คำด่าทอหลินจืออย่างไม่น่าอภิรมย์บนโลกออนไลน์ ซ้ำยังโยงไปถึงตระกูลแม็กซิมัส
จอร์แดนที่ตื่นเช้าขึ้นมา เมื่อได้เห็นข่าวลือเหล่านี้ก็อดสาปแช่งอย่างโกรธเคืองเสียไม่ได้ “ไอ้พวกตัวก่อกวน”
จอร์แดนรู้ว่ามีเพียงเบลซและลูกสาวเท่านั้นที่ทำเรื่องร้ายกาจพวกนี้ได้ จอร์แดนคิดว่า เขาคงต้องไปคุยกับพี่ใหญ่ในวงการการเมืองด้วยตัวเองบ้างเสียหน่อยแล้ว
คนที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเบลซ แม้ปกติไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับตระกูลแม็กซิมัสเท่าไหร่นัก แต่บุคคลเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร อันที่จริงพวกเบื้องบนก็อยากจัดการเขาไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ
สู้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ถอนรากถอนโคนอีกฝ่ายเสียยังดีกว่า และดูสิว่าเบลซจะไปซุกหัวอยู่ที่ไหน
หลังจากคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจอร์แดนจึงโทรหาเทาเท่ เพราะว่ายังเช้าอยู่ น้ำเสียงของเทาเท่จึงเต็มไปด้วยความงัวเงีย และทุ่มเบา
จอร์แดนดุเขาอย่างไม่พอใจ “เป็นชายอกสามศอกทำไมทำเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างกับผู้หญิงอย่างนั้น”
เทาเท่ที่ถูกดุ “…..”
เขาไม่ได้กลัวหลินจือตื่น แต่กลัวจอร์แดนจะรู้ว่าเขากับหลินจือนอนด้วยกัน
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ถือมือขึ้นมาแล้วย่องเบาออกจากห้องนอน จากนั้นเทาเท่จึงใช้น้ำเสียงปกติตอบกลับไป “คุณจอร์แดน โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
จอร์แดนหยั่งเชิงถามอย่างจงใจ “ทำไม ท่าทีไม่กล้าพูดเสียงดังเมื่อครู่ หรือมีผู้หญิงนอนอยู่ข้างๆ”
เทาเท่เม้นปากและปฏิเสธ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ”
จอร์แดนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้ชายบางคนพูดจาไพเราะน่าฟัง แต่อันที่จริงกลับซุกซ่อนผู้หญิงอื่นเอาไว้”
เทาเท่รู้สึกเหมือนตัวเองถูกใส่ร้าย มีหญิงอื่นอะไรกัน แค่หลินจือคนเดียวก็ทำให้เขาต้องรับมือกับความอึดอัดมากพอแล้ว
เขาเองก็ไม่ใช่พวกเรื่องมากเรื่องเยอะอะไร จึงตอบกลับจอร์แดนไปอย่างไม่ใส่ใจ “มีผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆผมคนหนึ่ง คือลูกสาวคุณ”
จอร์แดนเยาะเย้ย “หึหึ เธออยากให้นายดูแลงั้นเหรอ”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถในการทำงานคนเดียวของเธอในตอนนี้ หรือแม้จะไม่มี เขาก็ดูแลเธอได้
จอร์แดนไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเทาเท่ต่อ แล้วพูดวกเข้าประเด็น “เบลซและลูกสาวเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้ว ใส่ร้ายหลินจืออย่างไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลเรื่องที่เธอแต่งงานกับนายตอนนั้น
“รนหาที่ตายจริงๆ” เทาเท่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
จอร์แดนกล่าวว่า “ฉันวางแผนจะไปหาชาร์ลีกับลูกชายของเขา และขอให้พวกเขาออกหน้ายอมรับว่าหลินจือถูกใส่ร้าย”
“ครับ” เทาเท่พูดอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ในอดีตของผมกับหลินจือก็คงปกปิดไว้ไม่ได้ ผมอยากพูดอะไรสักอย่างหน่อย”
จอร์แดนถามเขา “นายจะพูดอะไร”
เทาเท่ตอบว่า “ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นกันด้วยวิธีการแบบไหน ตอนนี้ผมแค่อยากให้เธอไม่ถือโทษโกรธเคือง”
จอร์แดนทอดถอดหายใจ “ค่อยยังชั่วหน่อย!”
