มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 487

เวย์ลอนลุกยืนขึ้นและตะคอกใส่

ด้วยความรู้สึกตกตะลึง วอร์ริคและคนของเขาหยุดทันที

“ชายหนุ่ม นายกำลังร้องขอความตายเหมือนกันเหรอ?”

วอร์ริคเดินอวดไปที่เวย์ลอน ใบหน้าของเขาดุร้ายและมืดครึ้ม

“อย่าไปยุ่งกับเขา! นายไม่รู้เหรอว่าพ่อของเขาเป็นใคร?”

แม้เซลล่าได้ลิ้มรสความเป็นจริงที่โหดร้ายที่สุดในช่วงสองสามปีมานี้ ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเผชิญกับเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ความรู้สึกของความปลอดภัยที่เธอรู้สึกในตัวแจ็คกี้ก็หายไปหมดแล้ว

เมื่อมองดูว่าสิ่งต่าง ๆ กลายออกมาเป็นอย่างไร ดูเหมือนราวกับว่าเวย์ลอนจะจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับแจ็คกี้

แม้ว่าจะถูกปกคลุมไปด้วยความกลัว แต่เซลล่าก็รู้สึกอยากจะเปิดเผยภูมิหลังครอบครัวของเวย์ลอนเพื่อทำให้วอร์ริคและคนของเขากลัวจนจากไป

“เหอะ! เขาเป็นใครล่ะ?”

ก่อนที่เซลล่าจะทันได้ตอบกลับ เวย์ลอนก็จับแขนของเธอและแสดงท่าทางให้เธอหุบปากไว้

“เซลล่า ฉับบอกเธอมาก่อนว่าฉันไม่ต้องการให้ครอบครัวของฉันมาเกี่ยวข้องในเรื่องของตัวฉันเองใด ๆ ในอนาคต มาอยู่หลังฉัน ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะคลี่คลายปัญหานี้เอง!”

เวย์ลอนตอบ

“อ่า? แต่เวย์ลอน…”

“แค่ยืนอยู่หลังฉันก็พอ!!”

เวย์ลอนคำรามใส่เซลล่า

เซลล่าพยักหน้าอย่างขวยเขิน ทั้ง ๆ ที่กำลังถูกตะคอกใส่ แต่เธอกลับรู้สึกถึงความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาฉับพลันลึก ๆ ลงไปในใจของเธอ

เธอยืนอยู่หลังเขาอย่างเชื่อฟัง

“บิ๊กวอร์ ฉันชื่อเวย์ลอน เล็ตส์ ฉันเริ่มบริษัทเล็ก ๆ ของตัวเอง ฉันรู้ว่านานมีชื่อเสียงแค่ไหนในอุตสาหกรรมใต้ดิน พี่ชายอุปถัมภ์ของฉันจากเมืองเมย์เบอร์รี่ก็รู้ว่านายเป็นใครเหมือนกัน”

เวย์ลอนยิ้มให้วอร์ริค พยายามที่จะผ่อนคลายสถานการณ์

“โอ้ เป็นงั้นเหรอ?” วอร์ริคเลิกหัวคิ้วขึ้น แสร้งทำเป็นตกใจ

ฟรานเซสก้าที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็เริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกชื่นชมและขอบคุณเวย์ลอนมากขึ้น เมื่อเธอเห็นว่าเขาจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสุขุม

“พี่ชายอุปถัมภ์ของนายก็รู้จักว่าฉันเป็นใครเหมือนกันงั้นเหรอ? และก็มาจากเมืองเมย์เบอร์รี่ด้วย? เขาชื่ออะไรล่ะ?”

วอร์ริคหยุดไปชั่วขณะก่อนจะถามเวย์ลอน

“เจซัน แซนเดอร์ เขามีอำนาจและมีอิทธิพลมากทั้งในเมืองเมย์เบอร์รี่ และมณฑลเงียบสงบแห่งนี้ ทุกคนเรียกเขาว่าเจซันผู้ยิ่งใหญ่ นายเคยได้ยินเขามาก่อนไหม บิ๊กวอร์?”

เวย์ลอนตอบ ยิ้มอย่างสุภาพ

“ว่าไงนะ? เจซันผู้ยิ่งใหญ่คือพี่ชายอุปถัมภ์ของนายเหรอ?”

