บทที่ 275 ประหารก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือคิดไม่ถึงเลยว่า เพียงชั่วข้ามคืน เธอจะขึ้นมาอยู่บนแถบการค้นหายอดนิยมอีกครั้ง

ชื่อเรื่องการค้นหายอดนิยม : ‘หลินจือแม่ดอกทอง ผู้ไร้ใครเทียบ’

เนื้อหาภายในโพสต์จารไนความผิดบาปของเธอออกมาทีละอย่าง ส่วนใหญ่เน้นย้ำว่าตอนที่แต่งงานเข้าบ้านอดีตสามี เพราะเธอใช้วิธีสกปรกด้วยการวางยาอดีตสามี เพื่อบีบบังคับให้เขามีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอ จนต้องเธอได้เข้าไปอยู่ในบ้านของอดีตสามีอย่างไร้ยางอาย อดีตสามีไม่มีทางเลือก จึงต้องแต่งงานกับเธอ

เนื้อหาในโพสต์ยังพูดอีกว่า เพราะอดีตสามีคนนั้นเขาไม่ได้รักเธอ ดังนั้นในเวยป๋อของเธอในเวลานั้นจึงมีแต่เรื่องคับแค้นใจ หลังจากนั้นเธอใช้เวลาสามปีแต่หัวใจผู้เป็นอดีตสามีก็ยังเย็นชา ตัวเธอเองจึงท้อแท้ใจและเลิกรากันในที่สุด

ประโยคสุดท้ายกล่าวสรุปไว้ว่า หลินจือเป็นแม่ดอกบัวขาวไร้ใครเทียบ เห็นได้ชัดว่าแผนการของเธอคือกรรมสิทธิ์และเงินทองของครอบครัวอดีตสามี แต่ปากกลับพล่ามถึงแต่ความรัก ช่างตอแหลตลบตะแลงเสียจริง

ในช่องแสดงความคิดเห็นยังด่าและแหกหน้าเธออีกว่า เดิมทีคิดว่าเป็นสตอร์เบอร์รี่ แต่ที่ไหนได้เป็นดอกทองนี่เอง

หลินจือกลอกตามองบน เธอเป็นสตอร์เบอร์รี่อะไรนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

สวย หน้าตาดี มีระดับ ทั้งยังร่ำรวย ถ้อยคำสำหรับผู้หญิงเก่งเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าสื่อพวกนั้นบัญญัติไว้ให้เธอหรอกเหรอ ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำพูดกล่าวว่าเธอเป็นสตอร์เบอร์รี่?

เมื่อได้อ่านความคิดเห็นเหล่านี้ยิ่งได้แต่มึนงง มีการค้นหาหลายต่อหลายครั้งจนได้รับความสนใจมากมาย เมื่อถูกด่ามากๆ เข้า จนเธอรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

สิ่งที่หลินจือเป็นกังวลก็คือ คำกล่าวหาพวกนี้จะพาดพิงไปถึงจอร์แดน

เธอกำลังได้ครอบครองตำแหน่งการค้นหายอดนิยม แน่นอนว่าจอร์แดนย่อมเห็นมันเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกคือ จอร์แดนกลับไม่ได้โทรศัพท์มาหาเธอ แล้วถามไถ่รายละเอียดในทันที

หลินจืออยู่คนเดียวภายในห้องนอน และไม่รู้ว่าเทาเท่อยู่ที่ไหน

ตั้งแต่เข้านอนเมื่อคืนหลินจือไล่เทาเท่ไปอยู่ห้องรับแขก แต่จะเป็นจะตายอย่างไรเขาก็จะอยู่กับเธอที่นี่ เธอจึงทำได้เพียงแต่ปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง

เมื่อลุกขึ้นจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วลงไปด้านล่าง เทาเท่กำลังอยู่ในห้องครัว

ชายหนุ่มสวมชุดอยู่บ้านสีดำ ทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีชมพูของเธอคาดอยู่บนเอวอย่างตลกๆ เพ่งความสนใจไปยังแซนด์วิชที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า

แม้ว่าภาพตรงหน้าจะอยู่อบอุ่นอย่างอธิบายไม่ถูก แต่หลินจือก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แบบนี้เขาถือว่าเป็นพ่อครัวประจำบ้านเธอหรือเปล่า

เมื่อเทาเท่เห็นเธอลงมายังชั้นล่าง มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นทันที “อีกเดี๋ยวก็ได้ทานแล้ว”

