล้างทฤษฎีเดิมหรือไม่ แล้วค่อยส่งต่อบทความชิ้นนั้นให้กับจอมเวทคนอื่นตรวจทานต่อไป”

ระดับอาร์คานาเป็นมาตรฐานที่สำคัญ แต่ก็ไม่ใช่มาตรฐานเดียว

“หากอาร์คานาของเขาอยู่ในระดับหก ก็น่าจะพอ” อยู่ๆ แฮททาเวย์ก็พูดแทรกขึ้นมา สีหน้าของนางยังคงดูเยือกเย็น

จอมเวทระดับหกถือเป็นจอมเวทชั้นอาวุโส

ลอเร็นก็ตั้งคำถามขึ้นมา “ท่านหญิง บทความของลูเซียน อีวานส์ ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าอนุภาคที่ค้นพบใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างภายในอะตอม บทความชิ้นนี้จะทำให้เขาได้ค่าชื่อเสียงอาร์คานาเพียงสี่ร้อยถึงหกร้อยเท่านั้น ถึงจะรวมกับการอ้างอิงบทความ ข้าต้องบอกว่าเขายังห่างไกลจากการเลื่อนขั้นสู่จอมเวทระดับหก”

การค้นพบอนุภาคใหม่มีคุณค่าอย่างยิ่งและสมควรได้รับรางวัลที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับตารางธาตุ การค้นพบอนุภาคใหม่นำพาจอมเวทและนักเวทเข้าใกล้กับความจริงของโลกมากกว่าอีกขั้นหนึ่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัติ รางวัลที่ได้รับควรเท่าเทียมกับการค้นพบของบรูคซึ่งพิสูจน์ว่าแสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง บรูคได้รับค่าชื่อเสียงหนึ่งพันคะแนน และลูเซียนอาจได้รับเพียงครึ่งหนึ่ง เพราะบทความของเขายังไม่ได้พิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างอนุภาคใหม่กับอะตอม

“เจ้าลืมการอธิบายของเราไปแล้วหรือ?” ราเวนติคำรามใส่ลอเร็น “ปัจจัยการอ้างอิงในอาร์คานาตัดสินแล้วให้มีคะแนนสามเท่า เริ่มบังคับใช้เดือนหน้า!”

ปัจจุบัน ลูเซียนได้เผยแพร่บทความลงในอาร์คานาแล้วสี่ชิ้น ปัจจัยการอ้างอิงทางวิชาการหมายความว่าค่าชื่อเสียงจากการอ้างอิงที่ลูเซียนจะได้รับจะเป็นสามเท่าจากที่เขาได้รับในตอนนี้ภายในสิ้นเดือนหน้า นั่นเป็นแนวโน้มที่ดีอย่างยิ่งว่าลูเซียนจะได้รับค่าชื่อเสียงมากกว่าสองพันคะแนนในทุกๆ เดือน

“ราเวนติ ท่านนั่นแหละน่าจะรู้ว่าตอนนี้เป็นเพียงกระแส ทำให้การอ้างอิงบทความของลูเซียนกอบโกยค่าชื่อเสียงได้มาก ข้าไม่คิดว่ากระแสนิยมนี้จะอยู่ได้นาน และถึงแม้จะอยู่ได้นานก็ตาม ก็ยังต้องใช้เวลาอีกสี่หรือห้าเดือนกว่าที่ลูเซียน อีวานส์ จะเลื่อนสู่ขั้นอาวุโส เราจะให้เขาเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบตอนนี้เลยไม่ได้! ผู้คนจะไม่เชื่อในตัวเขา!” ลอเร็นปฏิเสธ

เมื่อรู้ว่ากระแสการอภิปรายอันดุเดือดเกี่ยวกับการค้นพบครั้งใหม่ของลูเซียนจะคงอยู่เป็นเวลานาน ลอเร็นก็พยายามกดดันให้เลื่อนการตัดสินใจออกไป และทำให้การประชุมยุติลงโดยไม่มีผลอะไรชัดเจน

จอมเวทและสมาชิกคณะกรรมการหลายคนเห็นชอบ ธรรมเนียมปฏิบัติที่สมาชิกคณะกรรมการต้องเป็นจอมเวทชั้นอาวุโสไม่ควรถูกทำลาย

ราเวนติใจเย็นลงได้บ้างและพยักหน้า ในสายตาของเขา ลูเซียนจะกลายเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาเมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น

“เขาเลื่อนขึ้นสูงระดับหกได้ตอนนี้เลย” แฮททาเวย์ประกาศต่อทุกคนในห้อง

ทุกคนในที่ประชุมซึ่งรวมถึงเฟอร์นันโดต่างงุนงง ทุกคนต่างสงสัยว่าลูเซียนจะค่าชื่อเสียงอีกแปดเก้าร้อยคะแนนมาจากไหนในตอนนี้

มอร์ริสเป็นคนแรกที่เข้าใจความหมายของแฮททาเวย์ เขาหันไปทางลูเซียนและพยายามมองหาความเห็นจากเขา

ลูเซียนเองก็เข้าใจสิ่งที่แฮททาเวย์เสนอและพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

มอร์ริสหันไปรอบๆ และฝืนยิ้มออกมา “ผู้ออกแบบการทดลองมหัศจรรย์ที่ก่อกำเนิดชีวิต ก็คือ ลูเซียน”

ช่างเหนืออาร์คานา นั่นหมายความว่าทั้ง ‘รางวัลมงกุฎแห่งโฮล์ม’ อีกสมัย หรืออาจรวมถึง ‘รางวัลบัลลังก์นิรันดร’!