คำพูดของเทาเท่เป็นการสารภาพต่อหลินจือทางอ้อม แม้ว่าจอร์แดนจะไม่ชอบเทาเท่มาโดยตลอด แต่ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ คำพูดเหล่านี้ของเทาเท่จะสนับสนุนหลินจือเป็นอย่างมาก
หลังจากทั้งสองคนคุยกันเรื่องนี้เสร็จสรรพ เทาเท่พูดกับจอร์แดนด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมวางแผนจะจัดการเบลซ”
“หืม?” จอร์แดนเลิกคิ้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเราเห็นพ้องต้องกันกับเทาเท่ไปแล้วหรอกเหรอ
เทาเท่พูดอีกครั้ง “เบลซจะอยู่ต่อไปอีกไม่ได้ เขาจะได้ไม่มาคอยสร้างแต่ปัญหาวุ่นวายทั้งวันทั้งคืนแบบนี้”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน” แม้ว่าน้ำเสียงของจอร์แดนจะฟังดูสงบ แต่ไร้ซึ่งความปรานี “แม้คนที่อยู่เบื้องหลังเขา ก็ต้องถูกถอนรากถอนโคนไปด้วย!”
“ครับ” เทาเท่ตอบรับอย่างมีความสุข
ในเมื่อจอร์แดนมีความคิดเห็นเหมือนกัน จึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ทั้งสองต่างเข้าใจกันและกันโดยปริยาย
มีตระกูลแม็กซิมัสคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เรื่องแค่นี้ย่อมไม่ยากเย็นอะไร
หลินจือถูกเทาเท่ลากไปชงกาแฟช่วงสายในห้องครัว และเพื่อให้เทาเท่ได้เรียนชงกาแฟไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากชิมกาแฟแก้วที่เขาชงเองแล้ว ชายหนุ่มแสดงความคิดเห็นว่า “มันไม่ดีเท่าแก้วของคุณเลย”
หลินจือพูดอย่างโกรธเคือง “เทาเท่คุณจะให้ฉันทำให้คุณตลอดเลยรึไง”
เทาเท่ปฏิเสธอย่างจริงใจ “อันที่จริงก็ไม่เชิง ฝีมือของผมมันไม่ได้เรื่องจริงๆ”
“จะได้ไม่ได้คุณก็เป็นคนทำมันเอง คุณต้องดื่มแก้ขัดไปก่อน” เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ร้อยทั้งร้อยคงอยากให้เธอชงกาแฟให้เขาดื่มไปตลอดล่ะสิท่า เพราะเมื่อหลินจือลองชิมที่เทาเท่ทำ มันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เธอทำมากนัก
ในที่สุดหลินจือก็ออกมาจากห้องครัวได้ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองข้างๆ เทาเท่ขึ้นมา
“ทำไมปิดเครื่อง แบตหมดเหรอ” เธอพูดขณะเปิดโทรศัพท์มือถือด้วยความสงสัย ดูเหมือนเธอจะชาร์จไว้ตอนเข้านอนแล้วนะ
เทาเท่เดินออกมาพร้อมกับแก้วกาแฟที่เธอเป็นคนชง “ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมมีธุระต้องไปจัดการสักหน่อย”
พูดจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้หลินจือทำหน้าแปลกใจอยู่คนเดียว
เขาเพิ่งบอกว่าจะไม่ไปไหนไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนใจออกไปกะทันหันแบบนี้ล่ะ
ซ้ำยังถือแก้วกาแฟที่เธอเป็นคนชงออกไปด้วย?