“ขอบคุณ” หลินจือไม่เคยชินกับความอบอุ่นอ่อนโยนในตอนนี้ของเทาเท่เลยจริงๆ จึงไม่เดินเข้าไปในห้องครัวโดยตรง กลับนั่งลงบนโต๊ะอาหารที่อยู่ข้างๆ

เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่เกรงกลัวต่อเทวดาฟ้าดิน แต่กลับหวาดกลัวเรื่องความรักและรอยยิ้มอบอุ่นที่เทาเท่มอบมันให้เธอ

เมื่อเทาเท่ทำแซนวิชเสร็จเรียบร้อยเขาก็ยกมันออกมาวางไว้ตรงหน้าหลินจือ แล้วเอ่ยว่า “เรื่องการค้นหายอดนิยมผมติดต่อให้คนไปเพิกถอนเรียบร้อยแล้ว”

หลินจือรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย “เพิกถอนการค้นหายอดนิยมได้รวดเร็วขนาดนั้น ฉันจะไม่ยิ่งถูกด่าหาว่าใช้เงินเพื่อจบปัญหาเหรอ”

เทาเท่พูดโดยไม่คิดอะไร “ก็ใช้เงิน แล้วมันยังไง?”

หลินจือ “…”

หลินจือไม่อยากสนใจเทาเท่ จึงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารต่อไป

เทาเท่นั่งลงตรงข้ามเธอเงียบๆ “เรื่องเพิกถอนการค้นหายอดนิยมพ่อของคุณก็เห็นด้วย”

หลินจือแปลกใจ “คุณติดต่อกับพ่อฉันงั้นเหรอ”

เทาเท่ “พูดกันตามความจริง เขาเป็นคนติดต่อผมมา”

เมื่อตอนเช้าตรู่ โทรศัพท์มือถือของเขาได้รับสายเรียกเข้าจากจอร์แดน ถามเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

และเหตุผลที่จอร์แดนโทรมาหาเขา เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอดีตสามีอย่างเขาโดยตรง

“คุณ… ไม่ได้บอกเรื่องของเรากับพ่อฉันใช่ไหม” เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลินจือกังวลมากที่สุด

เทาเท่กัดฟันพูด “ถ้าผมบอกไป คุณคิดว่าผมจะยังนอนหลับได้อย่างสบายจนถึงตอนนี้อยู่ไหม”

หลินจือครุ่นคิด ก็จริง ถ้าจอร์แดนรู้ว่าเธอกับเทาเท่นอนอยู่ด้วยกัน เขาคงโกรธจนโทรศัพท์มาหาเธอจนสายระเบิดแน่ มิหนำซ้ำตอนนี้คงอยู่บนเครื่องเพื่อบินมายังเมืองเจสเวิร์ดแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เทาเท่เริ่มลงมือรับประทานอาหารเช้า พร้อมพูดกับหลินจือด้วยท่าทางสบายๆ “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมกับพ่อของคุณคิดแผนรับมือเรียบร้อยแล้ว”

หลินจืออยากรู้อยากเห็น “แผนรับมืออะไร”

“ตอนนั้นคุณถูกสองพ่อลูกชาร์ลีวางแผนให้ร้าย ความสัมพันธ์ของเราที่เกิดขึ้นคุณจึงไม่มีทางเลือก ดังนั้นพ่อของคุณจึงวางแผนจะไปหาพวกเขา ให้พวกเขาออกมาชี้แจง” เทาเท่พูดเรื่องเหล่านี้ออกมา ราวกับกำลังตบหน้าตัวเอง

ตอนนั้นไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของเธอ ตอนนี้เขายอมรับได้เต็มว่าเธอก็เป็นผู้ถูกประทุษร้ายในคืนนั้นด้วยเหมือนกัน

หลินจือละทิ้งเรื่องราวในอดีตเหล่านั้นไปแล้ว เธอกังวลใจเรื่องอื่นมากกว่า “พวกเขาสองคนตกลงไหม”

ตอนนี้สองพ่อลูกชาร์ลีคงเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ สภาพน่าอนาถของพวกเขาในตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเธอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จอร์แดนจัดการกับพวกเขาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งสองพ่อลูกถึงขนาดต้องได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

เมื่อเทาเท่คิดถึงสองพ่อลูกนี้ขึ้นมาได้ จึงพูดเย้ยหยันว่า “พวกเขาสองคนจะกล้าดีไม่ตกลงงั้นเหรอ”