ทุกคนในห้องประชุมต่างตกตะลึงสุดขั้วหัวใจ จอมเวทและสมาชิกคณะกรรมการทั้งหลายต่างจ้องมองลูเซียน ราวกับไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

“เขา… ออกแบบการทดลองครั้งนั้น?!” ลอเร็นยังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

ข้อเท็จจริงที่ว่าการทดลองครั้งนั้นสามารถสร้างองค์ประกอบชีวิตตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อมดึกดำบรรพ์ที่สร้างขึ้นมาทำให้จอมเวททุกคนต่างตกตะลึง ซึ่งรวมถึงคนที่ไม่ได้ศรัทธาใน ‘ทฤษฎีพลังชีวิต’ และจอมเวททุกคนที่ต้องการศึกษาลึกลงไปถึงความลับของชีวิต

เมื่อเห็นการตอบสนองในลักษณะ ลูเซียนรู้ว่าอันดับของเขาใน ‘บัญชีกวาดล้าง’ คงไต่อันดับพุ่งพรวดอย่างบ้าคลั่ง

“มอร์ริส! เจ้าไม่ควรพูดออกมา!” ราเวนติโมโหมาก

แม้เขาจะเห็นลูเซียนพยักยอมรับ ราเวนติไม่คิดว่าลูเซียนพร้อมรับมือกับภัยใหญ่หลวงจากศาสนจักร

มอร์ริสยิ้ม “แม้การค้นพบอนุภาคใหม่ไม่ได้โจมตีพระเจ้าแห่งสัจธรรมรุนแรงเท่าการทดลองชีวิตมหัศจรรย์ แต่ก็ยังเป็นการล้มล้างระบบพลังเทพที่พัฒนาขึ้นมา ไม่ว่าลูเซียนจะเป็นผู้ออกแบบการทดลองชีวิตมหัศจรรย์หรือไม่ ลูเซียนก็จะถูกศาสนจักรปองร้ายอยู่แล้ว แล้วตอนที่ชื่อของเฟลิเปติดอยู่ในร้อยอันดับแรก เขาอยู่ในระดับห้าเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าลูเซียนจะด้อยไปกว่าเขาแน่นอน”

“แฮททาเวย์เก็บเรื่องนี้เป็นความลับมานาน” ดักลาสพูดกับลูเซียนอย่างอ่อนโยน “วันนี้ ข้าได้รู้เสียทีว่าใครออกแบบการทดลองที่ข้าชื่นชมเอามากๆ การทดลองครั้งนั้นทำให้เราได้รู้หลายอย่าง เจ้าเป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดตั้งแต่ข้าเคยเห็น ข้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบ”

เฟอร์นันโดถึงกับนวดขมับ และรู้สึกว่าลูกศิษย์ของเขาเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนักหน่วง

ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการสาขาสำนักเวทธาตุและการเล่นแร่แปรธาตุ แกสตันก็ยิ้มออกมา “ค่าชื่อเสียงสำหรับการทดลองชีวิตมหัศจรรย์น่าจะอยู่ที่ประมาณหกร้อยคะแนน บวกกับคะแนนจากการอ้างอิงทั้งหมด ลูเซียนน่าจะได้ค่าชื่อเสียงเกือบหนึ่งพันคะแนนในทีเดียว แล้วลูเซียนก็ยังมีบทความเรื่องการค้นพบอนุภาคใหม่ ถ้านับรวมๆ แล้ว ตอนนี้ลูเซียนก็เป็นจอมเวทระดับหกแล้ว อย่างเดียวที่เขาต้องทำก็คือการปรับข้อมูลในเหรียญตราให้เป็นปัจจุบันเท่านั้น ท่านยังมีปัญหาอะไรอีกไหม?”

“ไม่” ลอเร็นตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

มีความเป็นไปได้สูงที่ลูเซียนจะได้รับ ‘รางวัลมงกุฎแห่งโฮล์ม’ ถึงสามสมัย และเป็นว่าที่ผู้ได้รับ ‘รางวัลบัลลังก์นิรันดร’ ตอนนี้เขาก็เป็นจอมเวทระดับหก ลูเซียนมีคุณสมบัติเพียงพอจะเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาอย่างแน่นอน!

โอลิเวอร์พยักหน้าเบาๆ และยอมรับ ดักลาสก็ประกาศ “ในอนาคต เมื่อมีการเสนอบทความ ผู้เขียนต้องระบุหมายเหตุไว้ด้วยว่าบทความมีผลการศึกษาหรือมุมมองที่ล้มล้างทฤษฎีเดิม หรือมีผลการศึกษาที่ขัดแย้งกับทฤษฎีที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ ลูเซียนจะเป็นผู้ตรวจสอบบทความพวกนี้”

“ขอแสดงความยินดีด้วย อีวานส์” มอร์ริสพูดกับลูเซียนด้วยรอยยิ้มที่ข่มขืน

เขาเป็นสมาชิก ‘คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา’ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์!

…………………………………….