วอร์ริคถามขึ้นมา ขณะที่ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันที

การแสดงของเขาน่าเชื่อจริง ๆ

“ไร้สาระ! เจซันผู้ยิ่งใหญ่คือใคร? เขามาจากองค์กรเมย์เบอร์รี่ นายจะไปรู้จักคนอย่างเขาได้อย่างไร?”

วอร์ริคซักไซร้เขาทันที

ความจริงแล้ว ฟราเซสก้าก็สงสัยในคำพูดของเขาเหมือนกัน เธอพบว่ามันแปลก ๆ ที่คนอย่างเวย์ลอนจะมีเส้นสายใหญ่ขนาดนั้นได้

นอกจากนี้ มันช่างเป็นการกล่าวอ้างที่ใหญ่โตว่าเจซันผู้ยิ่งใหญ่คือ พี่ชายอุปถัมภ์ของเขา!

“เหอะ นายไม่เชื่อฉัน ใช่ไหม? ถ้านายไม่เขื่อฉัน ฉันสามารถโทรหาพี่ชายอุปถัมภ์ของฉันได้เสมอในตอนนี้ และให้เขามาพูดกับนายเป็นการส่วนตัวถ้างั้น!”

เวย์ลอนตอบอย่างใจเย็นก่อนจะโทรหาเจซัน

แน่นอน เขาได้เล่าให้เจซันฟังถึงเรื่องนี้ไว้แล้วล่วงหน้า และขอความช่วยเหลือของเขาให้แสดงละครตบตาและส่งต่อถ้อยคำในนามของเขา

จุดประสงค์เดิมของเขาก็แค่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับศัตรูของเขา

ท้ายที่สุดแล้ว เนื่องจากว่าเจซันไม่ได้จัดการช่วยเหลือเวย์ลอนในครั้งที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงตกลงกับความช่วยเหลือนี้ในวันนี้

“พี่ชาย คุณยุ่งไหมครับ? ผมเผชิญกับปัญหาบางอย่างอยู่…โอ้ ใช่ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่จอนห์แบรี่ บิสโต มีคนที่ชื่อ วอร์ริค ยาเคลที่กำลังรอเพื่อนของผมกับผมอยู่!”

“อะไรนะ? คุณอยู่ใกล้ ๆ จอนห์แบรี่ บิสโตงั้นเหรอ? ดังนั้นคุณจะมาที่นี่ตอนนี้ใช่ไหม?”

เวย์ลอนตกอยู่ในความรู้สึกยินดี จนไม่สามารถระงับความดีใจของเขาเอาไว้ได้

เมื่อพวกเขาคุยโทรศัพท์กันก่อนหน้านี้ พวกเขาได้วางแผนไว้แล้วว่าให้เจซันพูดไม่กี่คำผ่านโทรศัพท์กับวอร์ริค แต่คาดไม่ถึงเจซันจะมาที่นี่เป็นการส่วนตัวจริง ๆ

จากนั้นเวย์ลอนก็วางสายโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น

“เป็นเจซันผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ!”

ขณะที่เขากล่าวไปแบบนี้ วอร์ริคก็แสร้งทำเป็นว่าช็อกสุดขีด เขายังแสร้งทำราวกับว่าเขากลัวมากเกินไปจนขยับตัวไม่ได้อีกด้วย

หนึ่งในเงื่อนไขของวอร์ริคก่อนที่เขาจะตกลงแสดงละครตบตาให้เวย์ลอนก็คือ เพื่อที่เขาจะสามารถผูกมิตรกับเจซันผู้ยิ่งใหญ่ได้ผ่านเวย์ลอน ท้ายที่สุดแล้ว วอร์ริคก็รู้ว่าเวย์ลอนมาจากภูมิหลังครอบครัวที่น่าสนใจ

หาไม่แล้ว เขาจะไม่ตกลงแสดงละครตบตาในครั้งนี้ เพื่อเขาโดยไม่มีเหตุผลใด ๆ หรอก

“หึ! ในที่สุดนายก็กลัวแล้วเหรอตอนนี้?!”

เซลล่าเย้ยหยัน

เธอยังคงรู้สึกโกรธจัดที่คนกลุ่มนี้พังโทรศัพท์ของเธอไปเมื่อครู่นี้

ไม่นานหลักจากนั้น ประตูก็เหวี่ยงเปิดออกอีกครั้ง

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดสูทเรียบร้อยและรองเท้าหนังก้าวเข้ามาในห้อง