ราวกับเพื่อสร้างความสบายใจให้หลินจือ ชายหนุ่มพูดเสริมขึ้นว่า “พ่อคุณบอกว่า พวกเขาสองคนเต็มใจมากๆ”

หลินจือขมวดคิ้ว “พ่อฉันไม่ได้ให้เงินพวกเขาใช่ไหม”

“เปล่า” เทาเท่ปฏิเสธ “ตอนนี้คุณมีตระกูลแม็กซิมัสคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แม้ไม่ยัดเงินพวกเขาสองคนก็ต้องหวาดกลัวอยู่แล้ว และจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จไปด้วยดี”

เดิมทีเทาเท่กำลังจะพูดว่า เธอยังมีเขาคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกคน

แต่คาดว่าเธอคงไม่อยากฟัง ดังนั้นจึงไม่ได้พูดออกไป

แต่สองพ่อลูกชาร์ลีรู้ชัดว่าตอนนี้เขาคอยเป็นที่พึ่งให้หลินจืออยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือตระกูลแม็กซิมัส ไม่ว่าใครพวกเขาก็ไม่อาจต้านทานได้อยู่ดี ดังนั้นเมื่อจอร์แดนไปพบพวกเขา พวกเขาจะกล้าพูดถึงเรื่องเงินเสียที่ไหนกันล่ะ

เมื่อได้ฟังคำพูดของเทาเท่ หลินจือก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก้มหน้ารับประทานอาหารต่อไป

เทาเท่ไม่ได้พูดอะไรอีก รับประทานอาหารไปด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย

เรื่องนี้นอกจากให้จอร์แดนเป็นคนดำเนินการ เขายังออกหน้ารับมือด้วยเช่นกัน

เขามอบหมายงานให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของฟอเรนากรุปเป็นที่เรียบร้อย เฝ้ารอคอยให้ชาร์ลีออกหน้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องหลินจือ ว่าตอนนั้นเธอถูกพวกเขาคิดคดวางแผน ฝ่ายฟอเรนากรุปก็จะส่งคำแถลงการณ์ออกมาหนึ่งฉบับเช่นกัน ชี้แจงว่า เขายอมรับต่อสาธารชนว่าตัวเองเป็นอดีตสามีที่ถูกกล่าวถึงคนนั้น และยังคอยสนับสนุนและปกป้องเธอ

ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเท่ากับเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของหลินจือทั้งหมด จากท่าทีที่หลินจือปฏิเสธเขาในตอนนี้ เธอต้องโมโหมากแน่ๆ แต่เขาสนใจอะไรมากไม่ได้

คอยแต่ปิดบังไว้ตลอดก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ในเมื่อเธอถูกขึ้นอันดับการค้นหายอดนิยมจากผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้เขาจึงถือโอกาสสารภาพต่อหน้าสาธารณชน ซูซีและพวกจะได้คุกคามเธอไม่ได้อีกต่อไป

แต่เทาเท่ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับหลินจือในตอนนี้ ถึงขนาดคิดหาวิธีเก็บโทรศัพมือถือของเธอไว้กับตัวเอง รอให้คำแถลงการที่เปิดเผยออกมาแพร่สะพัดไปจนทั่ว แล้วค่อยบอกเธอทีหลัง

เมื่อถึงเวลานั้นแม้เธอต้องการให้เขายกเลิกคำแถลงการณ์ ก็สายเกินไปเสียแล้ว

เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อย ขณะที่หลินจือกำลังเอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองบนโต๊ะอาหาร เทาเท่ก้าวมาข้างหน้าเธอก่อนที่มือของหลินจือจะเอื้อมถึง

เขายิ้มแล้วพูดกับสีหน้างงงวยของหลินจือ “บนโลกนี้มีเราอยู่กันแค่สองคน คุณช่วยสอนผมชงกาแฟหน่อยได้ไหม”

เทาเท่พูดขณะกดปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือของหลินจือด้วยสีหน้าราบเรียบ จากนั้นเดินมาโอบไหล่หลินจือที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ตอนนี้ผมดื่มกาแฟฝีมือคุณทุกวันจนเคยชินไปแล้ว คุณสอนผมหน่อยได้ไหม ผมจะได้ชงดื่มเองบ้าง”

หลินจือครุ่นคิด หากตอบตกลง เมื่อเขาชงเป็นแล้ว เธอคงได้เป็นอิสระสักที