เขานี่มันจริงๆ เลย
หลินจือไม่อยากสนใจเขาให้เสียอารมณ์ หลังจากเปิดเครื่องโทรศัพท์ พลันมีข้อความข่าวเด้งแจ้งเตือนเข้ามา รวมทั้งสายที่ไม่ได้รับ และข้อความจากวีแชทอีกมากมาย
สายที่ไม่ได้รับ สายหนึ่งเป็นจอร์แดน อีกสองสายเป็นเจเทาวน์ และที่เหลือเป็นของนานิ
หลินจือคิดว่านานิมีเรื่องอะไรหรือเปล่า หลังจากได้ฟังข้อความเสียงจากวีแชตที่นานิส่งมาให้ ตอนแรกเธอตกใจมาก แต่ต่อมาความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแล้วค่อยๆ ปะทุขึ้นจนควันออกหู
เทาเท่เปิดเผยว่าพวกเขาเคยเป็นสามีภรรยากัน!
หลังจากที่เธอดึงสติกลับมาได้จึงกดเข้าไปอ่านข่าวทันที แท้จริงแล้วหลินจือถูกใส่ร้ายมาตั้งแต่ต้น อันดับแรกชาร์ลีและลูกชายส่งคลิปวิดีโอมา ชี้แจงว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เป็นพวกเขาที่วางยาเธอและจับเธอไปไว้บนเตียงของเทาเท่
ต่อมาเทาเท่ออกมาแถลงการณ์ผ่านฟอเรนากรุปว่า
ในฐานะอดีตสามีของหลินจือ ผมจำเป็นต้องออกมาพูดบางอย่างในสถานการณ์นี้’
‘ประการแรก หลินจือไม่ได้วางแผนต้องการทรัพย์สมบัติแน่นอน เพราะเมื่อเธอหย่า เธอออกจากบ้านโดยไม่ขอเงินสักบาท’
‘ประการที่สอง ตลอดสามปีที่แต่งงานกัน เธอปฏิบัติต่อผมอย่างดี เป็นผมเองที่ทำให้เธอผิดหวัง’
‘และสุดท้าย ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่าผมกับเธอจะเริ่มต้นกันอย่างไร แต่ตอนนี้ผมอยากให้เธอไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน’
เมื่อคำแถลงการณ์ของฟอเรนากรุปเผยแพร่ออกไป สาธารณชนก็แตกกระเจิง
ทุกคนไม่เพียงแค่ตื่นตระหนกตกใจที่อดีตสามีคนนั้นของหลินจือคือเทาเท่ ต่างลืมความแค้นเคืองเรื่องที่หลินจือใช้วิธีการสกปรกได้อย่างไร้ยางอายเรื่องนั้นไปเสียสนิท
“ถ้าฉันมีโอกาสได้กับเทาเท่สักครั้ง ฉันก็จะทำวิธีการสกปรกแบบนี้เหมือนกัน”
“ทุกคนเขาตาสว่างกันหมดแล้ว พ่อเลี้ยงของเธออยากได้เงินเลยคิดวางแผน พูดตรงๆ ก็คือพ่อเลี้ยงของเธอเป็นคนขายเธอ”
“เชื่อมโยงกับเนื้อหาในเวยป๋อของเธอที่โพสต์ก่อนหน้านี้ และยังมีเงินของนักประพันธ์ชื่อดังที่มอบให้ชาร์ลีและลูกชายอีก ยืนยันได้ว่าคือเทาเท่จริงๆ”
“ตอนที่หย่าเธอไม่ได้ขอเงินแม้แต่บาทเดียวเลยงั้นเหรอ น่าเสียดายจัง แม้ขอเพียงเล็กน้อย เธอก็อยู่ได้อย่างสบายทั้งชาติเลยนะ”
“ตรงประโยคสุดท้ายประธานเทาเท่หมายความว่าอย่างไร ผมหวังว่าหลินจือจะไม่ถือโทษโกรธเคือง เขาเสียใจกับการหย่างั้นเหรอ”
“ก็หมายความตามนั้นแหละ และอีกอย่างตอนนี้มีแนวโน้มอย่างมากว่าเขากำลังเอาครอบครัวกลับคืนมา!”
“อยากเห็นจังว่าคุณหลินจือจะเมินเฉยต่อประธานเทาเท่ได้ยังไง”